มนต์รักเต็นท์รถ หลอกให้รัก ก่อนยืมเงิน 6 ล้าน อ้างไปหมุนธุรกิจ

16 ต.ค. 66

มนต์รักเต็นท์รถ หลอกให้รัก ก่อนยืมเงิน 6 ล้าน อ้างไปหมุนธุรกิจ ต้องทวงถึงจะได้คืน 2-3 พัน ยอมรับลำบากเป็นหนี้นอกระบบ อยากได้เงินคืน 

จากกรณีที่ น.ส.แคท (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ได้มีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่าเมื่อช่วงปี 2564 ถูกอดีตหุ้นส่วนเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง เป็นชายหนุ่มรูปหล่อ เข้ามาติดต่อขอซื้อรถยนต์มือ 2 จากนั้นเข้ามาตีสนิท จีบกันจนชอบพอเป็นแฟนกัน และมีการยืมเงินไปลงทุนต่างๆ รวมความเสียหาย ประมาณ 6 ล้านบาท แต่เมื่อเลิกกันนั้น ได้ทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ ผ่อนจ่ายสัปดาห์ละ 2,000-3,000 บาท 

วันนี้ (16 ต.ค. 66) ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับ น.ส.แคท เปิดเผยว่า นายเกม คู่กรณี ช่วงเดือนประมาณ ก.ย. 2564 ตอนนั้นตนเป็นหุ้นส่วนเต็นท์รถแห่งหนึ่ง นายเกมมาในฐานะลูกค้า มีการซื้อรถที่เต็นท์ของตนเอง จำนวน 2 คัน ซึ่งก็มีการซื้อขายตามปกติ แต่นายเกมคู่กรณี บอกตนว่ามีการซื้อรถไปให้เช่า และทำธุรกิจเกี่ยวกับการเช่า ซื้อขายรถ โดยมีข้อแม้ในเรื่องของการให้ปิดหนี้บัตรเครดิต ในชื่อของอีกคน เพราะนายเกมติดบัญชีแบล็กลิสต์ ไม่สามารถออกรถเป็นชื่อของตัวเองได้  ด้วยความที่ตนเองก็อยากขายรถ จึงทำตามเงื่อนไข 

จากนั้นมีการพูดคุยกันถูกคอ จึงตกลงเป็นแฟนกัน ในระหว่างที่เป็นแฟนกันก็มีการให้ช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์ ช่วยตัดสินใจเลือกบ้าน ดูเหมือนจะมีการพัฒนาความสัมพันธ์ในการสร้างอนาคตไปด้วยกัน ซึ่งนายเกมนำธูปเทียน ลักษณะเป็นพานไปพูดคุยกับทางแม่ของตนเอง เหมือนลักษณะแจ้งให้ทราบว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ มีการเซอร์ไพร์สวันเกิด และเคยช่วยเหลือพี่สาวตนที่ป่วย รู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าลงมาช่วยเหลือแบบนี้ บางครั้งก็พาไปเจอผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นตำรวจใหญ่ ดูเหมือนว่านายเกม มีพาวเวอร์ และสามารถดูแลตนเองได้ 

น.ส.แคท กล่าวต่อว่า ในระหว่างที่คบหาดูใจกัน ก็จะมีเรื่องของเงินมาเกี่ยวข้องด้วย โดยนายเกมอ้างว่าจะมีการนำเงินไปหมุนในธุรกิจการเช่ายืมรถหลักหมื่นจนถึงหลักแสน มีการนำเงินไปว่าจ้างทนายในเรื่องคดีฉ้อโกงเก่าที่เคยถูกดำเนินคดี มีการอ้างเอาเงินไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ซื้อของต่างๆ ให้กับตนเอง รวมถึงการนำเงินไปลงทุน และทำให้เสียผลการลงทุน หนักสุดคือตนต้องไปหากู้ยืมเงินทั้งในระบบและนอกระบบ จนตอนนี้เสียเครดิตทางธนาคารไปแล้ว แต่ยังมีเงินนอกระบบอีกเป็นจำนวนมากที่ยังต้องผ่อนจ่ายเช่นกัน ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้ว มีหนี้สินที่เกิดขึ้นของนายเกมราวประมาณ 6,000,000 กว่าบาท 

ที่ผ่านมามองโลกในแง่ดีเสมอ แม้ว่าคนรอบข้างจะมีการพูดคุยและตั้งข้อสงสัย ถึงพฤติกรรมของนายเกมว่ามันดูแปลกๆ จนกระทั่งมีปากเสียงวิวาทกันหลายครั้ง เวลาทวงเงินที่เคยยืมไป จนนำไปสู่การเลิกรากัน ในระหว่างนั้นก็ได้มีการทวงถามเงิน แต่ก็ไม่ได้รับการคืนเงิน จนกระทั่งนายเกม มีการเสนอให้ทำสัญญา หนังสือรับสภาพหนี้ และจะมีการผ่อนจ่าย แต่มีการจ่ายเพียง อาทิตย์ละ 2,000-3,000 บาท บางอาทิตย์ก็ไม่จ่าย ตอนนี้ตนก็แย่มาก เพราะว่ามีลูกสาวอีกหนึ่งคน และยังมีลูกที่ตั้งครรภ์อยู่ตอนนี้ 8 เดือน 

น.ส.แคท กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกันกับนายเกม ดูเหมือนว่านายเกมจะไม่รู้สึกผิด ซึ่งแม้ว่านายเกมจะมีการถกเถียงกรณียอดเงินที่ไม่ตรงกัน โดยมีการหักลบออกไปประมาณ 500,000 กว่าบาท ในส่วนนี้ตนก็ยอม ถ้ามันจะได้คืนบ้าง และก็ไม่รู้เลยเรื่องข้อกฎหมาย ว่าการทำหนังสือรับสภาพหนี้ ทำให้อายุความฉ้อโกงคดีอาญาหมดอายุ 3 เดือน แต่อย่างไรก็ตามทางทนายได้มีการพูดคุยว่าจะสามารถฟ้องแพ่งได้ 

ขณะเดียวกันตนเองก็ทราบว่า มีผู้เสียหายรายอื่นที่เปิดเผยว่านายเกม คู่กรณีของตนก็มีพฤติกรรมดังกล่าวที่เหมือนกับตน จึงตั้งข้อสงสัยว่าถ้าไม่ให้เรียกว่ามิจฉาชีพจะให้เรียกว่าอะไร

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส