"โค้ชอ๊อต" เผยเหตุเลือกนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง ประเดิมศึกVNL2025 สนามแรก
"โค๊ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เเจงเหตุผลเลือกผู้เล่น วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ลุยศึกเนชันส์ลีก สนามแรกที่จีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเคลื่อนไหว "วอลเลย์บอลหญิง" ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ "โค๊ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอน นำทัพนักกีฬาเดินทางสู่ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ค. 68 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมลุยศึกวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2025 สนามแรก ระหว่างวันที่ 4-8 มิ.ย. 68 นี้
ชุดนี้นำทัพโดย อัจฉราพร คงยศ (กัปตันทีม), ชัชชุอร โมกศรี, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, พรพรรณ เกิดปราชญ์, ทัดดาว นึกแจ้ง ร่วมด้วยดาวรุ่ง ดลพร สินโพธิ์, วริศรา สีทาเลิศ, กนกพร แสงทอง
โดย "โค๊ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร กล่าวว่า "ไม่มีอะไรต้องชี้แจง เป็นโค้ชก็ต้องตัดสินใจว่าจะเอาใครไปเล่น จะปล่อยให้แฟนคลับปล่อยผู้เล่นก็ไมได้ โค้ชมีหน้าที่จัดสรรผู้เล่นลงไปว่าใครจะเล่น 6 คนแรกในแต่ละตำแหน่ง เป็นหน้าที่ของโค้ชและสต๊าฟโค้ช เราดูแลฝึกซ้อมนักกีฬามา เราตัดสินใจว่าสัปดาห์นี้เราจะเอาไป 18 คน และยังมีเวลาอีก 4-5 วัน ที่เราจะเลือก 6 คนแรกในแต่ละแมตช์
"โค้ชอ๊อต" กล่าวต่อว่า "ยินดีรับฟังทุกคน พวกเราเป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติไทย เราตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ พยายามพัฒนานักกีฬาของเราในทุกมิติตั้งแต่นักกีฬาเยาวชนทีมชาติจนถึงทีมชุดใหญ่ ซึ่งทีมชุดใหญ่เราเตรียมตัวกันมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เพราะว่าการไปแข่งขัน VNL เป็นระดับเวิลด์ คลาส ที่ทีมชาติชุดใหญ่แต่ละชาติร่วมแข่งขันกัน ทุกทีม ทุกประเทศที่เราต้องแข่งขันมีศักยภาพที่สูงมาก เราต้องพิจารณาดูนักกีฬาของเราให้เหมาะสมกับการแข่งขันในแต่ละแมตช์ ต้องขอขอบคุณแฟนกีฬาวอลเลย์บอลทุกท่านที่ได้ติดตามชมและเชียร์มาตลอด 30 ปี กว่าเราจะพัฒนานักกีฬาของเรามาสู่ระดับต้องใช้เวลา ทั้งนี้สำหรับรายการนี้ต้องบอกว่าเป็นรายการเพื่อการเรียนรู้ เราต้องหาโอกาสที่ดีที่เหมาะสมที่จะคัดเลือกตัวนักกีฬาบางคนที่พร้อมและพัฒนาระดับที่สูงต่อไป"
"การแข่งขัน VNL ครั้งนี้ถือเป็นรายการใหญ่แรกของทีมเรา เราจะดูเรื่องของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอีก 15 เดือนข้างหน้า โดยเดือนกันยายน 2026 เข้มข้นและถือว่าเป็นความสำคัญที่สุดในการที่เราจะมีโอกาสลุ้นไปโอลิมปิก 2028 เพราะฉะนั้นครั้งนี้เราจะดูนักกีฬาแต่ละคนว่าแต่ละตำแหน่งมีศักยภาพขนาดไหน และอีก 15 เดือนที่เหลือสามารถต่อยอดขีดความสามารถมากน้อยแค่ไหน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ เทคนิค และ แทคติก หากร่างกายไม่ถึงเราจะดันทุรังไปแข่งขันมันคงไม่ใช่ สภาพจิตใจยังไม่สามารถรับมือและจัดการกับความเครียด ความกดดัน ความวิตกกังวลได้ มันก็คงต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อไป ไม่สามารถเอาไปแข่งได้ และขีดความสามารถในเรื่องของเทคนิคที่ทำไม่ได้มันมีเยอะกว่าทำได้ จะเอาไปมันก็ไม่ถูกต้อง รอให้ทำได้ดีๆเยอะๆ ก่อน หรือทำเกือบได้เยอะๆก่อน แล้วค่อยว่ากัน"
"ส่วนขีดความสามารถในด้านกลยุทธ์ของวิธีการเล่น ก็ต้องมีคุณภาพที่สูงพอสมควร ถ้ายังทำไม่ถึงแล้วฝืนเอาไปก็ไม่ถูกต้อง ส่วนคนที่เหลือก็เป็นลูกหลานของเราทั้งนั้น เด็กๆ 18 คนก็เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วก็มีความตั้งอกตั้งใจเหมือนกัน มีพ่อแม่ครูบาอาจารย์เหมือนกัน และทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมและผมก็เห็นถึงความเพียรพยายาม ทั้ง 30 คนที่อยู่ฝึกซ้อมกับผมไม่ใช่ไม่มีความพยายาม ทุกคนตั้งใจฝึกซ้อมดีมาก บางคนเจ็บบ้าง ป่วยบ้าง เราก็ดูแลรักษา แต่ทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่สิ่งที่มันมีความจำเป็นที่ว่านักกีฬาและโค้ชต้องทำงานร่วมกันว่าเราจะเอาใครไปลงสนามไหนบ้าง มันคงจะลงสนาม 18 คนทีเดียวคงเป็นไปไม่ได้ มันได้แค่ 6 คน ในแต่ละตำแหน่งอยู่แล้ว อันนี้ทีมงานสต๊าฟโค้ชพิจารณากันอย่างรอบคอบว่าสัปดาห์นี้จะเอาใครไป สัปดาห์หน้าก็ยังมีโอกาสอยู่ใน 30 คนนี้ หลังจากนี้ต้องรอดูว่าหลังจากที่แข่งสนามแรกแล้ว สภาพร่างกายแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง มีใครเจ็บป่วยหรือไม่ ก็เป็นแผนบริหารจัดการทีมอยู่แล้ว"
Advertisement
