คนอกหักระวัง! หัวใจสลาย ทำให้ถึงตายได้

29 ม.ค. 65

เดือนกุมภาพันธ์คือเดือนแห่งความรักที่มีวันสำคัญอย่างวันวาเลนไทน์อยู่ วันพิเศษที่ทำให้คนมีความรักได้มีความสุข เฉลิมฉลองร่วมกันกับคู่ของตัวเอง หรือทำให้ใครอีกหลายคนได้มีความรักจากการถือฤกษ์สารภาพความรู้สึกที่มีต่อฝ่ายตรงข้ามในวันนี้ แต่ในขณะที่ใครหลายคนมีความสุขกับความรัก เหล่าคนโสดหรือคนช้ำรักอาจต้องเจ็บจี้ดหัวใจมากกว่าเดิม จากภาพความรักหวานซึ้งที่มองไปทางไหนก็มีแต่คู่รักที่ร่วมกันฉลองวันพิเศษแสนหวานนี้

ซึ่งในวันนี้เราจึงอยากจะมาเตือนเหล่าคนช้ำรักทั้งหลาย ให้คอยตรวจดูสภาพจิตใจของตัวเอง เพราะการอกหักก็สามารถทำให้คนเราถึงแก่ความตายได้headache-head-ache-pain-headโดยสาเหตุมาจากสภาวะที่เรียกว่า ภาวะหัวใจสลาย หรือ Broken Heart Syndrome มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Stress-induced Cardiomyopathy, Takotsubo Cardiomyopathy หรือ Apical ballooning syndrome คือ ภาวะที่ความสามารถในบีบตัวของหัวใจลดลงอย่างเฉียบพลัน โดยสาเหตุของโรคยังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ทางการแพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจากฮอร์โมน Catecholamine ที่สูงขึ้นเฉียบพลันจากความเศร้าเสียใจหรือความเครียดอย่างมาก จนอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและเสียชีวิตได้messageimage_1643449561661ถึงแม้ชื่อของภาวะนี้จะแปลตรงตัวว่า โรคคนอกหัก แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้สามารถเป็นได้หลายอย่างซึ่งล้วนเกิดจากความเครียด เช่น การสูญเสียคนรัก การหย่าร้าง ความเจ็บป่วยทางการแพทย์ ปัญหาการงาน การเงิน ความผิดหวังอย่างรุนแรง ยาเสพติด ฯลฯ โดยความเครียดทั้งในระยะสั้นและระยะยาวสะสมเหล่านี้ อาจทำให้หลอดเลือดหดตัว หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดและล้มเหลวได้ และอาการส่วนใหญ่ที่พบคือ เจ็บหน้าอกรุนแรงอย่างกะทันหันคล้ายอาการของภาวะหัวใจขาดเลือด นานหลายนาทีหรือเป็นชั่วโมง หน้ามืด ความดันเลือดต่ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หายใจลำบาก มีภาวะน้ำท่วมปอดmessageimage_1643449490846ในเรื่องของการรักษาภาวะ Broken Heart Syndrome ส่วนใหญ่ต้องรับไว้รักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล มีอาการตั้งแต่น้อยจนถึงมากและรุนแรงได้เช่นกัน วิธีการรักษาหากไม่รุนแรงอายุรแพทย์โรคหัวใจจะให้การรักษาด้วยยา สำหรับกรณีที่รุนแรงและมีภาวะหัวใจล้มเหลวร่วมด้วยอาจต้องมีการใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ และต้องรักษาภาวะเครียดที่เป็นปัจจัยกระตุ้นร่วมด้วย จากรายงานวารสารต่างประเทศส่วนใหญ่หัวใจจะกลับมาปกติ มีโอกาสเสียชีวิตน้อยประมาณ 1% โอกาสเป็นซ้ำได้ 2 – 5%

ซึ่งเรามารถป้องกันภาวะนี้ได้โดยการดูแลสภาพจิตใจของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทำใจให้สบาย ไม่เครียด ปรับมุมมอง เปลี่ยนความคิด นั่งสมาธิ พูดคุยกับคนในครอบครัวและเพื่อน เพื่อแบ่งปันเรื่องราวและปัญหา อย่าแบกความเครียดไว้คนเดียว รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหมั่นตรวจเช็กสุขภาพทุกปี

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส