จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ชาวบ้านเห็นรถเก๋งจอดอยู่ริมถนนบริเวณ ใกล้สี่แยกโรงพยาบาลลำพูน ถนนตัดใหม่เหมืองง่า-ท่าจักร หมู่ 11 ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน หลายวันจนผิดสังเกต จึงมีการเดินมาดูพบว่ามีคนตายอยู่ภายในรถ จึงแจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 30 นาที ในการเปิดประตูรถออก พบว่าภายในรถมีศพหญิงวัย 50 ปี ทราบชื่อภายหลังคือ นางสาวกิ่งดาว ในยะแจ่ม หรือ ต้อย เจ้าของฟาร์มเห็ด และมีบ้านอยู่ที่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน อยู่ในสภาพนอนคว่ำระหว่างเบาะคนขับ และเบาะข้างคนขับ ศีรษะห้อยไปทางหลังเบาะ ตามร่างกายเริ่มเน่าเปื่อย มีกลิ่นคละคลุ้งและคราบน้ำเหลือง แพทย์คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน จึงนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลลำพูนทันที
ทั้งนี้ พบเตาอั้งโล่ 1 เตาพร้อมเถ้าถ่านด้านใน 3-4 ชิ้น และมีถุงถ่านที่ยังไม่ได้แกะอีก 1 ถุง ไฟแช็ก 1 ชิ้น วางอยู่หลังเบาะนั่งคนขับด้วย ใกล้เตาอั้งโล่ พบจดหมายที่ผู้ตายเขียนด้วยดินสอสีดำวางอยู่ด้วย
โดยระบุว่า "กราบเท้าแม่ที่เคารพ ลูกคงไม่มีโอกาสกราบเท้าแม่อีกแล้ว ตั้งแต่จำความได้ลูกไม่เคยมีคุณงามความดีในสายตาแม่เลย แต่ก็ภูมิใจนะคะที่ได้เกิดมาเป็นลูกแม่ ขออโหสิกรรมกรรมกับทุกๆอย่างที่ผ่านมา ลูกรักและเคารพแม่เสมอด้วย เบนจี้ (ลูกชาย) คำพูดเบาๆของลูก แม่ไม่เคยโกรธเลย แม่รักลูกนะ รักมาก อโหสิกรรมให้แม่ด้วยนะลูก น้องมิ้ว (ลูกสาว) ต่อนี้ไป ดูแลตัวเองนะ หนูโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว แม่รักลูกนะ แม่เสียใจที่ทำอะไรโง่ๆแบบนี้ รักนะคะ แม่ น้องมิ้วลูกรัก แม่รักลูกนะคะ แต่แม่คนนี้ทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ไม่ได้ แม่เป็นแม่ที่แย่ที่สุด ดูแลตัวเองนะคะ รักมากมาย แม่"
นอกจากนั้น ในจดหมายฉบับดังกล่าวยังมีข้อความด่าทอพร้อมสาปแช่งบุคคลประมาณ 3 คนว่า "บ่าชา จ๊าดหมา บ่าส่ง จ๊าดหมา บ่าหนั่น จ๊าดหมา บ่า 3 จ๊าดหมา 55 กูจะจองเวรจองกรรมทุกชาติไป"
นางพรเพ็ญ จันทร์แจ่ม พี่สาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ยอมรับว่านางสาวกิ่งดาวมีโรคประจำตัวความดันสูง และเคยติดคุกอยู่ 6-7 เดือน คดีฉ้อโกงที่ สภ.เมืองลำพูน เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณต้นปี 2564 ตอนนั้นเขาเปิดฟาร์มเห็ดอยู่แล้ว 1 หลัง แต่ตอนเข้าคุกด้านของลูกสาวก็เป็นคนดูแลให้ และด้วยความที่ผู้ตายมีบุคลิกเงียบไม่สุงสิงกับใคร จึงไม่ค่อยมีเพื่อน ทุกวันตนเห็นว่าเขามักจะตื่นตอนตี 1-2 แล้วก็เข้าโรงเพาะเห็ด ทุกวันจะมีรถเข้า-ออกบ้านตลอด ไม่รู้ว่าเป็นลูกค้าซื้อเห็ดหรือไม่ และถ้าเขาจะออกจากบ้านแต่ละที ก็คือไปส่งเห็นที่ตลาด แล้วก็ซื้อกับข้าวมาฝากตนกับแม่ ไม่ค่อยมีใครรู้เลยว่าเขามีความเครียดเรื่องโดนโกง เรื่องหนี้นอกระบบก็ไม่รู้
ช่วงสายของวันที่ 14 ต.ค. 64 ตนนั่งอยู่หน้าบ้าน ก็เห็นว่าผู้ตายขับรถออกไปคนเดียว ตอนแรกคิดว่าไปส่งเห็ด แต่หลังจากนั้นก็ไม่กลับมาบ้านอีกเลย ทำให้ทั้งลูกสาวและลูกชายต่างพากันตามหา โทรหาทุกวัน แต่ผู้ตายปิดโทรศัพท์ จนมาเจออีกทีคือเป็นศพไปแล้ว ตอนนั้นทุกคนคิดไม่ถึงว่าเขาจะฆ่าตัวตายด้วยภาวะเครียด ส่วนกับข้อความที่ผู้ตายเขียนถึงแม่นั้นรับรู้แล้ว เพราะลูกชายผู้ตายมาอ่านให้ฟัง
ซึ่งก่อนและหลังเกิดเหตุ ตนกับแม่ไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไรเลย มีแค่ลูกชายของผู้ตายที่มาบอกกับตนว่า ตอนเช้าประมาณ 07.00 น. ของวันที่ 20 ต.ค. 64 ขณะอาบน้ำจะออกไปทำงาน ได้กลิ่นเหม็นเหมือนศพลอยเข้ามา แล้วตอนเย็นก็มารู้ว่าแม่ตายแล้ว จึงเชื่อว่าผู้ตายคงมาบอกให้รู้ก่อนพบศพ
ด้านนายณัฐธีร์ โพธิ์ศาสตร์ กำนัน ต.บ้านกลาง บอกว่าสาเหตุที่นางสาวกิ่งดาวตัดสินใจฆ่าตัวตาย คงเครียดเรื่องหนี้สินและเรื่องราวปัญหาในอดีต อย่างในจดหมายตนมองว่าผู้ตายคงเขียนด่า สาปแช่งคนที่เคยทำให้ตนเดือดร้อน มีชื่ออดีตแฟนของผู้ตายที่มีลูกด้วยกัน 1 คน เลิกรากันไปเมื่อประมาณปี 2560 เนื่องจากตอนที่ทั้งคู่คบกันมีการทำธุรกิจเกี่ยวกับอู่ซ่อมรถและขายรถมือสอง แต่ก็มีปัญหากันมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องเงิน จนกระทั่งทำให้ผู้ตายต้องโดนออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกง เพราะทั้งคู่ร่วมกันทำเช็คเด้ง 1 แสนบาทให้ลูกค้า แล้วลูกค้าไปแจ้งความ แต่ด้วยความที่ชื่อในบัญชีเป็นชื่อของผู้ตาย จึงทำให้โดยหมายจับคนเดียว ธุรกิจทั้งหมดก็เลยล่ม
จนกระทั่งเมื่อปี 2562 ผู้ตายได้ลงทุนเปิดฟาร์มเห็ด 1 หลัง แต่เมื่อต้นปี 2563 ในขณะที่ผู้ตายเปิดฟาร์มเห็ดไปได้ประมาณ 1 ปี ตำรวจ สภ.เมืองลำพูน ก็เข้ามาจับกุมที่บ้าน ตามหมายจับในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ตายหลบหนีมาโดยตลอด ครั้งนั้นจึงเข้าคุกอยู่ 6-7 เดือน จากนั้นพอพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 2564 ก็เห็นว่าผู้ตายมากู้กองทุนหมู่บ้านไป 20,000 บาท เพื่อลงทุนทำฟาร์มต่ออีก 2 หลัง แต่ก็มีการส่งเงินให้กองทุนอยู่ตลอด ส่วนเรื่องของหนี้นอกระบบร้อยละ 20 แล้วมีคนเข้ามาทวงหนี้นั้น ที่ผ่านมาตนยังไม่ได้รับแจ้งจากผู้ตาย และครอบครัวของผู้ตายโดยตรง ซึ่งถ้ามีจริง ๆ แล้วมีการเข้ามาปรึกษา ตนก็จะจัดการแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ อาจจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
