สินทรัพย์ดิจิทัล

"เชียงใหม่" เปิดตัว Chiangmai Crypto City แห่งแรกของไทยและอาเซียน

16 ก.พ. 65
"เชียงใหม่" เปิดตัว Chiangmai Crypto City แห่งแรกของไทยและอาเซียน

"เชียงใหม่" เปิดตัวโครงการ Chiangmai Crypto City ขับเคลื่อนเมืองด้วย Blockchain แห่งแรกของไทยและอาเซียน

 


ทีมผู้บริหารเพจและผู้จัดงาน Block Mountain CNX ทีมผู้บริหารเพจเช้านี้ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ "เมืองคริปโทเชียงใหม่" (Chiangmai Crypto City: CCC) เป็นครั้งแรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนเมืองและสร้างอีโคซิสเต็มด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน และช่วยบ่มเพาะให้เกิดบริษัทสตาร์ทอัพระดับ "ยูนิคอร์น" ตัวใหม่ๆ ขึ้นมา

 

ทีมงานระบุว่า ปัจจุบันหลายเมืองในต่างประเทศมีการปรับเอาระบบบล็อกเชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาเมือง หรือที่เรียกว่า “Blockchain Infrastructure” กันแล้ว เช่น New York, Miami, Reno และ Wyoming ในสหรัฐ และที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ เมือง “Zug” เมืองริมทะเลสาปที่สวยงามและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีรายได้สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ อีกด้วย


เมื่อภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันผลักดันให้มีกฎหมายกำกับดูแล เปิดโอกาสต่อธุรกิจในรูปแบบบล็อกเชน และส่งเสริมด้านงบประมาณและบุคลากรต่อภาคประชาชนและเอกชนมากขึ้น ส่งผลทำให้เมืองเล็ก ๆ อย่าง “Zug” นั้นมีบริบทที่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจ "สตาร์ทอัพ" ซึ่งมูลค่าการตลาดในปัจจุบันของเมือง Zug อยู่ที่ประมาณ 6.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20 ล้านบาท) หรือเทียบเท่างบประมาณประเทศไทยราว ๆ 6 ปีเศษรวมกัน


สำหรับโปรเจกต์ “Chiangmai Crypto City” หรือ “Blockchain City” นั้นจะเป็นการพัฒนาแพล็ตฟอร์มแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized Open Source Platform) บนระบบบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ ( Smart Contract) ซึ่งถือได้ว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกอนาคต โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจมาทำธุรกิจร่วมกัน หรือผู้ที่สนใจอยากจะเข้ามาร่วมพัฒนาชุมชนก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน

 

พญ. นวพร นะลิตา ผู้จัดการโครงการ ได้เปิดเผยในงานสัมมนาที่ Experience Center by Zipmex ก่อนหน้านี้ว่า “โปรเจกต์ Chiangmai Crypto City จะเป็น Social Enterprise Platform ที่ยินดีต้อนรับผู้ที่ประสงค์จะเข้ามาร่วมพัฒนาองค์กรและชุมชน โดยไม่จำกัดว่าเป็นแค่คนในจังหวัดเชียงใหม่ หรือคนไทย รวมไปถึงไม่จำกัดเรื่องอายุ อาชีพ และระยะเวลาการเข้าร่วม สิ่งที่น่าจับตามองคือ หากโปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จจริง ก็จะสามารถช่วยบ่มเพาะให้เกิดบริษัท Unicorn ใหม่ ๆ ขึ้นมา และสามารถช่วยสร้างโอกาสให้กับเศรษฐกิจไทยผ่านโลกธุรกิจยุคดิจิทัลได้”

 

ทั้งนี้ โปรเจกต์ CCC ไม่ได้มีใครเป็นเจ้าของโปรเจกต์ แต่เป็นคณะทำงานจากกลุ่มคนที่มีความสนใจจะพัฒนาโครงการร่วมกัน ในรูปแบบ DAOs (Decentralized Autonomous Organisations) หรือการทำงานเป็นองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ ปัจจุบัน มีหน่วยงานรัฐบางแห่งที่เข้าร่วมสนับสนุนแล้ว เช่น หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สังกัด สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ องการค์ปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่

advertisement

SPOTLIGHT