
วันที่ 24 ธ.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศ ที่วัดห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพจ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน อายุ 38 ปี ทหารไทยที่ไปเสียชีวิตระหว่างการปะทะกับทหารกัมพูชากับลูกน้องพลทหารรวม 2 ศพในคราวเดียวกันที่เนิน 350 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา
แต่ว่าไม่สามารถนำร่างออกได้ทันที เนื่องจากทหารกัมพูชายิงปะทะหนักหน่วง และใช้ร่างของศพทหารทั้งสองนายเป็นเหยื่อล่อให้ทหารไทยขึ้นไปเอาร่าง ทำให้ศพค้างอยู่บนเนิน 350 นานกว่า 5 วัน
งานพระราชทานเพลิงศพในวันนี้มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานด้วยตัวเอง บรรยากาศทั่วไปยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนร่วมรบชุดเดียวกันมาร่วมงานศพกว่า 10 นาย
หนึ่งในนั้นคือจ่าสิบเอกเกียรติศักดิ์ หอมจันทร์ ได้ออกมาระบุว่า คืนสุดท้ายก่อนที่จะขึ้นเนิน 350 จ่าเริงได้มาบอกตนว่า "พี่ผมแต่งเพลง" และจะร้องให้ฟังเป็นครั้งแรก แล้วจ่าเริงก็ร้องเพลงที่แต่ง โดยมีทหารรุ่นน้องมาเล่นกีตาร์ให้ หลังจากนั้นจ่าเริงได้โทรศัพท์หาลูกสาวว่าหลังกลับจากรบจะพาไปเลี้ยง KFC
สิบเอกเกียรติศักดิ์ กล่าวด้วยว่าจ่าเริงเป็นนักรบใจดี ใจกล้า ทุกครั้งที่ออกรบ จะต้องเอาธงชาติไทยคลุมไหล่เหมือนซูเปอร์แมนไปด้วยทุกครั้ง น่าเสียดายที่เสียทหารดีๆไปแบบนี้
ขณะที่นางสาวชงโค คลังประโคน พี่สาวจ่าเริงบอกว่า น้องชายเป็นคนรักครอบครัว ทุกครั้งที่กลับจากการทำงานก็จะมากราบแม่ ทำให้พี่น้องทุกคนเห็นโดยไม่อายใคร
หลังจากนี้ตนก็จะดูแลแม่แทนจ่าเริง หากตนได้เข้าทำงานเป็นข้าราชการทหารตามที่ รมว.สัญญาไว้และจะสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมให้แม่ในวัดห้วยปอแห่งนี้ตามเจตนารมณ์ของแม่
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆหลังร่วมพิธี ถึงกรณีที่จะให้พี่สาวจ่าเริง ซึ่งอายุได้ 48 ปีแล้วรับราชการทหารนั้น นายกฯระบุว่าทุกอย่างถ้าเป็นไปได้ ไม่ผิดระเบียบ เราต้องเยียวยาอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
Advertisement