Trump Organization รุกลงทุนเวียดนาม เปิดโครงการรีสอร์ตกอล์ฟหรูใกล้ฮานอย มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
ในวันนี้ Trump Organization และพันธมิตรท้องถิ่นในเวียดนามจัดพิธีขุดดินเป็นปฐมฤกษ์ในการเริ่มก่อสร้าง สำหรับโครงการรีสอร์ตและสนามกอล์ฟระดับไฮเอนด์ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ใกล้กรุงฮานอย หลังรัฐบาลเวียดนามเพิ่งอนุมัติโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เอริค ทรัมป์ รองประธานอาวุโสของ Trump Organization และบุตรชายของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เข้าร่วมพิธีขุดดินครั้งนี้ โดยเปิดเผยว่า โครงการรีสอร์ทหรูแห่งใหม่ของ Trump Organization ซึ่งเตรียมก่อสร้างในภาคเหนือของเวียดนาม จะเป็นโครงการที่ “สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคน”
“ผมจะมาที่นี่บ่อยมาก” เอริค ทรัมป์กล่าวระหว่างพิธีขุดดินที่จังหวัดฮึงเอียน “โครงการนี้ รวมถึงอีกหลายโครงการที่เราร่วมกันดำเนินการ จะกลายเป็นต้นแบบที่น่าจับตามองที่สุดในเอเชีย และอาจเป็นที่อิจฉาของทั้งโลก เวียดนามสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด” เขากล่าว
ดีลนี้มีนัยสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ในบริบทการเมืองระหว่างประเทศ เพราะเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างวอชิงตันและเวียดนาม หลังในเดือนเมษายน ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดตัวนโยบาย “ภาษีตอบโต้” (reciprocal tariffs) ครอบคลุม 180 ประเทศทั่วโลก โดยเวียดนามเผชิญอัตราภาษีสูงถึง 46% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม
สหรัฐฯ กดดันเวียดนามเรื่องดุลการค้าเกินดุลจำนวนมหาศาล และบทบาทในฐานะช่องทางให้สินค้าจีนเข้าสู่ตลาดอเมริกัน โดยในปี 2024 ดุลการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับ 123,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นผลจากสินค้าที่ประกอบในเวียดนามโดยใช้ชิ้นส่วนจากจีน
จากการรายงานของสื่อเวียดนาม โครงการรีสอร์ตและสนามกอล์ฟระดับไฮเอนด์ดังกล่าวจะเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของ Trump Organization ในเอเชียตะวันออก มีมูลค่าสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 4.9 หมื่นล้านบาท
โครงการมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2027 ประกอบด้วยสนามกอล์ฟมาตรฐานสากล 18 หลุม จำนวน 3 สนาม พร้อมโครงการที่พักอาศัยหรู และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 990 เฮกตาร์ในจังหวัดฮึงเอียน ทางตอนเหนือของกรุงฮานอย โดยนักพัฒนาระบุว่าโครงการนี้อาจตามมาด้วยการลงทุนเพิ่มเติมในระดับหลายพันล้านดอลลาร์ในอนาคต
ในวันพรุ่งนี้ จังหวัดฮึงเอียน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ ได้เชิญผู้นำระดับสูงของเวียดนามเข้าร่วมงาน รวมถึงนายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเกิดในจังหวัดนี้ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความชัดเจนว่าเขาจะเข้าร่วมพิธีหรือไม่ ขณะที่สำนักข่าวของรัฐรายงานว่านายกรัฐมนตรีฟาม มินห์ จิญ จะร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันเดียวกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นโครงการใด
ชาร์ลส์ บอยด์-โบว์แมน ผู้อำนวยการโครงการ เปิดเผยต่อนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋ง เมื่อเดือนมีนาคมว่า บริษัทตั้งเป้าให้โครงการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2027 ก่อนที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอด APEC
ตามกำหนดการภายในที่รอยเตอร์ได้รับ นอกจากพิธีขุดดินแล้ว เอริค ทรัมป์ ยังมีกำหนดพบเจ้าหน้าที่ของนครโฮจิมินห์ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือโครงการก่อสร้างตึกระฟ้าแห่งใหม่หรือโครงการ “ทรัมป์ทาวเวอร์” ในศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้เวียดนาม
“เวียดนามมีศักยภาพสูงในด้านการท่องเที่ยวหรูและความบันเทิง” เอริค ทรัมป์กล่าวไว้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลัง Trump Organization จับมือกับ Kinhbac City บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม เพื่อพัฒนาโครงการหรูระดับพรีเมียมร่วมกัน
ในแถลงการณ์ขณะนั้นระบุว่า ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการพัฒนาโรงแรมระดับ 5 ดาว สนามกอล์ฟสำหรับการแข่งขัน และที่อยู่อาศัยหรูภายใต้แบรนด์ทรัมป์ โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดด้านการเงินหรือการแบ่งรายได้ระหว่างทั้งสองฝ่าย
ด้านเจ้าหน้าที่นครโฮจิมินห์เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับตัวแทนของ Trump Organization และพันธมิตรท้องถิ่นอย่าง Kinhbac City Development Corporation (KBC) ไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ พร้อมระบุว่า ได้ดำเนินการสำรวจภาคสนามเบื้องต้นในสองพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองเมื่อวันจันทร์ และมีกำหนดพบผู้บริหารระดับสูงของ Trump Organization ในวันพฤหัสบดี
โครงการนี้เกิดขึ้นในบริบทที่เวียดนามต้องเร่งเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 46% ที่อาจมีผลในเดือนกรกฎาคม หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทวิภาคีได้ ทำให้ Trump Organization ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจใช้สถานะทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจส่วนตัว
เวียดนามได้ให้คำมั่นกับทำเนียบขาวว่าจะลดอัตราภาษีและอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เพิ่มความเข้มงวดในการต่อต้านการฉ้อโกงทางการค้าและการปลอมแปลงสินค้า พร้อมทั้งเปิดทางให้ Starlink ซึ่งเป็นธุรกิจดาวเทียมของอีลอน มัสก์ พันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์ เข้าดำเนินกิจการในประเทศ
ผู้จัดงานระบุว่าโครงการในจังหวัดฮึงเอียน ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำแดงทางตอนใต้ของกรุงฮานอย ได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นผลจากแผนงานที่ Kinhbac City วางไว้ล่วงหน้าก่อนมีการประกาศความร่วมมือกับองค์กรทรัมป์
ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้โอนอำนาจการบริหารบริษัทให้บุตรชายและบุตรสาวหลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปัจจุบันองค์กรทรัมป์มีโครงการสนามกอล์ฟหรูหลายแห่งทั่วโลก ทั้งในอินโดนีเซีย ตะวันออกกลาง และประเทศอื่น ๆ
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยเดินทางเยือนกรุงฮานอยในปี 2019 เพื่อประชุมสุดยอดครั้งที่สองกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยในโอกาสนั้น เขายกย่องฮานอยว่าเป็น “เมืองที่ยอดเยี่ยม” และกล่าวชื่นชมเวียดนามว่า “พัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างน่าประทับใจ”