หวิดดับหมู่! 3 จิตอาสาเจ็ตสกีคว่ำลอยคอ ต่างชาติโดดช่วยเกือบไม่รอด
หวิดดับหมู่! 3 จิตอาสาตกเจ็ตสกี ลอยคอเกาะต้นไม้สู้น้ำเชี่ยว ชายต่างชาติเห็นรีบโดดช่วยจนติดเองอีกคน กู้ภัยเร่งฝ่ากระแสน้ำช่วย สุดท้ายขึ้นฝั่งปลอดภัย
วันที่ 28 พ.ย. 68 ที่ จ.สตูล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ในพื้นที่ แจ้งว่า มีจิตอาสาขับเจ็ตสกีคว่ำ เเละลอยคอเกาะต้นไม้ติดอยู่กลางคลองละงู โดยเจ้าหน้าที่กำลังเตรียมที่จะนำเรือท้องแบน และเจ็ตสกีขับเข้าไปช่วยเหลือ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า มีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 4 ราย ทราบชื่อคือ นายภู ปี 38 จิตอาสา ปลอดภัยแล้ว นายโบ 45 ปี บาดเจ็บ ช่วงลำตัว กู้ภัยสันนิษฐาน ซี่โครงหัก นายวิน 36 ปี (ปลอดภัย) เเละนายบรูโน่ ชาวลิทูเอเนีย
เบื้องต้นกระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว เพราะเป็นคลองระบายน้ำ จนเจ้าหน้าที่ต่างไหลไปตามน้ำคนละทิศละทาง คนหนึ่งต้องเกาะไม้ไผ่เอาไว้เพื่อเอาชีวิตรอด เเละเจ็ตสกีที่ขี่มาก็พลิกคว่ำติดอยู่กับต้นไม้ และอีกสองคนก็ต้องเกาะต้นไม้เอาไว้ ก่อนที่จะพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมาบนสะพาน ซึ่งในระหว่างนั้นกลุ่มกู้ชีพได้ร้องขอความช่วยเหลือ นายบรูโน่ ชาวลิทูเอเนีย ที่มาอยู่ไทยนาน 2 สัปดาห์ ปั่นรถจักรยานผ่านมา จึงลงไปเพื่อช่วยเหลือกู้ชีพ จนสุดท้ายตนเองก็ติดอยู่บริเวณดังกล่าวด้วย
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ มูลนิธิกู้ภัย เจ้าหน้าที่ อบต.เเละ สส. ในเขตพื้นที่รีบเร่งให้การช่วยเหลือทันที โดยมีการนำเรือท้องเเบนลงน้ำ เพื่อไปดูอาการผู้บาดเจ็บ เเละนำคนเจ็บขึ้นเจ็ตสกี เเละขี่กลับเข้าฝั่งทันที ก่อนที่แพทย์ทหารจะเข้าไปดูอาการเบื้องต้น และรีบนำตัวขึ้นแผ่นไม้ใส่ท้ายรถกระบะและนำตัวออกไปส่งที่โรงพยาบาลละงู
โดยในช่วงของการประเมินอาการคาดว่านายโบ น่าจะได้รับบาดเจ็บช่วงลำตัวซี่โครงหัก ซึ่งในช่วงที่มีการอุ้มนายโบขึ้นและพยายามที่จะยกตัวใส่ท้ายรถกระบะนั้น นายโบ มีการส่งเสียงร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด
อีกด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำเรือท้องแบนขับเข้าไปช่วย นายภูได้สำเร็จ ก่อนจะขับไปส่งขึ้นฝั่งเนื่องจากมีกระแสน้ำที่รุนแรงจึงทำให้ต้องช่วยได้ทีละคนเท่านั้น ก่อนที่จะขับเรือกลับมารับนายบรูโน่ชาวต่างชาติขึ้นฝั่ง
ส่วนนายวิน ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือ และขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย เรียบร้อยแล้ว
โดยหลังจากที่นายภูได้ขึ้นมาบนฝั่งแล้วได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับทีมกู้ภัย และทีมข่าวได้รับทราบว่า จะไปช่วยชาวบ้านคนหนึ่งปิดประตูบ้าน ตนเลยขับเจ็ตสกีพาเขาเข้าไป พอเสร็จภารกิจ นายวินโทรมาบอกว่านายโบเจ็ตสกีคว่ำหายไปแล้ว ส่วนตัวของเขาเองก็ไม่ปลอดภัย เพราะติดอยู่บนต้นไม้
ในขณะนั้นตนเองจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากนายบรูโน่ให้มาช่วยกัน ตนจึงได้พานายบรูโน่ขี่เจ็ตสกี เพื่อที่จะไปช่วยนายวิน แต่ปรากฏว่ามีเศษขยะติดอยู่ในใบพัดทำให้เครื่องเจ็ตสกีดับ และเรือกำลังจะไหลไปชนสะพาน นายบรูโน่จึงได้กระโดดลงกลางน้ำ และว่ายไปจับกิ่งไม้ และดึงเชือกลากเจ็ตสกีเข้าไปติดอยู่ในกิ่งไม้ด้วยกัน
โดย นายภูยังได้กล่าวด้วยความรู้สึกผิดอีกว่า ตนเองเป็นต้นเหตุทำให้ทุกคนเดือดร้อนจากที่ตนเองจะได้ไปช่วยคนอื่น แต่กลายเป็นว่าคนอื่นจะต้องมาช่วย
โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ช่วย นายบรูโน่ ขึ้นฝั่งได้สำเร็จ นายภูได้เห็นก็ได้กล่าวขอบคุณ และยกมือไหว้ทางด้านนายบรูโน่ ชาวต่างชาติได้บอกว่าไม่เป็นไรแต่ทีหลัง ให้ขี่เจ็ตสกีช้าลงกว่านี้หน่อย
หลังจากนั้นนายภูก็ได้วิดีโอคอลโทรหานายวิน เพื่อยืนยันว่าอีกฝ่ายปลอดภัยดี
ก่อนที่นายภูจะกล่าวอีกว่า ตนเอง เพียงแค่ต้องการที่จะมาขับสำรวจเส้นทางเพื่อที่จะนำอาหารมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเท่านั้นแต่ก็มาเกิดเหตุขึ้น ก้อนที่นายภู จะได้เข้าไปสวมกอดขอบคุณนายบรูโน่ ชาวต่างชาติ และแลกคอนแทคเฟซบุ๊กกันไว้ เพื่อติดต่อกันในอนาคต
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายอภิวัฒน์ สุขอนันต์ มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีจุดกาญจนดิษฐ์ คนขับเจตสกี เเละ นาย วัชราวุธ ญาณวินะโย กู้ภัย สมาคมพุทธประทีปหลังสวนจังหวัดชุมพร ผู้ที่ไปด้วยกัน เเละไปช่วยประคองนายโบ คนเจ็บกลับเข้าฝั่ง โดยทั้งสองคนเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตอนนั้นตนได้เข้าไปอพยพหมาเเมวที่หมู่ 5 กำลังจะกลับฐาน เเต่วิทยุเข้าว่ามีเจ็ตสกีล่ม ตนเลยรีบมุ่งหน้ามาทันที
ส่วนความยากของการช่วยเหลือคือกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวเเละผู้ได้รับบาดเจ็บร่างกายค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจากการพูดคุยพบว่า ผู้บาดเจ็บยังมีสติดี เเละน่าจะติดอยู่ตรงนั้นมานานเกือบ 15 นาทีเเล้ว เเละคาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บบริเวณลำตัว ซี่โครงหัก ศีรษะไม่ได้รับบาดเจ็บ เเต่ไม่มีเเรงขยับไปไหน
ส่วนเรื่องเจ็ตสกีที่คาอยู่ คงจะต้องรอน้ำลดก่อน คงจะไม่เสี่ยงออกไปกู้ เพราะเราต้องเซฟชีวิตคนก่อน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็อยากฝากพี่ๆ กู้ภัยหรือจิตอาสาที่เข้ามาให้ไปรายงายตัวที่ อบต.ต่างๆ ที่เป็นศูนย์บัญชาการก่อน จะได้มีคนพื้นที่เข้าไปด้วยเเละทำงานร่วมกันได้สะดวกมากขึ้น พวกตนไม่ได้โกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะทุกคนตั้งใจที่จะมาช่วย เรื่องของความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติอยู่เเล้ว
Advertisement
