
ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยว่า คนไทยใช้ชีวิตอยู่ในท่านั่งเฉลี่ยมากถึง 13 ชั่วโมงต่อวัน พฤติกรรม "นั่งนาน ยืนนาน ขยับน้อย" จึงกำลังกลายเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้โรคกระดูกและข้อแพร่ระบาดเงียบ ๆ ในกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์ออฟฟิศและผู้ที่อยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานต่อเนื่องทุกวัน
ปัจจุบัน โรคกระดูกและข้อได้กลายเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลกที่องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้อยู่ในกลุ่มโรคที่เป็นสาเหตุของความพิการอันดับต้น ๆ ของประชากรโลก โดยมีผู้ป่วยกว่า 1.71 พันล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะอาการปวดหลังส่วนล่าง ที่เป็นสาเหตุความพิการอันดับหนึ่งในกว่า 160 ประเทศ ไลฟ์สไตล์ที่ขาดการเคลื่อนไหวอย่างเพียงพอส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างของร่างกาย เมื่อร่างกายอยู่ในท่าเดิมซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง แรงกดสะสมจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบไหลเวียนเลือดลดลง และเส้นประสาทถูกกดทับ จนเกิดอาการปวดเมื่อยหรือชาที่อาจดูเล็กน้อยในระยะแรก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ปรับพฤติกรรม อาการเหล่านี้สามารถพัฒนาไปสู่ภาวะข้อเสื่อม หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกระดูกพรุนก่อนวัยได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทั้งด้านอารมณ์ สมาธิ การทำงาน และความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
นพ.นิพัฒน์ กุหลาบขาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด เผยว่า ภัยเงียบจากโรคกระดูกและข้อกำลังขยายวงกว้างขึ้นทุกปี ไม่เฉพาะในผู้สูงอายุ แต่ลุกลามสู่วัยอายุน้อยและคนวัยทำงานที่เป็นกำลังหลักของประเทศ โรงพยาบาลวิมุตจึงจัดตั้ง “ศูนย์กระดูกและข้อ (ViMUT Bone & Joint Center)” ภายใต้แนวคิด "อย่าให้ทุกการเคลื่อนไหวต้องสะดุด" ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการยกระดับบริการสุขภาพแบบองค์รวมด้วยแนวทาง Comprehensive Bone & Joint Care ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกัน วินิจฉัย รักษา ฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ พร้อมรับมือวิกฤตสุขภาพเงียบ (Silent Epidemic) ที่กำลังลุกลามในสังคมไทย สร้างศูนย์ความเป็นเลิศที่รวมทั้งความชำนาญการของทีมแพทย์เฉพาะทาง เทคโนโลยีระดับโลก และแนวคิดการดูแลแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Care) เพื่อคืนสมดุลการเคลื่อนไหวให้ผู้ป่วย ซึ่งทุกวันนี้ วงการเฮลท์แคร์กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุค “พาร์ทเนอร์สุขภาพ” ที่ผู้บริโภคมองโรงพยาบาลเป็นเพื่อนคู่คิดด้านสุขภาพมากกว่าผู้รักษา รพ. วิมุต มุ่งพัฒนาอีโคซิสเต็มอัจฉริยะด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงศูนย์ความเป็นเลิศเข้ากับบริการสุขภาพที่เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และดูแลอย่างใส่ใจ พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงในทุกช่วงวัย
รพ. วิมุต นำเสนอระบบรักษาที่ครบครันสำหรับโรคกระดูกและข้อ อาทิ เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลความละเอียดสูงแบบ Auto Stitching X-Ray สำหรับตรวจภาพแนวยาวของกระดูกสันหลังทั้งแนว, เครื่องตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกและองค์ประกอบร่างกาย (Bone Mineral Density & Whole Body Composition Scan), เครื่อง MRI เพื่อสร้างภาพโครงสร้างกระดูกและข้อต่ออย่างละเอียด เพื่อระบุสาเหตุของอาการปวดได้อย่างตรงจุด และการผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็ก ซึ่งช่วยลดความเจ็บ ฟื้นตัวไว ศูนย์กระดูกและข้อ รพ. วิมุต ยังให้ความสำคัญกับ Personalized Orthopedic Care โดยทีมแพทย์จะออกแบบแผนการรักษาให้เหมาะกับสภาพร่างกาย พฤติกรรม และความต้องการของผู้ป่วยแต่ละราย ผู้ป่วยจะได้รับการติดตามผลอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนและหลังการรักษา รวมถึงเข้ารับการฟื้นฟูในศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู (Rehabilitation Center) และศูนย์ดูแลต่อเนื่อง (Transitional Care Ward) ที่มีทีมสหสาขาวิชาชีพดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เรายังมีการดูแลโดยนักกำหนดอาหาร ที่เข้ามาช่วยวางแผนโภชนาการทางการแพทย์เฉพาะบุคคล ควบคุมเรื่องน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และการคำนวณโปรตีนให้เหมาะสมกับการรักษา
นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต เผยว่า "ศูนย์กระดูกและข้อคือก้าวสำคัญของวิมุตในการสร้างศูนย์ความเป็นเลิศที่ไม่ได้มุ่งเพียงรักษาโรค แต่ยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพกระดูกและข้อของคนไทยสู่มาตรฐานระดับสากล ภายใต้กลยุทธ์ M.O.V.E. ที่ให้ความสำคัญกับ M – Mastery of Expertise ความชำนาญระดับสูงของทีมแพทย์เฉพาะทาง ครอบคลุมทุกโรคกระดูกและข้อ ตั้งแต่ข้อเสื่อมจนถึงการผ่าตัดที่ซับซ้อนที่สุด, O – Orthopedic Innovation การนำนวัตกรรมมาใช้จริง เพื่อการวิเคราะห์และการรักษาที่แม่นยำ, V – Value-based Care การดูแลที่มุ่งสร้าง 'คุณค่า' แก่ผู้ป่วย เน้นการคืนคุณภาพชีวิตและสร้างความสุขจากการใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ, และ E – Empowered Recovery การฟื้นฟูที่ออกแบบเฉพาะบุคคล โดยทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว”
“ยิ่งไปกว่านั้น รพ.วิมุตเชื่อว่า ความเป็นเลิศทางการแพทย์ไม่ได้เกิดจากเครื่องมือเท่านั้น แต่เกิดจาก 'คน' ที่ทำงานด้วยหัวใจ เราผนึกกำลังแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางในหลากหลายสาขา ได้แก่ ศัลยกรรมกระดูกและข้อ เวชศาสตร์ฟื้นฟู เวชศาสตร์การกีฬา และด้านการดูแลรักษาด้วยโภชนบำบัด เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นจนกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดี ศูนย์แห่งนี้ออกแบบด้วยแนวคิด 'Full Loop Care' ที่รวมทุกขั้นตอนไว้ที่เดียว เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวก ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุดในการฟื้นตัว"
Advertisement