
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ณ วัดไลย์ชัยมงคล ตำบลจะกง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ มณฑลทหารบกที่25 (มทบ.25) ได้อำนวยการจัดกำลังพลและยานพาหนะ ประกอบพิธีรับศพจ่าสิบเอกอนันดา อุดร หรือ “จ่ามิน” อายุ 39 ปี สังกัดร.16พัน.3พล.ร.6 ค่ายบดินทรเดชา จังหวัดยโสธร ผู้เสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยในเหตุปะทะ บริเวณสมรภูมิภูมะเขือฐานปฏิบัติการฟีนิกซ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
ก่อนหน้านั้นจ่าสิบเอกอนันดา ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสะเก็ดระเบิด BM-21 ของทหารกัมพูชา ถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะที่เมื่อเวลา 15.09 น.ขบวนรถเชิญศพออกจากโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิ จังหวัดสุรินทร์ มาถึงวัดไลย์ชัยมงคล กองทหารเกียรติได้ตั้งแถวเป่าแตรรับเพื่อสดุดีวีรกรรมของผู้กล้า เป็นภาพอันสงบสำรวมและเปี่ยมด้วยความอาลัยจากญาติพี่น้องข้าราชการและประชาชนที่มารอรับอย่างเนืองแน่น
ต่อมาเวลา 16.00 น.นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาประธานในพิธีมอบกระเช้าพระราชทานให้แกครอบครัว ของจ.ส.อ.อนันดา อุดร เพื่อเชิดชูเกียรติคุณและความเสียสละอันทรงคุณค่า ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มใจให้กับครอบครัวของ จ.ส.อ.อนันดาอุดร
ต่อมาพลตรีณัฐ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางมาเป็นประธานรดน้ำหลวงอาบศพพระราชทาน ตามด้วยนายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานวางพวงมาลาหลวงพระราชทานท่ามกลางเหล่าทหารข้าราชการและประชาชนที่ร่วมยืนสงบนิ่งไว้อาลัยอย่างพร้อมเพรียง
นอกจากนี้ในพิธีครั้งนี้ยังได้มี“เจ้ามาลิ”สุนัขคู่ใจของจ่ามิน มาร่วมในพิธีศพอีกด้วย ทั้งนี้เจ้ามะลิเป็นสุนัขที่แม่ของเจ้ามะลิหนีภัยสงครามในสมรภูมิรบครั้งแรกแล้วมาคลอดเจ้ามะลิอยู่ใกล้กับที่พักหรือหลุมหลบภัย ก่อนที่จ่ามิน จะเอามาเลี้ยงเหมือนลูก
ด้านนายเวียง อุดร อายุ 78 ปี บิดาของผู้วายชนม์ เปิดเผยด้วยความโศกเศร้าว่า ลูกชายเป็นผู้มีความประพฤติดีว่านอนสอนง่าย ไม่เคยทำให้พ่อแม่เป็นกังวล ก่อนเกิดเหตุยังได้พูดคุยกันและตนได้กำชับให้ลูกระมัดระวังตัว แต่เมื่อต้องพลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดิน แม้เต็มไปด้วยความเสียใจก็ยอมรับด้วยหัวใจของคนเป็นพ่อ
นายเวียงเผย อีกว่าจ่าสิบเอกอนันดา มีความฝันอยากศึกษาต่อ เพื่อเติบโตในสายทหารและหวังจะมียศใหญ่โตในอนาคต ก่อนทิ้งท้ายด้วยคำอธิษฐานให้ลูกชาย “ไปสู่สุคติ ณ สรวงสวรรค์”
Advertisement