ย่าฉะ! ขอสะใภ้พูดความจริง หลัง "น้องต่อ"​ หายตัวปริศนาเข้าวันที่ 5

10 ก.พ. 66

วันที่ 10 ก.พ. 66 ความคืบหน้ากรณี เด็กชายต่อศักดิ์ แสงสว่าง หรือ "น้องต่อ" อายุ 8 เดือน หายไปจากบ้านในพื้นที่ ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา ล่าสุด พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ บางหลวง เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมประกาศตั้งเงินรางวัล 10,000 บาท สำหรับคนที่แจ้งเบาะแสจนได้พบตัวน้องต่อ 

197843

จากการตรวจหลักฐานในบ้านพักพ่อแม่ของน้องต่อวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บรายละเอียดภายในบ้านเน้นจุดที่น้องต่อนอนและเล่นในบ้านมากที่สุด และเก็บคราบต่าง ๆ บริเวณที่นอน หมอน มุ้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 
สอบเครียด นิ่ม-พุด พร้อมเก็บดีเอ็นเอตรวจ สื่อฯบุกพิสูจน์จุดลับตาอุ้มน้องต่อ? (คลิป)
ไขคดี ''​น้องต่อ''​ เปิดพิรุธคำให้การพ่อแม่ ตร.เตรียมนำตัวเข้าเครื่องจับเท็จพรุ่งนี้ (คลิป)
4วันยังไร้วี่แวว "น้องต่อ" หายปริศนา ชายคนสนิทพลิกลิ้นมีสัมพันธ์แม่เด็ก (คลิป)

น้องต่อ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบคราบเลือดที่หมอนแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคราบเลือดอะไรต้องส่งตรวจสอบอย่างละเอียด และเตรียมตรวจ DNA ของพ่อและแม่ ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กว่า 1 ชั่วโมง โดยหลักฐานที่เก็บไปนำขึ้นรถไปส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม

719818

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. พันตำรวจเอกพัลลภ สุริยะกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมชุดสืบจังหวัด ลงพื้นที่บ้าน นายประสาน คุ้มทิม อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นตาของเด็กพ่อของ น.ส.นิ่ม อยู่กลางบ่อเลี้ยงปลาพื้นที่กว่า 32 ไร่ ในพื้นที่ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 33 กิโลเมตร

959446

เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพ่อและยายของ น.ส.นิ่ม เพิ่มเติม ก่อนจะเดินสำรวจพื้นที่ตามบ่อและป่าธูปบริเวณใกล้เคียงแต่ไม่พบความผิดปกติใด ๆ 

บ้านน้องต่อ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พา นายสุรชัย แซ่เฮ้ง หรือ นายแจ้ อายุ 55 ปี หนึ่งในคนใกล้ชิด น.ส.นิ่ม มาสอบปากคำในบ้านของพ่อของ น.ส.นิ่ม พร้อมให้ข้อมูลเรียงลำดับเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุกับตำรวจ โดยระหว่างสอบปากคำนายแจ้ นายประสานพ่อของ น.ส.นิ่มก็เดินอยู่รอบ ๆ บ้าน แต่ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยกัน

ลุงแจ้

นายแจ้ ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ กล่าวว่าหลังจากตนได้พูดความจริงเกี่ยวความสัมพันธ์กับ น.ส.นิ่ม ผ่านทางสื่อฯ ก็ไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะถือว่าทั้งหมดเป็นความจริง และเมื่อเช้าตนก็ได้สารภาพเรื่องทั้งหมดกับพ่อของนิ่มที่เป็นเพื่อนสนิทแล้วแต่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน และส่วนตัวก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกเพราะถือเป็นเรื่องในอดีต อยากให้ทุกคนโฟกัสเรื่องที่เด็กหายมากกว่าว่าใครเป็นคนเอาเด็กไปและเด็กอยู่ที่ไหน

ลุงแจ้897946

ซึ่งตนเองพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่มีส่วนเกี่ยวกับการที่เด็กหายไป เพราะช่วงเวลาที่เด็กหาย ตนเองพาพระไปบิณฑบาต ซึ่งพระรูปดังกล่าวที่ไปบิณฑบาตกับตนเมื่อวานได้ให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ทีวีไปแล้ว ยืนยันได้ว่าช่วงที่เด็กหายตนเองไม่ได้เดินทางไปละแวกจุดเกิดเหตุเลย

351922

ด้าน นายประสาน คุ้มทิม อายุ 58 ปี พ่อของ น.ส.นิ่ม ซึ่งเป็นตาของน้องต่อ บอกว่า หลังจากที่ได้ดูข่าวเมื่อคืนก็นอนไม่หลับ เพราะเรื่องบางอย่างตนเองไม่เคยรับรู้มาก่อน โดยเฉพาะเรื่องที่นายแจ้เพื่อนรักของตนแอบไปมีความสัมพันธ์กับลูกสาว หลังจากรู้ความจริงตนเองเสียใจมากเพราะตนเองคบหากับนายแจ้มา 10 ปี ที่ผ่านมาช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด และไว้ใจให้ไปรับไปส่งลูกสาว ไม่คิดมาก่อนว่าเพื่อนรักที่คบกันมานานจะมาทำแบบนี้กับลูกสาวของตน ที่ผ่านมาไม่เคยมีความผิดปกติใด ๆ เลย ลูกสาวก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง หลังจากนี้ขอยุติความสัมพันธ์กับเพื่อนคนนี้ไม่ขอคบต่อ เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมแบบนี้

หากถามว่า นายแจ้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่หลานตนหายหรือไม่ นายประสานกล่าว่า ก่อนหน้านั้นตนเองคิดว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะมองว่านายแจ้เป็นคนดี แต่ตอนนี้ตนเองรู้สึกสับสนไม่รู้ว่ายังมีข้อเท็จจริงอะไรที่ยังถูกปิดอยู่หรือไม่ ตอนนี้จึงฝากความหวังไว้ที่ตำรวจให้ช่วยคลี่คลายคดี ส่วน น.ส.นิ่ม ลูกสาวของตนหลังจากที่หลานหายไปก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก เนื่องจากโทรศัพท์ของตน และโทรศัพท์ของ น.ส.นิ่ม ตำรวจนำไปตรวจสอบ แต่ตนก็ยังเชื่อว่าลูกสาวไม่มีทางขายลูกชายอย่างแน่นอน เพราะนิ่มรักลูกมาก เวลาไปที่ไหนจะพาลูกไปด้วยตลอดไม่เคยห่าง จึงเชื่อว่าการที่เด็กหายไปในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับลูกสาวตน และขอฝากถึงคนที่ขโมยหลานไปให้เอามาคืน

935455

ขณะที่ พระวัชรินทร์ นาถะธรรมโม เป็นพระลูกวัดโฆสิตาราม พระที่นายแจ้พาไปบิณฑบาต ยืนยันว่านายแจ้ได้พาอาตมาไปบิณฑบาตรจริง เนื่องจากที่ผ่านมานายแจ้จะมาคอนช่วยงานวัดและพาพระไปบิณฑบาตทุกเช้า โดยวันที่ 5 ก.พ. 66 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุที่เด็กหาย นายแจ้เดินทางมาที่วัดตั้งแต่เวลา 05.30 น. ก่อนจะขับรถซาเล้งพาอาตมาไปบิณฑบาตในเวลา 06.30 น. และกลับมาที่วัดในเวลา 08.00 น. ยืนยันว่านายแจ้เป็นคนดีชอบช่วยเหลือวัด

แม่น้องต่อ

ด้าน น.ส.นิ่ม แม่ของน้องต่อ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมุ่งประเด็นไปที่คนภายนอกที่เอาตัวลูกชายไป เพราะว่าคนภายในครอบครัวหรือคนในหมู่บ้านถูกตรวจสอบหมดแล้วซึ่งพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนคาดว่าน่าจะเป็นคนที่เคยเห็นน้องต่อระหว่างทางที่ตนพาน้องต่อเดินทางไปที่บ้านของพ่อ

740644

ทั้งนี้ตนยอมรับว่า ในช่วงเย็นวันที่ 4 ก.พ. 66 เวลาประมาณ 6 โมงถึง 1 ทุ่ม ได้มีปากเสียงกับสามีจริง ซึ่งเป้ยเนื่องเล็กน้อยเรื่องมุ้งเพราะแฟนขึงมุ้งแล้วล้มลงมา ตนจึงไร่แฟนออกจากมุ้งพร้อมกับบอกว่า “มึงออกไปเหอะออกไปข้างนอกก่อน เดี๋ยวจะเก็บมุ้งทิ้ง” จากนั้นเวลา 4 ทุ่ม ก็ได้นั่งกินหมูกระทะด้วยกันที่บ้าน ก่อนที่จะเข้านอนเวลาประมาณเที่ยงคืน ซึ่งตนให้ลูกนอนบนหมอนติดกับกล่องพัดลม ส่วนตนนั้นนอนข้างลูก สามีนอนติดกับกำแพง

553687608132

เช้าวันที่ 5 ก.พ. 66 เวลาประมาณตี 5 ตนตื่นขึ้นมาชงนมให้ลูก ขณะนั้นตนยังเห็นน้องต่อนอนอยู่บนหมอนในมุ้งครอบ ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่เห็นว่ามีใครเดินเข้ามาในบ้านเลย จากนั้นตนได้กลับไปนอนต่อจนถึงเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ตนรู้สึกว่ามีคนมาอุ้มลูกไปจึงลืมตาขึ้นเห็นแปปเดียวว่าเป็นคนใส่เสื้อสีเหลือง

ซึ่งเหตุผลที่ตนไม่ได้เดินตามไปเป็นเพราะว่า คิดว่าเป็นเพื่อนบ้านมาอุ้มน้องต่อไปเล่น อุ้มพาไปเดินแถวบ้าน ทำให้ตนไม่เอะใจเพราะว่าคนแถวบ้านมักมาเล่นกับน้องต่อตอนเช้า ๆ บางครั้งก็มาทักทายอยู่เป็นประจำ แต่ว่าไม่เคยมีใครมาอุ้มออกจากห้องไป ซึ่งวันนั้นตนไม่ได้มีประตูปิดคนนอกสามารถเดินเข้าออกได้ตลอดเวลา ส่วนคนเสื้อเหลืองที่ตนเห็นว่าอุ้มน้องต่อไปตนยังนึกไม่ออกว่าลักษณะคล้ายกับใคร

ในส่วนของประเด็นที่แม่สามีของเธอติดใจในเรื่องความสัมพันธ์กับคนชื่อแจ้ และเชื่อว่าตนอาจจะเอาลูกไปฝากคนชื่อแจ้เลี้ยงนั้น ตนยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนและคนชื่อแจ้นั้นเกิดขึ้นมานานแล้วเป็นเรื่องในอดีตเคยคบหากัน ก่อนที่จะมาคบกับแฟนคนปัจจุบัน

ยอมรับว่าคนชื่อแจ้เคยมาอุ้มน้องต่อเพราะเอ็นดูตามประสาของผู้ใหญ่ ซึ่งน้องต่อจะให้อุ้มแค่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น คนที่จะอุ้มน้องต่อได้มีเพียง พ่อ แม่ ยายและนายแจ้ที่อุ้มได้เพียงแป๊บเดียว สามีของตนก็ทราบมาตลอดว่า คนชื่อแจ้แวะมาที่บ้านและเคยมาอุ้มน้องต่อ แต่ขอยืนยันว่าปัจจุบันไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคนชื่อแจ้แล้ว

981734

ส่วนประเด็นที่แม่สามีของเธอติดใจว่าน้องต่อจะเป็นลูกของคนชื่อแจ้หรือเปล่านั้น น.ส.นิ่ม ยืนยันว่า น้องต่อไม่ใช่ลูกของคนชื่อแจ้อย่างแน่นอน ปัจจุบันคนชื่อแจ้จะมารับตนจากบ้านเพื่อพาไปหาพ่อของเธอเวลามีธุระจำเป็นเท่านั้น ซึ่งพ่อของเธอจะเป็นคนขอให้คนชื่อแจ้มารับให้ไปหาที่บ้านแทนพ่อในกรณีที่พ่อไม่ว่าง

ในเรื่องความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างเธอกับคนชื่อจานั้นแฟนของเธอพึ่งมารู้ในวันนี้ซึ่งเธอไม่เคยบอกมาก่อน ซึ่งคนที่เธอไม่สงสัยเลยว่าคนที่จะเอาลูกของเธอไปก็คือคนชื่อแจ้ เพราะมีหลาน ๆ เหมือนกันทำให้เธอไม่สงสัยเลยว่าจะเอาลูกของเธอไป

143113177082

น.ส.นิ่ม ยอมรับว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบเรื่องที่พ่อของน้องต่อจะเอาลูกไปขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบัญชีของพ่อน้องต่อก็มีเพียงเงิน 4,900 บาท ที่เข้ามาในวันที่ 5 ก.พ. 66 เท่านั้น ซึ่งเป็นเงินเดือนของพ่อน้องต่อ ยืนยันว่าไม่ได้เอาลูกไปขายให้ใครอย่างแน่นอน ตอนนี้ยอมรับว่าคิดถึงลูก รู้สึกโล่งไปหมดเพราะปกติลูกจะมาปีนเล่นที่ตัวเธอมาอ้อนให้อุ้ม ตอนนี้อ้างว้างไปหมด แม้ว่าคนทั่วไปจะเห็นว่าเธอไม่ร้องไห้แต่ว่าลูกของเธอยังอยู่ในใจเธอตลอด เพียงแต่เธอไม่ได้พูดออกมา ตอนนี้เธอนั้นไม่มีเรื่องปิดบังเรื่องทุกอย่างเธอได้พูดออกมาหมดแล้ว

ส่วนเรื่องโทรศัพท์เธอใช้ทั้งหมด 3 เครื่อง เธอใช้ก่อนที่ลูกจะหาย 2 เครื่อง พังไป 1 เครื่อง และโทรศัพท์ของพ่อเธอที่ใช้หลังจากที่เป็นคดีความแล้วอีก 1 เครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำโทรศัพท์ทั้ง 3 เครื่องไปตรวจสอบแล้ว จะได้กู้แชตทั้งหมดในโทรศัพท์ของเธอซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าเธอได้แชตไปบอกกับใครหรือเปล่าว่าให้มาเอาลูกไป หลังจากตรวจสอบก็พบเพียงว่าเธอได้แชตสั่งขนมเท่านั้น

ทั้งนี้ตนอยากจะบอกกับคนในหมู่บ้านทุกคนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปสอบ ในส่วนของตัวเธอเองนั้นไม่ได้สงสัยคนในหมู่บ้านเลยอยากให้เข้าใจว่าตำรวจนั้นทำตามหน้าที่ ซึ่งทุกคนมองว่าเธอทำให้ทุกคนนั้นเดือดร้อนต้องถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ อยากให้เห็นใจและเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นทำตามหน้าที่เท่านั้น

459989

ด้าน นายสิทธิโชค แสงสว่าง หรือ พุด อายุ 19 ปี พ่อของน้องต่อ เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้ติดใจในความสัมพันธ์ระหว่างนิ่มกับนายแจ้และไม่อยากจะพาดพิงอยู่แล้วเพราะที่ผ่านมาตนและนิ่มเองใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกัน ซึ่งนายแจ้เองก็ไม่ได้รู้เหตุการณ์กับเราด้วย ซึ่งตนเองไม่เคยเห็นนายแจ้อุ้มน้องต่อ แต่รู้ว่าเคยเข้ามาเยี่ยมและเอาขนมเข้ามาฝากน้องต่อ ในเรื่องความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างนิ่มกับแจ้นั้นต้นเพิ่งมาทราบวันนี้ตนเองนั้นก็ไม่ได้ติดใจในเรื่องอดีตที่ผ่านมา

น้องต่อ

ส่วนกระแสสังคมมองว่า น้องนิ่มหรือผู้เป็นแม่นั้นเป็นคนทำให้น้องต่อหายตัวไป ตนไม่ได้มองแบบนั้น ส่วนตัวมองว่าคนนอกเป็นคนทำมากกว่า เพราะถ้าเป็นคนในหมู่บ้านจริง ๆ เรื่องดังใหญ่โตขนาดนี้ป่านนี้คงรับสภาพไปแล้ว และหากว่าหลังจากนี้น้องนิ่มออกมาพูดความจริงหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกหายตัวไปตนก็พร้อมที่จะให้อภัย ตนเองก็เป็นห่วงลูกและอยากให้ลูกอยู่ด้วยตลอดก็ไม่อยากให้ลูกไปอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่น ซึ่งก็มั่นใจว่าทุกวันนี้น้องนิ่มนั้นพูดความจริงทุกอย่างแล้ว

ตนยอมรับกับว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเค้นสอบว่าเอาลูกไปขายหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นติดใจอยู่ใน 3 ประเด็น 1.คือเอาลูกไปขายใครหรือไม่ 2. เอาลูกไปฝากให้ใครเลี้ยงหรือเปล่า 3. ทำลูกเสียชีวิตเองหรือเปล่าหรือเอาเด็กไปวางไว้ตรงโน้นตรงนี้แล้วมากุเรื่องว่าลูกโดนอุ้มไป ซึ่งใน 3 ประเด็นนี้ ตนก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจและได้บอกกับตำรวจไปแล้วว่าตนนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

230264

ขณะที่ นางจำเนียร แม่ของนายพุดย่าของน้องต่อ เปิดเผยว่า ตอนนี้เธอเป็นห่วงน้องต่อมากและสงสัยแฟนเก่าของลูกสะใภ้ก็คือนายแจ้ เพียงคนเดียวเท่านั้นตนไม่สงสัยคนอื่นเลย ซึ่งตนทราบว่านายแจ้เคยมารับมาส่ง น.ส.นิ่ม อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าทั้ง 2 คนนั้นเคยได้กันหรือเปล่า ปัจจุบันยังติดต่อกันหรือไม่นั้น ตนเองก็ไม่ทราบเพราะว่าอยู่บ้านคนละหลัง

ซึ่งตนเองก็ไม่เคยเห็นนายแจ้มาอุ้มน้องต่อมาก่อน ตอนนี้เธอห่วงว่า น.ส.นิ่ม ลูกสะใภ้จะเอาลูกไปให้แฟนเก่าเลี้ยง นอกจากนี้ตนยังโกรธ น.ส.นิ่ม ที่ทำให้คนบ้านใกล้เรือนเคียงต้องมาเดือดร้อน ต้องไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนอยากจะบอกกับ น.ส.นิ่ม ว่าถ้าเกิดรู้เห็นเป็นใจอะไรก็อยากให้ออกมาพูดและอยากให้เอาหลานกลับมาอยู่ที่บ้าน

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส