โจรแสบแฝงตัวตีสนิทช่วยดูแลแม่ สบโอกาสฉกทรัพย์ สูญนับ 10 ล้าน

27 ส.ค. 66

โจรแสบแฝงตัวตีสนิทช่วยดูแลแม่ สบโอกาสฉกทรัพย์ สูญนับ 10 ล้าน

 

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามจับกุม นายศุภนรินทร์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ 70/2566 ลง 7 มีนาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” สถานที่จับกุม ห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายศุภนรินทร์ ผู้ต้องหาซึ่งขอมาอยู่อาศัยด้วยที่บ้าน พร้อมทำทีช่วยดูแลคุณแม่ของผู้เสียหาย ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง จนครอบครัวหลงเชื่อใจ ก่อนที่นายศุภนรินทร์ ผู้ต้องหารายนี้จะเชิดเงินพร้อมทรัพย์สินมีค่าเป็นทองคำแท่งทองรูปพรรณและเครื่องเพชรหนีไป

 

นอกจากนี้ยังยกเค้าที่บ้านญาติของผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก โดยได้ทรัพย์สินไปรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท 

หลังจากได้รับเรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จึงได้ติดตามสืบสวนแกะรอยตัวผู้ต้องหาตลอดมา พบว่า ผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มักจะย้ายที่อยู่ไปในพื้นที่หลายจังหวัด โดยล่าสุด สามารถสืบสวนแกะรอยจนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมากบดานอยู่ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงได้ร่วมกันวางแผนและเข้าทำการจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบยังห้องพักดังกล่าว พบผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ภายในห้องพักดังกล่าวจริง จึงเข้าจับกุมตัว พร้อมตรวจสอบภายในห้องพัก พบทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นของที่ถูกขโมยมาจากผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหารวมทั้งของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยให้การรับว่าผู้ต้องหาได้ลักทรัพย์สินของผู้เสียหายมาจริง แต่ก่อเหตุในช่วงเวลากลางวัน โดยทรัพย์สินที่ได้นำไปขายในสื่อสังคมออนไลน์จนเกือบหมดแล้ว เหลือแค่บางชิ้นที่ตำรวจตรวจยึดได้ หลังจากก่อเหตุที่พัทลุงแล้ว ผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานที่กรุงเทพมหานคร, อุบลราชธานีและตรัง ก่อนจะหลบหนีมาอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ และกำลังเตรียมที่จะหลบหนีไปอยู่ที่อื่น แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน

จากการตรวจสอบประวัติคดีของผู้ต้องหาพบเคยก่อเหตุคดีลักทรัพย์และฉ้อโกง ในหลายท้องที่ หลายจังหวัด เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี พ.ศ.2565 ก่อนจะเข้ามาอยู่ในบ้านของผู้เสียหายและมาก่อเหตุซ้ำ นับว่ามีประวัติคดีเกี่ยวกับทรัพย์มาอย่างโชกโชน.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส