การวางแผนทางการเงินสำหรับวัยเกษียณเป็นเรื่องที่หลายคนมักมองข้าม เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่หากไม่เริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ คุณอาจพบว่าเงินหลังเกษียณไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ในบทความนี้ เราขอชวนคุณมาเตรียมความพร้อมด้วยการคำนวณว่าเกษียณต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ และจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้คุณเก็บเงินได้ถึงเป้าหมาย ไม่เป็นภาระให้ลูกหลานในอนาคต
การคำนวณเงินเก็บหลังเกษียณมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะในความเป็นจริง ชีวิตหลังเกษียณอาจแบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ เกษียณลำบาก ที่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายตลอดเวลา เกษียณพออยู่ได้ ที่ไม่ลำบากแต่ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเพลิดเพลิน และเกษียณสุข ที่มีเงินเพียงพอให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
หลายคนอาจคิดว่าเมื่อเกษียณแล้ว ค่าใช้จ่ายจะลดลง แต่ความจริงแล้วยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ได้แก่
• ค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น : เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายเสื่อมถอยไปตามวัย ทำให้ความเสี่ยงในการเจ็บป่วยเพิ่มสูงขึ้น และค่ารักษาพยาบาลก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย การมีประกันสุขภาพเป็นพื้นฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็น
• อัตราเงินเฟ้อ : ถึงแม้รายได้จะหยุดนิ่ง แต่ค่าครองชีพกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอัตราเงินเฟ้อ ทำให้เงินที่เก็บไว้มีมูลค่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เช่น สินค้าที่ราคา 100 บาทในปัจจุบัน อาจมีราคาเพิ่มเป็น 104 บาทในปีถัดไป และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
• ระยะเวลาใช้ชีวิตหลังเกษียณ : ปัจจุบันคนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น หลายคนมีชีวิตอยู่หลังเกษียณไปอีก 20-30 ปี ทำให้ต้องเตรียมเงินไว้ใช้ในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น
การละเลยการวางแผนทางการเงินเพื่อการเกษียณมักเกิดจากความเข้าใจผิดหลายประการ เช่น คิดว่าบุตรหลานจะมาดูแลยามชรา ทั้งที่สถิติชี้ว่าผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.3 ในปี 2545 เป็นร้อยละ 10.8 ในปี 2560 หรือเข้าใจว่าสวัสดิการของรัฐบาลจะเพียงพอ ซึ่งในความเป็นจริง เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่รัฐจัดสรรให้นั้นอยู่ที่เพียง 600 - 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตอย่างแน่นอน
การคำนวณว่าเกษียณต้องมีเงินเท่าไหร่ ไม่ควรเริ่มต้นด้วยการกำหนดจำนวนเงินเป้าหมาย แต่ควรเริ่มจากการประเมินรายละเอียดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณหลังเกษียณก่อน ซึ่งประกอบด้วย
• ค่าอาหาร
• ค่าเดินทาง
• ค่าน้ำค่าไฟ
• ค่าใช้จ่ายเพื่อการกุศล
• ค่าโทรศัพท์
• ค่าประกันสุขภาพ
• ค่าความบันเทิงต่าง ๆ
• ค่าผ่อนบัตรเครดิต (ถ้ามี)
• ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
เมื่อประเมินค่าใช้จ่ายรายเดือนได้แล้ว คุณสามารถคำนวณเงินก้อนที่ต้องการสำหรับวัยเกษียณได้ ดังนี้
1.ประเมินค่าใช้จ่ายรายเดือนหลังเกษียณ เช่น 30,000 บาท/เดือน
2.ประเมินระยะเวลาที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ เช่น ตั้งใจอยู่ถึงอายุ 80 ปี (เกษียณตอนอายุ 60 ปี = 20 ปี)
3.คำนวณเงินก้อนสำหรับเกษียณ = ค่าใช้จ่ายรายเดือน × 12 เดือน × จำนวนปีหลังเกษียณ
• = 30,000 × 12 × 20
• = 7,200,000 บาท
แต่ในการคำนวณนี้ คุณควรคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อที่อาจสูงถึง 4% ต่อปีด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในอนาคตสูงขึ้น และเงินก้อนที่ต้องการก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ตัวอย่างเช่น หากคุณคิดว่าเดือนละ 20,000 บาท เพียงพอต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณ และคาดว่าจะอยู่หลังเกษียณอีก 20 ปี คุณจะต้องมีเงินก้อนอย่างน้อย 5 ล้านบาท (20,000 × 12 × 20) แต่ถ้าคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ และค่ารักษาพยาบาลที่อาจเพิ่มขึ้น จำนวนเงินนี้อาจไม่เพียงพอในความเป็นจริง คุณอาจต้องเผื่อไว้สูงกว่านี้
เมื่อคุณทราบแล้วว่าต้องเตรียมเงินเก็บไว้เท่าไร เพื่อให้พอใช้หลังเกษียณ ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนการออม และการลงทุนให้ไปถึงเป้าหมายนั้น ถึงแม้ว่าจำนวนเงินที่คำนวณได้อาจดูเป็นเป้าหมายที่สูง แต่หากมีการวางแผนที่ดี และเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ คุณก็สามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ โดยเราขอแนะนำ 2 แนวทางที่จะช่วยให้คุณเก็บเงินล้านได้ง่ายขึ้น
การใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้นเป็นวิธีที่ง่าย และมีประสิทธิภาพในการสร้างเงินก้อนสำหรับวัยเกษียณ เพียงแค่เริ่มออมเงินทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ และปล่อยให้ดอกเบี้ยทำงาน คุณจะพบว่าเงินต้นของคุณสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างมหาศาล
เคล็ดลับสำคัญคือการเริ่มต้นให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร พลังของดอกเบี้ยทบต้นยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น หากคุณมีเวลาออมเงินประมาณ 25-30 ปีก่อนเกษียณ คุณจะได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่งของการออมเงินแบบสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เงินเติบโตเร็วขึ้นคือการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา หรือความเชี่ยวชาญในการลงทุนด้วยตนเอง กองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้ และประสบการณ์คอยบริหารเงินลงทุนให้คุณ
กองทุนรวมมีหลากหลายประเภทให้เลือกตามระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมผสม กองทุนรวมตราสารทุน หรือกองทุนรวมที่ออกแบบมาเพื่อการเกษียณโดยเฉพาะ เช่น กองทุน SSF (Super Savings Fund) และ RMF (Retirement Mutual Fund) ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เงินของคุณเติบโตแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย
การลงทุนในกองทุนรวมอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธี DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือการทยอยลงทุนทุกเดือน จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ทำให้คุณสามารถเก็บเงินล้านเพื่อวัยเกษียณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การวางแผนทางการเงินเพื่อวัยเกษียณเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การคำนวณว่าเกษียณต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ เริ่มจากการประเมินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน คูณด้วยจำนวนเดือน และปีที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ พร้อมคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ และค่ารักษาพยาบาลที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต เมื่อทราบเป้าหมายแล้ว การเลือกวิธีออม และลงทุนที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้น หรือการลงทุนในกองทุนรวม จะช่วยให้คุณเก็บเงินล้านได้ไม่ยาก อย่ารอช้า เริ่มวางแผน และลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะมีเงินหลังเกษียณเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่เป็นภาระให้กับลูกหลานในอนาคต
Advertisement