ส่องเงินรางวัล "ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025" ทีมแชมป์เงินก้อนโต

แชมป์รับเละ เปิดเงินรางวัล "ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025" แต่ละรอบรับเท่าไหร่ จนถึงทีมแชมป์จะรับทรัพย์กว่า 125 ล้านดอลลาห์

ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 หรือ FIFA Club World Cup 2025 จัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย. ไปจนถึง 13 ก.ค. 68

โดยจัดขึ้น ปีนี้ปรับรูปแบบการแข่งขันใหม่เป็นระบบ ทัวร์นาเมนต์ทุก 4 ปี จากเดิมที่แข่งขันเป็นประจำทุกปี โดยจะมีทีมเข้าร่วมมากถึง 32 สโมสรชั้นนำจากทั่วโลก แบ่งเป็น 8 กลุ่ม (A-H) กลุ่มละ 4 ทีม ทีมอันดับ 1 และ 2 จากแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบน็อกเอาท์ ต่อไป

สำหรับศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 นอกจากเปลี่ยนรูปแบบแล้ว ทีมเข้าร่วม มากไปกว่านั้นเงินรางวัลคว้าแชมป์ ยังทุบสถิติมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาอย่างมหาศาล โดยแชมป์รับสูงสุดมากกว่า การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในทุกครั้งทีผ่านมา ทีมแชมป์จะได้รับจะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,250 ล้านบาท) ขณะที่มูลค่ารางวัลรวมทั้งหมดพุ่งแตะระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 33,000 ล้านบาท มากกว่ารางวัลรวมที่สโมสรได้รับโดยตรงจากยูฟา แชมเปียนส์ ลีก (UCL) ฤดูกาลล่าสุด ซึ่งอยู่ที่ราว 600–700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 21,900–25,550 ล้านบาท

ทั้งนี้ ค่าตอบแทนการแข่งขันแบ่งเป็นผลงานของแต่ละทีมตลอด 63 แมตช์ ในทัวร์นาเมนต์ ประกอบด้วย

รอบแบ่งกลุ่ม (3 นัด)

• หากชนะ : 2.0 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 73 ล้านบาท)
• หากเสมอ : 1.0 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36.5 ล้านบาท)

รอบ 16 ทีม

• จะได้รับ 7.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 273.75 ล้านบาท)

รอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือ รอบก่อนรองชนะเลิศ

• จะได้รับ : 13.125 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 479.06 ล้านบาท)

รอบรองชนะเลิศ

• จะได้รับ : 21.0 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 766.5 ล้านบาท)

รอบชิงชนะเลิศ

• จะได้รับ : 30.0 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,095 ล้านบาท)

แชมป์

• จะได้รับ : 40.0 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,460 ล้านบาท)

สำหรับรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 มีดังนี้

กลุ่ม A 

• พัลไมรัส (บราซิล)
• ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
• อัล อาห์ลี (อียิปต์)
• อินเตอร์ ไมอามี่ (สหรัฐฯ)

กลุ่ม B 

• เปแอสเช (ฝรั่งเศส)
• แอตเลติโก้ มาดริด (สเปน)
• โบตาโฟโก้ (บราซิล)
• ซีแอตเติ้ล ซาวน์เดอร์ส (สหรัฐฯ)

กลุ่ม C

• บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
• ออคแลนด์ ซิตี้ (สหรัฐฯ)
• โบคา จูเนียร์ส (อาร์เจนติน่า)
• เบนฟิก้า (โปรตุเกส)

กลุ่ม D

• ฟลาเมงโก้ (บราซิล)
• เอสเปรานซ์ เดอ ตูนิส (ตูนิเซีย)
• เชลซี (อังกฤษ)
• คลับ เลออน (เม็กซิโก)

กลุ่ม E

• ริเวอร์ เพลท (อาร์เจนติน่า)
• อูราวะ เรด ไดมอนด์ส (ญี่ปุ่น)
• มอนเตอร์เรย์ (เม็กซิโก)
• อินเตอร์ มิลาน (อตาลี)

กลุ่ม F

• ฟลูมิเนนเซ่ (บราซิล)
• ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี)
• อุลซาน เอชดี (เกาหลีใต้)
• มาเมโลดี้ ซันดาวน์ส (แอฟริกาใต้)

กลุ่ม G

• แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (แมนซิตี้)
• วีดาด เอซี (โมร็อกโก)
• อัล ไอน์ (ยูเออี)
• ยูเวนตุส (อิตาลี)

กลุ่ม H 

• เรอัล มาดริด (สเปน)
• อัล ฮิลาล (ซาอุดิอาระเบีย)
• ปาชูก้า (เม็กซิโก)
• เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย)

................