กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv plus" โพสต์ข้อความระบุว่า "#แม่โดนพ่อเลี้ยงทำร้ายเสียชีวิต มีแผลตามตัว #แต่แพ้คดี! ยังงัยคะ! แม่ถูกทำร้ายร่างกาย #ถูกพ่อเลี้ยงตี ราดด้วยยาฆ่าหญ้า สารเคมีซึมเข้าร่างกายผ่านกระแสเลือด ทำให้ตับ ไ9 ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวและเสียชีวิต #มีแค่หลักฐานคลิปเสียง แต่ไม่มีประโยชน์เลย ดำเนินคดีใช้เงินมากมาย สุดท้ายก็แพ้คดี #เพราะเราไม่มีเงินสู้ ได้แต่ขอภาวนาให้เวรกรรมตามทันให้เร็วที่สุด ก่อนเสียแม่ทรมานมาก ๆ เพราะระบบหายใจล้มเหลว เหมือนเป็นคนโรคหอบ หายใจแรงและเหนื่อยมาก”
ล่าสุดวันที่ 24 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ลักษณะบ้านไม้ชั้นเดียว โดยที่เกิดเหตุเป็นหลังบ้าน
นายณรงค์ ขุนคงมี อายุ 69 ปี พ่อเลี้ยง เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 14 พ.ค.64 ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินทางมาที่บ้านของตนด้วยอาการมึนเมา ส่วนตนได้นั่งคัดสะตอ พอมาเจอนางวี (ภรรยาเก่า) ผู้ตายได้มีอาการหึงหวง ไล่เอามีดมาแทง ตนรีบแจ้งไปที่กำนัน เพื่อให้มาระงับเหตุ จากนั้นได้ให้ลูกชายของผู้ตาย 2 คนมารับผู้ตายที่บ้านของตน สักพักผู้ตายจ้างวานให้เด็กแถวบ้านเข้ามาส่งที่บ้านของตนอีกครั้ง ก่อนที่จะมาโวยวาย และสอบถามว่าตนจะไปไหน ตนจึงบอกว่าจะเอาสะตอไปส่งกำนัน ผู้ตายได้ขอไปด้วย พอถึงกลางทางผู้ตายขอลง ตนจึงจอดรถให้ลง
เมื่อส่งสะตอเสร็จ ตนได้เดินทางกลับบ้านมา ผู้ตายเดินมาจากไหนไม่ทราบ เอาถุงกาแฟโยนมาให้ตน ตนก็บอกว่าไม่กิน ผู้ตายเดินมาข้างบ้าน ซึ่งมีแคร่ตั้งกระติกน้ำสีแดงอยู่ ผู้ตายเดินวนไปวนมา ตนคาดว่าผู้ตายน่าจะดื่มน้ำ ก่อนที่จะเดินกลับมาหาตน พร้อมกับถือแก้วน้ำสีเขียวมา ได้นั่งลง ส่วนตนอยู่ข้างโอ่งน้ำไม่ไกลกันมาก พร้อมกับเอ่ยปากว่า จะตายให้ดู ขณะนั้นตนไม่ทราบว่าในแก้วเป็นยาฆ่าหญ้า จึงปัดกระแทกหน้า ยาฆ่าหญ้าในแก้วหกใส่บริเวณด้านหลังและตามร่างกายของผู้ตาย
จากนั้นผู้ตายไม่มีอาการอะไร ได้ไปนั่งที่แคร่ ตนพยายามบอกให้ไปล้างตัว ขณะเดียวกันลูกชายของผู้ตายเดินทางมาที่บ้านตนพอดี จึงบอกให้เขาพาผู้ตายไปล้างตัว เนื่องจากถูกยาฆ่าหญ้า ต่อมาตนทราบว่าผู้ตายล้มป่วย ตนพยายามติดต่อ แต่ทางลูกของผู้ตายขัดขวาง โทรศัพท์ไปหาก็ไม่ให้รับสาย จะส่งเงินไปให้เขาก็ไม่รับ พอทราบว่าเขาเสียชีวิต ตนก็เสียใจ ทางครอบครัวของตนก็ไม่ให้ไปร่วมงาน ได้แต่ส่งพวงหรีดไปร่วมแสดงความเสียใจ
ทั้งนี้ ตนมองว่าหากไปถึงบ้านแล้วลูกชายเขาพาไปอาบน้ำ คงไม่เกิดเหตุแบบนี้ และตนไม่มีเจตนาที่จะปัดแก้วน้ำของผู้ตาย ตนไม่คิดว่าในแก้วจะมียาฆ่าหญ้า ที่ผ่านมาตนไม่เคยมีปัญหาหรือทำร้ายร่างกายผู้ตาย โดยตนคบหาดูใจกับผู้ตายได้ 4 ปี ซึ่งตอนแรกก็อยู่ด้วยกัน แต่ภายหลังผู้ตายมึนเมา ลูกของตนจึงบอกให้กลับมาอยู่ที่บ้าน จากนั้นก็ไปมาหาสู่กันบ้าง หากผู้ตายเมา เขาก็จะมาหาตนที่บ้าน หากไม่เมาเขาก็จะไม่มา ส่วนความสัมพันธ์ของครอบครัวตนและผู้ตายนั้น ไม่เป็นเหมือนเดิม เพราะลูกชายคนที่ 3 ไม่พอใจ และไม่ยอมมาเจรจาพูดคุยกับตน และหากจะให้ตนติดตุกตนมองว่าเกินไปหรือไม่ ส่วนค่าปรับตนก็นำเงินไปมัดจำที่ศาล 50,000 บาท
ด้านนางลาวี สิงหาวรณ์ อายุ 60 ปี ภรรยาเก่าของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้านายณรงค์ ได้โทรศัพท์มาหาตน เพื่อจะให้ตนมาช่วยทำสวน ตนก็ตอบตกลง เพราะความสัมพันธ์ของตนกับนายณรงค์ ได้แยกกันอยู่ เมื่อมาถึงบ้านของนายณรงค์ ตนพบเห็นผู้ตาย ซึ่งเขาอยู่ในอาการมึนเมา โดยนายณรงค์ ได้แนะนำให้ตนรู้จัก ขณะนั้นตนไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไร เพราะตนได้แยกกันอยู่กับนายณรงค์ มานานแล้ว
ภายหลังทีมข่าวได้เดินทางพูดคุยกับนายภาคภูมิ ช่ออัญชัญ อายุ 32 ปี ลูกชายคนที่ 2 ของผู้ตาย เปิดเผยว่า แม่ของตนและพ่อเลี้ยงอยู่กินด้วยกัน 4 ปี แต่ได้แยกกันอยู่อาศัย มีบ้างที่ไปหากัน ภายหลังจากเกิดเหตุได้พาแม่อาบน้ำแล้ว แต่ยาฆ่าหญ้าซึมเข้าร่างกาย กระทั่ง 2-3 วัน อาการของแม่ทรุดลง จึงพาไปหาหมอ ส่วนพ่อเลี้ยงก็ไม่เคยมาเยี่ยมผู้เป็นแม่
จากนั้นน้องชายคนที่ 3 จึงได้ไปแจ้งความเอาผิดพ่อเลี้ยง โดยมีกำนันเป็นคนกลาง เข้ามาเจรจาให้กับครอบครัวของตนและครอบครัวพ่อเลี้ยง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ครอบครัวจึงตัดสินใจไม่ให้พ่อเลี้ยงมายุ่งเกี่ยว ส่วนในเรื่องของคดีความนั้น ตนไม่ทราบปล่อยให้เป็นหน้าที่ของน้องชายคนที่ 3
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไร ตนเคารพในการตัดสินของศาล ที่ผ่านมาขณะที่แม่อยู่กินกับพ่อเลี้ยงนั้น ไม่เคยถูกทำร้าย มีเพียงปากเสียงกันเท่านั้น ทั้งนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุยอมรับว่าครอบครัวของตนและพ่อเลี้ยงนั้น ไม่สนิทกันเหมือนแต่ก่อน ส่วนตัวแล้วไม่ได้อาฆาตแค้นอะไร ต่างคนต่างอยู่
