
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมจุบีลี เพรสทีจน์ รัชดาภิเษก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จัดงานประชุมวิชาการ The 3rd ASEAN Academic Conference on Disaster Health Management ภายใต้โครงการความร่วมมือ The Project for Strengthening the ASEAN Regional Capacity on Disaster Health Management (ARCH Project) ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on Disaster Management (AHA) และสถาบันอาเซียนเพื่อการจัดการสาธารณสุขภายใต้ภัยพิบัติ หรือ AIDHM โดยได้รับเกียรติจาก นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายคะจิวาระ โทรุ อัครราชทูตและหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตประเทศญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย และ ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมเปิดงาน
งานประชุม ACCDHM ในครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 18 - 20 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้หัวข้อหลัก “Building the Disaster Health Management for a Resilient ASEAN” มุ่งยกระดับความร่วมมือด้านการรับมือเหตุฉุกเฉินและ สาธารณภัยของอาเซียน เพื่อเสริมสร้างระบบสุขภาพที่มีความเข้มแข็งและพร้อมรับมือภัยคุกคามทุกรูปแบบ ตั้งแต่โรคอุบัติใหม่ ภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุหมู่ ไปจนถึงภาวะฉุกเฉินด้านการท่องเที่ยว นอกจากนั้นการประชุมครั้งนี้ยังนับเป็นหมุดหมายสำคัญในการทบทวนความสำเร็จกว่า 10 ปีของโครงการ ARCH ในการเสริมสร้างศักยภาพอาเซียนด้านการจัดการสาธารณภัยด้านสุขภาพ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก JICA ประเทศญี่ปุ่น และมีประเทศไทยเป็นประเทศหลักในการดำเนินงาน
การประชุมประกอบด้วยการบรรยายพิเศษ การนำเสนอผลงานวิชาการ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงจากเหตุการณ์ สาธารณภัย และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านองค์ความรู้ด้าน Disaster Health Management ของอาเซียน โดยครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น การแพทย์ฉุกเฉินและอุบัติเหตุหมู่ (MCI & EMS) การรักษาความปลอดภัยบุคลากรด้านสุขภาพในภาวะภัยพิบัติ การจัดการข้อมูลและระบบสื่อสารสาธารณภัย นวัตกรรม เทคโนโลยี และ AI สำหรับ Disaster Health Management ลดความเสี่ยงภัยพิบัติและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (DRR & CCA)
ภายในงานยังมีนิทรรศการด้านนวัตกรรมฉุกเฉินและสาธารณภัย และเวทีนำเสนอผลงานวิชาการและโปสเตอร์จากสถาบันเครือข่ายอาเซียน รวมทั้งการจัด Lunch Symposium ด้านนโยบายการศึกษาและหลักสูตร DHM เพื่อผลักดันการผลิตองค์ความรู้และทักษะวิชาชีพด้าน Disaster & Emergency Medicine ในภูมิภาค ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินทั้งในประเทศไทย ประเทศสมาชิกอาเซียน และนานาประเทศ ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการบริหารจัดการทางการแพทย์และสาธารณสุขในภัยพิบัติ ผ่านเวทีการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรม นิทรรศการ และการบรรยายจาก Keynote speaker เช่น ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการ สพฉ. Dr.Tasturo Kai (Chair, Japan Advisory Committee of ARCH Project) Prof. Donald A. Donahue (WADEM President) Prof. Yodi Mahendradhata (Chair, Steering Committee of AANDHM) รวมถึงการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้แทนหน่วยงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติอีกจำนวนมาก และมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ญี่ปุ่น องค์กรระหว่างประเทศ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ฉุกเฉินและสาธารณภัยเข้าร่วมกว่า 300 คน
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่หน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญในระดับอาเซียนและระดับสากลได้มาร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในการเสริมแกร่งด้านการจัดการสาธารณภัย เพื่อตอบสนองภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพที่ซับซ้อนมากขึ้น ตั้งแต่โรคอุบัติใหม่ ภัยพิบัติจากสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงอุบัติเหตุหมู่และความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการรับมือกับพัยภิบัติในมิติด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งในประเทศและในระดับอาเซียนต่อไป
ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการ สพฉ. กล่าวว่า ในฐานะประเทศผู้ประสานงานหลักของโครงการ ARCH ประเทศไทยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ ซึ่งไม่เพียงเป็นเวทีทบทวนความก้าวหน้า แต่ยังเป็นพื้นที่สำคัญในการกำหนดทิศทางอนาคตของการจัดการสาธารณภัยด้านสุขภาพในอาเซียน ด้วยผลกระทบจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ปัจจุบันทั่วทั้งโลกต้องประสบกับภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงและความถี่มากขึ้น ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ ถือเป็นพันธกิจที่ต้องวางแนวทางในการบริหารจัดการด้านการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับภัยพิบัติ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรมโดยการบูรณาการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและโครงการวิจัยระดับนานาชาติอย่างเช่น ARCH Project ที่ปีนี้อยู่ในวาระครบรอบ 10 ปี ซึ่ง สพฉ. และหน่วยงานพันธมิตรพร้อมจะขยายผลไปสู่การประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
“การประชุม AAC on DHM ครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญต่อการสร้างสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ ความร่วมมือใหม่ และนวัตกรรมใหม่เพื่อมุ่งสู่ “อาเซียนที่เข้มแข็ง ปลอดภัย และมีระบบสุขภาพที่ยืดหยุ่นต่อทุกสาธารณภัย” โดยประเทศไทยจะเดินหน้าผลักดันความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินและการจัดการสาธารณภัยในภูมิภาคต่อไป” ดร.พิเชษฐ์ กล่าว
Advertisement