เปิดภาพถ่าย24 ปีแห่งความหลัง ชาวบ้านตื้นตันธงชาติไทยปักที่ปราสาทตาควาย
เปิดภาพถ่าย 24 ปีแห่งความหลัง ชาวบ้านตื้นตันใจ หลังเห็นภาพธงชาติไทยปักไว้ที่ปราสาทตาควาย ขอบคุณทหารทำหน้าที่อย่างดีส่งกำลังใจให้ทหารไทยสู้ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายเกษม ยิ่งเชิดสุข ชาวบ้าน ชาว จ.สุรินทร์ เป็นบุคคลเกือบรุ่นแรกที่เข้าไปพื้นที่ปราสาทตาควาย เล่าความหลังในการเข้าไปร่วมบุกเบิกประสาทตาควาย ว่า ขณะนั้นตนเป็นสมาชิกอบต. ได้มีชาวบ้านมาบอกว่ามีปราสาทหลังหนึ่งอยู่จุดบริเวณนั้น จึงต้องการเข้าไปดูพื้นที่เพื่อนำมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบลบักได เมื่อเข้าไปจะพบว่ามีเถาวัลย์คลุมที่ตัวประสาท และมีต้นไทรห้อยรากลงมาถึงดิน ซึ่งหากมองแบบไม่สังเกตุจะเห็นว่ามีตัวประสาทอยู่ตรงพื้นที่บริเวณนั้น ซึ่งหลังจากนั้นชาวบ้านช่วยกันทำความสะอาดตัวปราสาท
โดยในระหว่างที่สัมภาษณ์ นายเกษม ได้มีการโชว์รูปภาพที่ถ่ายพร้อมกลุ่มเพื่อน ขณะที่อยู่บริเวณตัวปราสาทตาควาย ซึ่งบอกว่าถ่ายตั้งแต่ปี 2544 และให้ข้อมูลเพิ่มด้วยว่า ในปีนั้นยังไม่มีถนนเช่นปัจจุบัน มีเพียงทางเดินแคบๆ ที่ต้องเดินลัดเลาะกันเข้าไป แต่เมื่อมาถึงปี 2554 ที่มีการประทะกัน ทหารจึงเริ่มตัดทางเข้าไป และหลังจากนั้นทางอบต. จึงมีการจัดงานบวงสรวงปราสาทมาจนถึงทุกวันนี้
ซึ่งความรู้สึกแรกที่ตนได้เห็น ได้แต่นึกคิดว่ามาสร้างที่ตรงนี้ได้อย่างไร ซึ่งมีประสาทอยู่เพียงหลังเดียว เหมือนเจดีย์ ไม่เหมือนกับประสาทกลุ่มตาเมือน ซึ่งหลังจากมีการปรับปรุงก็จะได้รับความเคารพนับถือจากคนในพื้นที่ และมีการจัดกิจกรรมบวงสรวง ทุกวันที่ 22 เมษายน ของทุกปี
ทั้งนี้ยังเผยความรู้สึกในวันที่ต้องสูญเสียประสาทให้กับกัมพูชา หลังจากได้เห็นภาพที่กัมพูชาได้มีการเผยแพร่ ยอมรับว่าหมดหวังคิดว่าคงไม่ได้คืนหากไม่มีการยิงกัน ซึ่งขนาดอยู่ด้วยกันมากัมพูชายังอยากได้ปราสาท พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาความหวังริบหรี่และจะไม่ได้คืนแน่นอน แต่เมื่อมาวันนี้เห็น “ธงชาติไทยไปปักที่ปราสาทตาควายแล้ว ตนรู้สึกตื้นตันและดีใจ และคิดว่าน่าจะกลับมาเป็นของไทยแล้ว แม้ว่าวันนี้ยังมีการปะทะกันอยู่ แต่ยังคงหวังว่าเราจะได้ปราสาทตาควายคืน”
ส่วนที่กรมศิลปากรยืนยันว่าปราสาทตาควายซ่อมได้หากยังอยู่ในพื้นที่ของประเทศไทยนั้น ตนก็คิดว่าน่าจะทำได้ เพราะในพื้นที่บริเวณนั้นหินเยอะ ถ้าจะทำจริงคงสามารถนำมาประกอบกันได้
“วันนี้ขอขอบคุณทหารทุกคน ที่ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ตนรู้สึกภูมิใจที่สามารถยึดตัวประสาทตาควายคืนมาได้ ขอให้ทหารไทยสู้ๆ และตนรอวันที่จะได้กลับไปดูประสาทตาควายอีกครั้ง เนื่องจากส่วนตัวนั้นก็ไปเที่ยวทุกปีอยู่แล้ว และในปีนี้ก็อยากจะไปอีกเช่นกัน แต่คิดว่าอาจจะยังไม่สามารถไปได้ เนื่องจากสถานการณ์ยังคงไม่สงบ” นายเกษม กล่าว.
Advertisement
