ผัวโหดเล่านาทียิง เมียไหว้ขอชีวิตตายต่อหน้า อ้างปืนลั่น ญาติแฉเคยขู่ฆ่ายกครัว (คลิป)

5 พ.ย. 61
กรณีสามีหึงโหด ทำร้ายร่างกายของภรรยา ก่อนพาซ้อนท้ายจักรยานยนต์ออกจากบ้าน แต่ภรรยากระโดดลงจากรถ วิ่งเข้าร้านขายของชำเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่สามีโมโหยิงภรรยาเสียวิชิต และดิ้นทุรนทุรายคาร้านอย่างอนาถนั้น
บริเวณร้านเสริมสวย สถานที่เกิดเหตุ
วันที่ 4 พ.ย. 61 ที่จุดเกิดเหตุ ทาง 3 แยก ที่นางรัตติกาล ลิ้มเจริญชัยกุล หรือ โบ อายุ 29 ปี ผู้ตาย เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไชค์มากับนายรณชัย คำทราย หรือ ซอย อายุ 25 ปี สามี โดยขับผ่านถนนภายในชุมชนวัดเขากวาง บริเวณสามแยกดังกล่าว มีปั๊มขนาดเล็ก เปิดเป็นร้านเสริมสวย มีหน้าร้านขายของชำ ซึ่งเป็นบ้านจุดเกิดเหตุที่นางโบ วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือ ก่อนถูกยิงเสียชีวิต
ภาพจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของนางรัตติกาล (1)
ภาพจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของนางรัตติกาล (2)
โดยจังหวะที่นายซอย ขับผ่านบริเวณแยกดังกล่าว กำลังชะลอรถเพื่อขับผ่านแยก นางโบ ที่ซ้อนท้ายมา เห็นว่าบริเวณสามแยกมีร้านเสริมสวย จึงได้กระโดดลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปที่ร้านเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นนายซอย ขับรถตามมาจอดที่หน้าร้าน จนกระทั่งมีปากเสียงกันพักใหญ่ ก่อนจบลงที่เสียงปืนนั้น
นายรณชัย คำทราย หรือ ซอย ผู้ก่อเหตุ
ที่ สภ.เขาบางแกรก จ.อุทัยธานี นายรณชัย คำทราย หรือซอย ผู้ก่อเหตุ เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากนี้ตัวเองยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับลูก คงจะฝากให้ญาติดูแล ซึ่งหลังเกิดเหตุ ยอมรับว่าเสียใจ และรู้สึกผิด เหตุการณ์ไม่น่าแย่จนถึงขั้นนี้ ซึ่งหากมีโอกาสได้เข้าขอขมาศพ และขอขมาภรรยาก็คงจะดี ทั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นจากการทะเลาะกัน และเกิดการแย่งปืนเกิดขึ้น หลังจากนั้น ปืนลั่นออกไป โดยนางโบก็ยกมือไหว้ขอร้องตนไม่ให้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ตนขอปฏิเสธว่าไม่เคยทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิง คนรักกันไม่ทำร้ายกันหรอก หากผู้หญิงอ้างว่าโดนทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง ทำไมถึงไม่แจ้งตำรวจจับตน และยอมรับว่า หลังจากถูกจับแล้ว ใครจะพูดอะไรก็พูดได้ เพราะตนเองอยู่ในสถานะคนผิดแล้ว ใครจะเหยียบย่ำก็ทำไป นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รับจดหมายที่ผู้ตายและนายซอย เคยใช้ในการสื่อสารแสดงความรักต่อกัน ซึ่งครั้งที่นางโบ เคยหนีออกจากบ้าน อุ้มลูกน้อยวัย 9 เดือน ไปพักที่กรุงเทพมหานคร นายซอยพยายามออกตามหา และง้อให้กลับมาคืนดี แต่ไม่เป็นผล จึงได้เขียนข้อความเอาไว้บนข้างฝา ข้อความส่วนใหญ่ระบุว่า “รักมึงโบ”, “รักนะ แต่ดูนักเลง” พร้อมทั้งมีข้อความในใจที่พยายามเขียนเพื่อขอโทษนางโบ ด้วยถ้อยคำว่า “ขอโทษ” จำนวนมาก ซึ่งภายหลังที่นางโบ กลับมาคืนดีกัน ก็เขียนข้อความกลับด้วยดินสอ ตอบกลับไปว่า “รักมึงเหมือนกัน”
นางสาวดรุณี ใจทัน หรือ ณี คนเห็นเหตุการณ์ เจ้าของร้านทำผม
นางสาวดรุณี ใจทัน หรือ ณี อายุ 48 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เจ้าของร้านทำผมและขายของชำ เล่าว่า ตนทำผมให้ลูกค้าอยู่ และขายของที่หน้าร้านไปด้วย ขณะนั้นมีรถขับเข้ามาหน้าร้าน ทีแรกคิดว่าคนเมาทั่วไป จากนั้นได้มีผู้หญิงวิ่งเข้ามาในร้านพร้อมกับผู้ชาย โดยมีลักษณะวิ่งไล่กัน วนอยู่ที่กลางร้านของชำ ซึ่งทั้ง 2 คน พูดจากันเหมือนตามตัวกันกลับบ้าน แต่ฝ่ายหญิงบอกว่า “ชวนกู กูไม่กลับ” และทั้ง 2 คนยังคงวิ่งไล่กันเพื่อปรับความเข้าใจภายในร้าน โดยขณะนั้นตนเองเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี เพราะผู้ชายพกปืนเข้ามาด้วย จากนั้นตนเองจึงบอกกับฝ่ายชายว่า ค่อย ๆ พูดจากัน จากนั้นชายถือปืนก็อารมณ์เย็นลง ตนเองจึงวิ่งออกจากร้าน เพื่อไปบอกกับเพื่อนบ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ละแวก ให้เข้ามาดูจุดเกิดเหตุ กลัวว่าจะมีเหตุกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น จากนั้นเวลาผ่านไปไม่นาน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตัวเองคิดในใจว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน และไม่กล้าเข้ามาดูภายในร้าน จึงให้เพื่อนบ้านคนอื่นเข้าไปดู สุดท้ายพบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวนอนจมกองเลือดอยู่บริเวณหลังบ้าน ยอมรับว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกเครียดที่มีคนมาตายภายในบ้าน และเสียใจกับเหตุการณ์ที่ผู้ตายวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่ตนไม่สามารถช่วยได้ รวมถึงรู้สึกสะเทือนใจยิ่งขึ้นเมื่อทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นสามีของผู้ตายซึ่งมีลูกด้วยกันถึง 3 คน
นางเสถียร คำทราย ป้าของนายซอย
นางเสถียร คำทราย อายุ 62 ปี ป้าของนายซอย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจ และฝากขอโทษไปยังครอบครัวของผู้ตาย รู้ว่าคนของเราผิด ก็ขอยอมรับผิด ซึ่งหลังจากนี้ ขอให้เป็นไปตามทางกฎหมาย และยืนยันว่า ไม่มีเงิน จึงไม่ขอประกันตัว ทำผิดก็ว่าไปตามผิด ทั้งนี้ ตนเองรู้สึกสงสารเด็กทั้ง 3 คน ที่ขาดแม่ โดยเฉพาะลูกที่ยังกินนมจากเต้า ส่วนอนาคตของเด็ก คงต้องร่วมกันดูแลทั้ง 2 บ้าน โดยคนโตวัย 9 ขวบ ครอบครัวฝ่ายชายจะรับไว้ดูแลเอง และอีก 2 คน ให้ฝ่ายผู้ตายรับไปดูแล วัย 7 ขวบ และ 9 เดือน แต่หากไม่มีคนเลี้ยง ครอบครัวฝ่ายชายก็พร้อมรับมาดูแลทั้งหมด ทั้งนี้ ในขณะที่ 2 คนอยู่กินกัน ก็ไม่เคยทะเลาะให้เห็น เพราะนายซอยมักจะไม่ทำให้ตนเองรู้ เนื่องจากเลี้ยงโตมากับมือ จึงไม่อยากทำให้ตนเองไม่สบายใจ ส่วนปมปัญหา ตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่รู้ว่านายซอยรักลูกรักภรรยามาก และทั้ง 2 คน ก็คบกันตั้งแต่สมัยเรียน มีลูกคนแรกตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ จนกระทั่งล่าสุด ฝ่ายหญิงเรียกค่าสินสอดทองหมั้น 1 แสนบาท ทองคำ 4 บาท โดยมีเงื่อนไข ต้องเป็นเงินที่มาจากนายซอยเท่านั้น ห้ามให้มีการหยิบยืม ซึ่งหากทำตามเงื่อนไขได้ ก็พร้อมยกนางโบให้ไปอยู่ด้วยระยะยาว
นางพรภิรัตน์ สุขศิริ หรือ แขก ป้าของผู้ตาย
นางพรภิรัตน์ สุขศิริ หรือ แขก อายุ 51 ปี ป้าของผู้ตาย เล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองเสียใจ และอยากฝากบอกไปยังฝ่ายชายว่า หลานของตนก็ไม่ได้ต่อสู้ขัดขืน ยิงเขาได้อย่างไร “ใจทำด้วยอะไร ใช่คนไหม” ลูกก็ยังตัวเล็ก ๆ ไม่สงสารหรือ และครอบครัวต้องแบกรับภารทั้งหมด ดูแลหลาน ๆ ต่อไป ตามที่นางโบ เคยบอกเอาไว้ว่าถ้าวันหนึ่งตัวเองเป็นอะไร ฝากดูแลลูก ๆ ด้วย อย่าให้ใครเอาไป ซึ่งเหมือนนางโบรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยไม่อยากให้คนในครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ เคยมีคนในครอบครัว อาสาจะเข้าไปช่วยเคลียร์ปัญหาให้กับนางโบและนายซอย แต่นางโบปฏิเสธรับความช่วยเหลือ และอ้างว่า “ปัญหาของใครของมัน แก้ไขเอง เพราะหนูเป็นคนก่อ หนูก้าวพลาด เป็นปัญหาของหนู” โดยเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ นายซอยได้ข่มขู่นางโบว่า ถ้าไม่กลับมา จะทำร้ายคนที่บ้าน โดยบอกว่า “ถ้ามึงไม่กลับมาอยู่กับกู กูจะฆ่าให้หมดเลย” ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่าหลานสาวยอมโดนทุบตี ทำร้ายร่างกาย ก็เพราะรักลูก นางพรภิรัตน์ กล่าวว่า ก่อนหลานเสียชีวิต มีเหตุการณ์แปลก ๆ คือ วันก่อนเกิดเรื่อง หลานสาวได้เข้ามากราบเท้า ซึ่งปกติจะไม่มากราบเท้าตน ตนจึงเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ จะเป็นลางบอกเหตุที่เจ้าตัวมาลา สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าอาจเป็นเพราะอาการหลอนไปเองของคนที่เสพสารเสพติดของนายซอย
นางรัตติกาล ลิ้มเจริญชัยกุล หรือ โบ
ที่วัดประดาหัก จังหวัดอุทัยธานี มีพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติฝ่ายของผู้ตาย และเพื่อนบ้าน เดินทางเข้าร่วมฟังสวด ส่วนญาติของนายซอย ส่งตัวแทนญาติสนิท เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ