เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 โครงการ One Bangkok ได้เข้าร่วมเวทีเสวนาในงานประชุม Disaster Management Conference: Technology, Innovation, and Research for Effective Disaster Response and Prevention ซึ่งจัดโดยความร่วมมือระหว่าง สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย, MIT ASEAN Initiative, และ หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AmCham) ณ One Bangkok Forum
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตื่นตัวด้านนโยบายรับมือภัยพิบัติ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา — ความเปลี่ยนแปลงที่ถือเป็นบทเรียนสำคัญต่อการพัฒนาเมืองให้พร้อมรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
One Bangkok ในฐานะโครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชน ได้ร่วมเวทีเสวนาร่วมกับผู้นำจากองค์กรระดับโลก อาทิ Honeywell, SCG, McKinsey & Company และ Western Digital
คุณวรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส โครงการวัน แบงค็อก ได้ร่วมเวทีเสวนาพร้อมแสดงความเห็นของภาคเอกชนในการพัฒนาเมืองที่พร้อมรับมือภัยพิบัติ โดยเริ่มต้นจากการสะท้อนมุมมองที่ว่า
“Disaster is not only about what happens—it’s often about what wasn’t planned for.”
ซึ่งชี้ให้เห็นว่าภัยพิบัติในมุมของนักพัฒนาเมือง อาจไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันทีอย่างแผ่นดินไหวหรือน้ำท่วมเท่านั้น แต่คือผลลัพธ์ของการออกแบบที่ไม่เพียงพอ การวางแผนที่ไม่รัดกุม และการขาดการเตรียมพร้อมในระดับเมือง
พร้อมย้ำว่า การพัฒนาเมืองที่ดีไม่ใช่แค่ลดความเสี่ยง แต่ต้องเพิ่มความพร้อมในทุกมิติ — ตั้งแต่โครงสร้างทางกายภาพ ไปจนถึงความยืดหยุ่นของระบบเมืองและชีวิตของผู้คน
จากแนวคิดนี้ โครงการ One Bangkok ได้ใช้หลัก “Last Man Standing” — เมืองที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ในทุกสถานการณ์ เป็นกรอบในการออกแบบและพัฒนา
“ภัยพิบัติบางอย่างอาจไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยในกรุงเทพฯ แต่เมื่อเกิดขึ้นจริง เมืองต้องสามารถรับมือได้ในทุกมิติ ทั้งโครงสร้าง ความปลอดภัย และการดูแลผู้คน” – คุณวรวรรตกล่าว
ภายในเวทีเสวนา คุณวรวรรตยังกล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงเทพฯ โดยระบุว่า อาคารที่เปิดใช้งานใน One Bangkok ทุกหลังผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรทั้งภายในและภายนอก และได้รับการยืนยันว่าโครงสร้างมั่นคงปลอดภัย
One Bangkok ใช้ เสาเข็มขนาดใหญ่พิเศษ ลึกถึง 80 เมตร จำนวนกว่า 2,600 ต้น ฝังลึกลงไปถึงชั้นทรายที่มั่นคงใต้ดิน เพื่อเสริมความมั่นคงของโครงสร้างให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน ด้านการจัดการน้ำท่วมซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำในกรุงเทพฯ โครงการได้ยกระดับพื้นที่สูงถึง 7 เมตรจากแนวถนนหลัก และวางระบบป้องกันแบบครบวงจร ได้แก่
“การเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติไม่ได้หมายถึงแค่โครงสร้างที่แข็งแรง แต่รวมถึงการมีระบบรองรับที่ยืดหยุ่น แผนอพยพที่ชัดเจน การออกแบบที่คิดถึงผู้ใช้งาน และการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด” — คุณวรวรรต กล่าว
ภายในงาน One Bangkok ยังได้จัดแสดงบูธนิทรรศการ นำเสนอองค์ประกอบสำคัญของโครงการที่สะท้อนการออกแบบเมืองอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับภัยพิบัติ เทคโนโลยีการจัดการแบบเรียลไทม์ การออกแบบพื้นที่สีเขียวที่มีบทบาทเชิงนิเวศ ไปจนถึงการวางแผนผังเมืองที่คำนึงถึงทั้งผู้อยู่อาศัย ผู้ใช้งาน และชุมชนโดยรอบ
ไฮไลต์หนึ่งของบูธ คือการแสดงข้อมูลการรับรองระดับสากลที่ One Bangkok ได้รับ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะและความยั่งยืนของเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเป็น โครงการแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับมาตรฐาน WiredScore และ SmartScore ระดับ Neighborhood ที่สะท้อนความพร้อมด้านดิจิทัลและระบบอัจฉริยะในระดับเมือง รวมถึง การเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองระดับ Platinum จาก LEED for Neighborhood Development (LEED ND) ซึ่งแสดงถึงการวางผังเมืองที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พื้นที่สีเขียว ระบบสาธารณูปโภค และชุมชนอย่างรอบด้าน
การได้รับการรับรองเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จด้านมาตรฐานสากล แต่ยังตอกย้ำว่า One Bangkok คือเมืองต้นแบบที่พร้อมรับมือกับภัยพิบัติ และสามารถรองรับการใช้ชีวิตของผู้คนได้จริงอย่างยั่งยืนและปลอดภัยในระยะยาว
Advertisement