ตำรวจเรียกสอบเพิ่ม “พ่อแม่ - เมียกำนันนก” หลังให้การไม่ตรงกล้องวงจรปิด ด้าน"ทนายความ"ไม่กังวลต่อสู้คดี
15 ก.ย. 66 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของสารวัตรแบงก์ โดยได้เรียกสอบปากคำเพิ่มเติมผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุ
เนื่องจากหลังเจ้าหน้าที่ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วพบว่าให้การไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย นายประโยชน์ จันทร์คล้าย หรือ ผู้ใหญ่โยชน์ พร้อมด้วย ภรรยา และลูกสะใภ้ที่เป็นภรรยาของกำนันนก พร้อมนายเชาว์ แก่นสวาท ทนายความของกำนันนก เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ตามที่พนักงานสอบสวนเรียกมาเพื่อสอบปากคำ
โดยเมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามทนายความกำนันนกว่าได้คุยกับกำนันนกเป็นอย่างไรบ้าง ได้ไปเยี่ยมกำนันนกหรือไม่ และกำนันนกได้ร้องขออะไร หรือกังวลอะไรหรือไม่ หลังตำรวจกู้กล้องวงจรปิดภายในงานได้แล้ว รวมถึงกังวลหรือไม่เกี่ยวกับคดี ซึ่งทนายความตอบเพียงสั้นๆว่าไม่กังวล
นอกจากนี้ยังมีการเรียกสอบบุคคลที่คาดว่าจะเป็นลูกน้องกำนันนกที่อยู่ภายในงานเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าจากกรณีภาพวงจรปิดเห็นรถกระบะ สีดำ 4 ประตู ซึ่งไม่ใช่คันที่เจอที่ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ ขับออกจากที่เกิดเหตุสำนักงานกำนันนก ในวันที่ 6 ก.ย.หลังเกิดเหตุยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตแล้วนำขบวนรถฟอจูนเนอร์สีขาว ซึ่งเป็นรถของกำนันนก ขณะที่หลบหนี
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าคนขับรถคันดังกล่าวคือ รองสารวัตรจราจร สังกัดหนึ่งในจังหวัดนครปฐม เป็นคนขับรถคันนี้ ทางตำรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำแล้ว โดยให้การอ้างว่าหลังเกิดเหตุ ตนเองได้ขับรถเพื่อจะกลับบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านกำนันที่ตำบลตาก้อง จึงใช้เส้นทางเดียวกันและยังบอกอีกว่าตนเองเป็นญาติกับกำนันนก ทั้งนี้รองสารวัตรคนดังกล่าวให้การเป็นประโยชน์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นใครทำอะไรบ้าง
และในวันนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกรองสาวรัตรคนดังกล่าวมาสอบปากคำอีกครั้ง ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ส่วนจะมีความผิดฐานร่วมกันในการพาหลบหนีหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะข้อมูลดังกล่าวที่ได้จากรองสารวัตรนั้นเป็นข้อมูลใหม่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ส่วนข้อมูลจากชุดคลี่คลายคดียืนยันว่าถ้าหลักฐานสาวไปถึงรองสารวัตรคนดังกล่าวว่าอยู่ในที่เกิดเหตุแต่ไม่ให้การช่วยเหลือ ก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
