กรณีสาธารณสุขอำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ สั่งปิดโรงผลิตน้ำแข็งแห่งหนึ่งใน ต.บางโฉลง หลังตรวจคนงานทั้งหมด 156 คน พบผู้ติดโรคโควิด-19 จำนวน 90 คน จึงสั่งให้ทั้งหมดกักตัว และนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่การรักษา รวมทั้งสั่งอายัดน้ำแข็งทั้งหมด ห้ามนำออกจำหน่ายอีกด้วย
ล่าสุดวันที่ 8 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังโรงงานน้ำแข็งหลอดและซอง ในพื้นที่ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยจะเห็นได้ว่าบริเวณโรงงานกั้นเขตขาวแดง ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าและห้ามผู้ที่อยู่ภายในบริษัทดังกล่าวออกจากพื้นที่โรงงานน้ำแข็ง โดยได้มีการปิดโรงงานน้ำแข็งแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.64 เป็นระยะเวลา 14 วัน ก่อนเปิดก็จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง เพื่อตรวจหาเชื้อคนงานทั้งหมดของโรงงานน้ำแข็งแห่งนี้
จากการสอบถามคนงานภายในโรงงาน ระบุว่า ตนกักตัวอยู่ภายในโรงงานน้ำแข็ง เนื่องจากเป็นผู้เสี่ยงสูงจากโรคโควิด-19 ปิดโรงงานตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.64 ตอนนี้ไม่ทราบว่ามีผู้ตอดเชื้อจำนวนกี่คน แต่เรื่องอาหารการกินจะมีคนนำอาหารเข้ามาส่งให้ตอนเย็น และนำเอาอาหารมาปรุงรับประทานกันเอง หรือโทรศัพท์ไปบอกคนที่บ้านให้นำซื้ออาหารแวะมาส่งให้ที่โรงงาน
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับน.ส.กันนิกา ผิวอ่อน อายุ 44 ปี แม่ค้าบริเวณใกล้เคียงโรงงาน ระบุว่า ตนเพิ่งทราบว่าโรงงานน้ำแข็งแห่งนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยอมรับรู้สึกกังวล เพราะต้องขับรถเข้ามาค้าขายลูกชิ้นปิ้ง ซึ่งจะเข้ามาขายตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น. แต่หลังจากที่ปิดโรงงานปิดก็ไม่มีผู้ที่พักอาศัยด้านในเดินออกมาซื้อของ
ทั้งนี้ตนก็ยังรู้สึกกังวลอีกเรื่อง คือ เรื่องรายได้ลดลงกว่าครึ่ง อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงต้องคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และล้างมืออยู่เสมอ ยืนยันว่าตนไม่ได้ซื้อน้ำแข็งจากโรงงานแห่งนี้ ไม่เคยแวะเข้าไปซื้อ เพราะตนมักจะซื้อน้ำแข็งต่อจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายน้ำ เพื่อนำมาแช่ไส้กรอก แช่ผัก
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางสอบถามยังเจ้าของร้านค้าใกล้เคียงโรงงานน้ำแข็ง กล่าวว่า ตนทราบว่าโรงงานแห่งนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 และทางโรงงานได้ปิดตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา โรงงานน้ำแข็งแห่งนี้จะจัดส่งน้ำแข็งให้กับร้านน้ำแข็งภายในอำเภอบางพลี และย่านใกล้เคียง รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ อาทิ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ชลบุรี ซึ่งทางด้านร้านค้าของตนได้ซื้อน้ำแข็งจากบริษัทเครือข่ายของโรงงานนี้ แต่ไม่ใช่โรงงานแห่งนี้ แต่จะมีเป็นบางครั้งหากน้ำแข็งหมดเร็ว ก็จะแวะเวียนไปซื้อน้ำแข็งที่โรงงานแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกกังวลเรื่องน้ำแข็ง หากเป็นเหตุให้ติดเชื้อโควิด-19 และกังวลเรื่องลูกค้าจะระแวงในการซื้อน้ำแข็ง ทำให้ลูกค้าซื้อน้อยลง เพราะขณะนี้ลูกค้ามักจะถามเสมอว่ารับน้ำแข็งมาจากที่ไหน โรงงานแห่งนี้หรือไม่ คาดว่าลูกค้ากังวลเรื่องเชื้อโควิด-19
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามกับ น.ส.อภิรดี แปลงโสภา กำนันตำบลบางโฉลง กล่าวว่า จากการตรวจหาผู้ติดเชื้อภายในโรงงานน้ำแข็งครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 พ.ค.64 ทั้งหมด 156 ราย พบผู้ติดเชื้อจำนวน 90 ราย ไม่พบเชื้อ 66 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้ส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลสนามเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาในวันที่ 7 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 2 จำนวน 100 ราย ขณะนี้ยังคงต้องรอผลของการตรวจหาเชื้อ จึงจะสามารถยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อได้ ส่วนทางด้านโรงงานได้ปิดกั้น โดยนำเทปมากั้นเขตขาวแดง ล้อมปิด บริเวณหน้าโรงงาน และร้านค้าใกล้โรงงาน รวมถึงพื้นที่ตึกของแรงงานอีกด้วย นอกจากนี้การจัดการด้านอาหาร ทางโรงงานจะดูแลโดยได้จัดให้บุคคลภายนอกซื้ออาหารสด อาหารแห้ง และอาหารกล่อง มาส่งให้ที่โรงงานน้ำแข็ง เพื่อนำมาแบ่งจ่ายให้กับผู้กักตัวภายใน
อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจในรอบที่ 2 ยังคงพบเชื้อเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะต้องประชุมเพิ่มเติมในการขยายเพิ่มวันกักตัว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 ต่อไป
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนำเสนอข่าวพบคลัสเตอร์คนงานโรงงานน้ำแข็งติดโควิด-19 ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ และจ.ชลบุรี อาจทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจในการเลือกซื้อน้ำแข็งเพื่อบริโภค กรมอนามัยจึงขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำแข็งทุกแห่งต้องยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการคัดกรองผู้ปฏิบัติงานก่อนมาทำงานในระดับเข้มข้น โดยเจ้าของโรงงานประเมินผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus ส่วนคนงานให้ประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ก่อนเข้ามาทำงานทุกวันจะลดโอกาสที่จะปนเปื้อนเชื้อโควิคได้ รวมทั้งลดความแออัดหรือความหนาแน่นบริเวณที่ปฏิบัติงาน และยังคงเน้นย้ำสุขลักษณะส่วนบุคคลที่ดีของผู้ปฏิบัติงาน เช่น การล้างและฆ่าเชื้อมือ และเปลี่ยนรองเท้าที่จะปฏิบัติงาน การไม่วางน้ำแข็งกับพื้น การล้างและฆ่าเชื้อระบบผลิตน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น ในส่วนของที่พักคนงาน ให้หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม ควบคุมความสะอาดของที่พักให้ได้มาตรฐาน หากมีรถรับ-ส่งต้องจำกัดจำนวนไม่ให้แออัด ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคนและทุกครั้งที่ใช้บริการ หมั่นทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในรถเป็นประจำ ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า สำหรับผู้บริโภคควรเลี่ยงการซื้อน้ำแข็งโม่หรือบดมาบริโภค เนื่องจากในกระบวนการผลิตตั้งแต่การถอดซองออกมาเป็นก้อนน้ำแข็ง การตัดเป็นก้อนเล็ก ๆ จนถึงการโม่ บด บรรจุใส่ถุงหรือกระสอบเพื่อส่งขาย มีโอกาสสัมผัสกับคนงาน สิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำแข็ง ดังนั้น จึงควรเลือกซื้อน้ำแข็งหลอดบรรจุถุงปิดสนิท มีเลขสารบบอาหาร (อย.) ชัดเจนแทน จะมั่นใจและปลอดภัยกว่า เพราะมีกระบวนการทำให้น้ำเป็นน้ำแข็งภายในเครื่องผลิตน้ำแข็งหลอดเป็นระบบปิด ตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practice หรือ GMP) ซึ่งจะไม่มีคนงานเข้าไปเกี่ยวข้องจนกว่าจะบรรจุเสร็จ
ส่วนร้านขนมหวาน ร้านน้ำแข็งใส หรือร้านเครื่องดื่มประเภทที่ต้องชงใส่น้ำแข็ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบการระบาดของ โรคโควิด-19 ที่มาจากโรงงานน้ำแข็งนั้น ควรงดใช้น้ำแข็งชนิดโม่หรือบด ให้เปลี่ยนมาใช้น้ำแข็งหลอดแทน ซึ่งปัจจุบันมีหลายขนาดให้เลือกใช้ทั้งหลอดเล็กหรือแบบเกล็ด ส่วนร้านอาหาร แผงลอย รถเร่ ที่นำน้ำแข็งโม่หรือบดมาใช้แช่อาหารสดนั้น เช่น เนื้อหมู ไก่ กุ้ง ปลา ควรนำมาบรรจุในถุงพลาสติกก่อนแล้วแช่โดยใช้น้ำแข็งกลบให้ทั่ว ไม่ควรให้น้ำแข็งสัมผัสกับอาหารโดยตรง นอกจากจะลดการปนเปื้อนเชื้อโรคต่าง ๆ ได้แล้ว ยังรักษาคุณภาพหรือสภาพของอาหารให้คงเดิมได้ดีกว่าด้วย
“ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ควบคุมการผลิตน้ำแข็งเพื่อจำหน่ายในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานต่าง ๆ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 78 (พ.ศ.2527) และฉบับที่ 137 (พ.ศ.2534) เรื่องน้ำแข็ง เพื่อกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน กรรมวิธีการผลิต การใช้น้ำในการผลิต สถานที่เก็บรักษาน้ำแข็ง การใช้ภาชนะบรรจุน้ำแข็ง ตลอดจนการแสดงฉลาก ต้องมีวิธีการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ ต้องมีการควบคุมกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 420) พ.ศ 2563 เรื่องวิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิตและการเก็บรักษาอาหาร (จี.เอ็ม.พี : GMP: Good Manufacturing Practice) เพื่อลดปัญหาการปนเปื้อน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
Advertisement