ตายแล้วต้องแจ้งใคร ใบรับรองการตาย - ใบมรณบัตร แตกต่างกันอย่างไร?
ตายแล้วต้องแจ้งใคร ใบรับรองการตาย - ใบมรณบัตร แตกต่างกันอย่างไร ใครมีหน้าที่ออกให้?
ข่าวตายแล้วฟื้น ทำเอาสังคมแทบช็อกไปตามกัน ๆ เมื่อจู่ ๆ หญิงวัย 65 ปี ที่ญาติเชื่อว่าเสียชีวิตกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาภายหลังนำร่างบรรจุลงหีบศพเดินทางจาก จ.พิษณุโลก มาเตรียมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดราษฎร์ประคองธรรม จ.นนทุบรี ล่าสุดนำส่งแพทย์ตรวจ ยืนยันผลไม่พบภาวะ "การหยุดหายใจ" มาก่อน มีเพียงภาวะน้ำตาลตกเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้ญาติได้พบร่างหญิงวัย 65 หมดสติท่านั่งภายในสวนมะพร้าง พบว่ามีอาการตัวเย็นและไม่หายใจ จึงเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว และได้เดินทางไปให้ผู้ใหญ่บ้านช่วย "ลงนามรับรองการเสียชีวิต" โดยผู้ใหญ่บ้านไม่ได้มาตรวจร่างด้วยตนเอง
จากนั้นได้นำร่างบรรจุเข้าหีบเพื่อส่งมอง รพ.จุฬาลงกรณ์ ตามคำสั่งเสียสุดท้าย แต่เมื่อมาถึง รพ.กลับไม่สามารถส่งมอบร่างไว้ได้ เนื่องจากไม่มีใบบันทึกประจำวัน หรือหลักฐานรับรอง อีกทั้งสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ญาติะตัดสินใจนำมายังวัดที่มีการฌาปนกิจฟรี ก่อนที่คุณยายจะเคาะหีบเรียกให้ช่วยเหลือ
สังคมจึงเกิดการตั้งคำถามขึ้นมาว่า แล้วใครเป็นผู้ออกใบมรณะบัตรให้ หลังตรวจสอบแล้วเคสนี้ มีเพียงแค่การออกใบรับรองการเสียชีวิตที่ออกโดยผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น
ใบรับรองการตาย - ใบมรณบัตร ต่างกันอย่างไร?
การแจ้งการตาย หรือขอใบรับรองการตาย
การแจ้งตาย มี 2 กรณีใหญ่ๆ ได้แก่
1. กรณีตายในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล
แพทย์จะออก หนังสือรับรองการตาย (ใบ ท.ร.4/1) ให้แก่ญาติ เพื่อให้ญาตินำไปรวมกับเอกสารอื่นๆ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งตาย บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย (ถ้ามี) และสำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อคนตาย (ถ้ามี) สำหรับนำไปยื่นให้กับนายทะเบียน ณ ที่ทำการปกครองอำเภอหรือเขต ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากตาย เพื่อออก "ใบมรณบัตร"
2. กรณีตายนอกโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล
บ้านผู้ตายอยู่ในเขตที่ทำการปกครองอำเภอ ให้ผู้แจ้งตาย แจ้งต่อผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นผู้ใหญ่บ้านจะออกใบรับแจ้งการตาย (ท.ร.4 ตอนหน้า) มาให้ ผู้แจ้งตายจะต้องนำเอกสารดังกล่าว พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งตาย บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย (ถ้ามี) และสำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อคนตาย (ถ้ามี) ไปยื่นแก่นายทะเบียน เพื่อให้นายทะเบียนออก "ใบมรณบัตร"
หากบ้านผู้ตายอยู่ในเขตหรือเทศบาล ให้ไปแจ้งต่อสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาล เพื่อออกใบรับแจ้งการตาย (ท.ร.4 ตอนหน้า) ให้ญาตินำไปแจ้งขอออก "ใบมรณบัตร" จากสำนักทะเบียนท้องถิ่น
กรณีตายในบ้าน เช่น บ้านของผู้ตาย บ้านของญาติพี่น้อง บ้านของเพื่อน ในโรงงานหรือสถานประกอบการต่างๆ ผู้แจ้งตายซึ่งอาจเป็นเจ้าบ้านที่มีคนตาย ผู้พบศพ หรือ บุคคลที่ได้รับมอบหมายให้แจ้งการตาย จะต้องแจ้งการตายภายใน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่ตาย หรือพบศพ
สำหรับกรณีตายนอกบ้าน เช่น ทุ่งนาป่าเขา เป็นต้น ผู้แจ้งตายซึ่งเป็นผู้พบศพ จะต้องรีบแจ้งตายภายใน 24 ชั่วโมงหลังพบศพ แต่ถ้าหากพื้นที่ใดมีการเดินทางที่ยากลำบาก และมีระยะทางยาวไกล ทางการจะยืดหยุ่นระยะเวลาการแจ้งตายเอาไว้ว่าสามารถแจ้งตายได้ภายใน 7 วัน หากแจ้งเกินกว่านี้จะต้องถูกปรับไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนวิธีการแจ้งตายและหลักฐานการแจ้งตายจะใช้แบบเดียวกันกับกรณีตายในบ้าน
สำหรับกรณีการตายผิดธรรมชาติ ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน เช่น ถูกฆ่าตาย ตกจากที่สูง อุบัติเหตุ เป็นต้น จะต้องมีหลักฐานการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนยื่นต่อนายทะเบียน เมื่อยื่นหลักฐานต่อนายทะเบียนแล้ว นายทะเบียนจะทำการจำหน่ายชื่อผู้ตายออกจากทะเบียนบ้าน โดยจะประทับคำว่า "ตาย" เป็นสีแดงไว้หน้ารายการคนตายของทะเบียนบ้าน ก่อนที่จะออก "ใบมรณบัตร" จากนั้นนายทะเบียนจะคืนใบมรณบัตร เอกสารสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมบัตรประจำตัวประชาชนคืนให้แก่ผู้แจ้งตาย เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการแจ้งตาย
การขอใบมรณบัตร
"ใบมรณบัตร" คือ หนังสือสำคัญทางกฎหมาย ที่นายทะเบียนออกให้เป็นหลักฐาน "ยืนยันการตาย" ของบุคคลอย่างเป็นทางการ ตามกฎหมายทะเบียนราษฎร เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญทในการดำเนินการทางกฎหมายและธุรการทุกอย่างหลังการตาย เช่น การจัดการมรดก การทำนิติกรรม การเบิกสวัสดิการ เงินประกัน เป็นต้น
ใครมีหน้าที่ออกใบมรณบัตร
ผู้ที่มีอำนาจในการออกใบมรณบัตร คือ นายทะเบียน ผู้รับแจ้งการตาย หมายถึง นายทะเบียนอำเภอ นายทะเบียนท้องถิ่น สำนักงานเขต
สรุปง่ายๆ คือ ใบรับรองการตาย เป็นแค่ "ใบผ่านทาง" ที่นำไปสู่การออก "ใบมรณบัตร" ซึ่งเป็นเอกสารทางราชการที่มีความสำคัญทางกฎหมายสูงสุดในการยืนยันการตายนั่นเอง
Advertisement
