"หมอสงค์" เชื่อ 2 ป.ไม่ขัดแย้ง แยกพรรคเป็นยุทธศาสตร์การเมือง

14 มี.ค. 66

"หมอสงค์" วิเคราะห์การเมือง เลือกตั้ง66 เชื่อ 2 ป. ประยุทธ์-ประวิตร ไม่ขัดแย้ง แยกพรรคเป็นยุทธศาสตร์การเมือง ลั่น! จะปลดแอกประเทศจากอำนาจเก่าต้องแลนด์สไลด์เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.250 เสียง

วันที่ 14 มี.ค.66 นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ หรือ "หมอสงค์" อายุ 87 ปี อดีตส.ส.นครพนมและรัฐมนตรีหลายสมัย โดยการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาปี 2562 เป็นอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทยก่อนที่จะลาออกกลับมาสังกัด "พรรคเพื่อไทย" เหมือนเดิม

เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในฐานะที่ตนทำงานบนเส้นทางการเมืองโดยเปลี่ยนเส้นทางจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ตั้งแต่ปี 2526 หลังรับราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มานานกว่า 2 0ปีก่อนจะสลัดเสื้อกาวน์ลงสมัครเลือกตั้งเป็นส.ส.ป้ายแดงสมัยแรกเมื่อปี 2526 ในนามพรรคชาติไทย

จากนั้นเป็นต้นมาก็ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกตั้งเป็นส.ส.เรื่อยมา โดยได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายสมัย รวมถึงได้ร่วมก่อตั้งพรรคความหวังใหม่กับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ก่อนจะยุบควบรวมกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยจนถึงพรรคเสรีรวมไทย ตามลำดับ

 นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์

นพ.ประสงค์ หรือ หมอคนยากของชาวจังหวัดนครพนม เผยต่อว่า ต้องยอมรับการเมืองที่ผ่านมาในรัฐบาล "บิ๊กตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านไป 8 ปี หลังเข้าทำรัฐประหารมีแต่ความล้มเหลวและประเทศเกิดหนี้สินมหาศาลและเป็นรัฐบาลที่สืบอำนาจจากการเขียนรัฐธรรมนูญเอื้อพวกพ้อง เช่น สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 250 เสียง ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่เป็นการแต่งตั้งจากคนเพียงไม่กี่คน

โดยการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2562 ตนได้มีโอกาสร่วมงานกับพรรคเสรีรวมไทยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากพรรคเพื่อไทยในปีนั้นมีการวางคนลงตัวแล้วจึงต้องหันไปสังกัดพรรคฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน พอมาถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ต้องกลับมาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย โดยถูกวางตัวลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ส่วนผู้สมัคร ส.ส.เขตในพื้นที่นครพนม รวม 4 เขต เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยมีการวางตัวที่เหมาะสมแล้ว

นพ.ประสงค์ กล่าวอีกว่าในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะมาถึงต้องจับตามองเป็นพิเศษกรณี "บิ๊กตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ

ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ส่วน "บิ๊กป้อม" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ดูแลพรรคพลังประชารัฐ หลายคนมองว่าเป็นความขัดแย้งภายใน แต่ตนมั่นใจว่าทั้งสองคน ระหว่างบิ๊กป้อมกับบิ๊กตู่ไม่มีความขัดแย้ง ภาพที่เห็นล้วนเป็นยุทธศาสตร์การเมือง ใช้วิธีแยกกันตีเพื่อสืบอำนาจ สุดท้ายกลับมารวมกันเพราะมีเสียง ส.ว. อยู่ในมืออีก 250 เสียงรอสนับสนุนในการโหวตนายกรัฐมนตรี

ประวิตร วงษ์สุวรรณ

"สิ่งเดียวที่จะสามารถแก้ไขได้คืออำนาจประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยรวมถึงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องร่วมกันปิดสวิตช์ส.ว. พรรคเพื่อไทยจะต้องกวาดที่นั่งไม่ต่ำกว่า 320 เสียง

ที่สำคัญการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของประชาชนที่จะรวมพลังสร้างความเปลี่ยนแปลง เพราะหากไม่สามารถทำได้ อาจจะต้องทนอยู่กับรัฐบาลไปอีกยาวนาน ไม่เพียงแค่ 2 หรือ 4 ปี อาจยาวไปถึง 20 ปี เพราะหากรัฐบาลเผด็จการเข้าเป็นรัฐบาลอีกรอบจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเอื้อพวกพ้องไปอีกหลายปี

ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นนัดชี้ชะตาประเทศไทยที่คนไทยทุกคนต้องทบทวนและรวมพลังล้างระบอบเผด็จการ ต้องนำเอาการเลือกตั้งกทม.ครั้งที่ผ่านมา ที่ฝ่ายประชาธิปไตยชนะเผด็จการแบบท่วมท้นเป็นโมเดลในการปลดแอกประเทศ จะต้องสร้างแลนด์สไลด์ปิดสวิตซ์ส.ว.250 เสียง

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง ฝากประชาชนทุกคะแนนเสียงรวมพลังตัดวงจรการสืบอำนาจเผด็จการ" นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ กล่าว

advertisement

ข่าวยอดนิยม