แม่ร่ำไห้ถือรูปหน้าโลงร้องปวีณา หมอผ่าคลอดทำลูกสาวเสียชีวิต

12 พ.ย. 66

แม่ร่ำไห้ถือรูปถ่ายหน้าโลงร้อง ปวีณา หลังหมอ ผ่าคลอด ลูกทำลูกสาวเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 12 พ.ย.66 นางรัชนก อายุ 53 ปี พร้อมด้วยสามี ได้เดินทางมาพบนาง ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังจากลูกสาว นางสาวปนัดดา อายุ 34 ปีลูกสาว ซึ่งไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจ.ชุมพร และเสียชีวิต พร้อมกันนี้หลานสาวซึ่งเพิ่งคลอดออกมาก็ยังอยู่ที่โรงพยาบาลยังไม่ได้เจอหน้า

นางรัชนก บอกว่าตนเองมีลูก 2 คน ซึ่งคนที่เสียชีวิตเป็นคนแรกและเป็นเสาหลักของครอบครัว และเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 หมอที่ทำคลอดให้ไปนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เพราะมีกำหนดคลอด วันที่ 20ตุลาคม 2566 ซึ่งเมื่อวันที่18 ต.ค.66 ทางลูกสาวได้โทรศัพท์มาตนเองว่าหมอได้สอดยาเหน็บเข้าไปแล้ว 1เม็ดและลูกสาวก็อาการปกติ ร่างกายแข็งแรงน้ำก็ไม่เดิน และประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ลูกสาวบอกอีกว่าจะอาบน้ำกินข้าวแล้ว ตนเองก็ถามว่าลูกเจ็บไหมลูกบอกว่าไม่เจ็บและหมอก็จะเปิดปากมดลูก จากนั้นก็เงียบหายไป ซึ่งขณะนี้นั้นตนเองทำงานอยู่ที่กรุงเทพ แต่ลูกสาวอยู่ที่จ.ชุมพร จากนั้นหมอก็ผ่าคลอดเอาลูกออกมา ก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต

ซึ่งหมอที่ผ่าคลอดก็ไม่บอกอะไรเลย ขณะนั้นลูกสาวอยู่กับสามี และขณะนี้ก็ยังเฝ้าลูกสาวอยู่ หมอยังไม่ให้หลานออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่คลอด เพราะทางโรงพยาบาลบอกว่าหลานสาวมีการติดเชื้อและทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้คุยอะไรกับตนเองเลย และขณะนี้ยังเก็บศพลูกสาวเอาไว้อยู่ที่โรงพยาบาลชุมพร เพราะขณะนี้ก็ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว

ที่ตนเองมาร้องมูลนิธิปวีณาเพราะต้องการให้ช่วยหาความจริงที่ลูกสาวตนเองเสียชีวิต เพราะสาเหตุอะไรกันแน่ และต้องการให้ทางโรงพยาบาลที่ทำคลอดลูกสาวตนเองเสียชีวิตาเยียวยากันบ้าง

ด้านนางปวีณา หงสกุล กล่าวว่าเคสนี้เป็นเคสที่ลูกสาวไปผ่าคลอดแล้วลูกสาวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ซึ่งไปโรงพยาบาลวันที่18 ต.ค.66 แต่มีกำหนดคลอดวันที่ 20 ต.ค.66 จนเวลาประมาณ 22.00น.ของวันที่ 18 ต.ค.66 ทางลูกเขยได้โทรศัพท์มาบอกว่าลูกสาวอาการไม่ดีต้องผ่าคลอด และเมื่อคลอดมาแล้วก็ต้องพาลูกสาวไปปั๊มหัวใจ ซึ่งขณะนี้ทางหลานสาวที่เพิ่งคลอดยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตนเองก็จะประสานทาง สสจ.จ.ชุมพร หาสาเหตุของการเสียชีวิตของคุณแม่ที่ไปคลอดลูกแล้วเสียชีวิตนั้นเกิดจากอะไร และให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิตชีวิตด้วยว่าผิดพลาดตรงไหน.

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส