
วันที่ 24 พ.ย. 68 ความคืบหน้าเหตุการณ์หญิงวัย 65 ปี ฟื้นขึ้นมาหลังถูกญาตินำร่างใส่โลงเดินทางข้ามจังหวัด ล่าสุดอาการปลอดภัยอยู่ในการดูแลของแพทย์
หลังจากเจ้าหน้าที่วัดนำตัวคุณยายส่งโรงพยาบาลเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา แพทย์ตรวจร่างกายพบว่า คุณยายมีสัญญาณชีพปกติดี มีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ จึงให้น้ำเกลือเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนซักถามญาติว่าจะให้คุณยายพักรักษาต่อหรือไม่ แต่น้องชายของคุณยายได้เซ็นเอกสารขอนำพี่สาวกลับไปรักษาที่ จ.พิษณุโลกต่อ ไม่ประสงค์ให้พักดูอาการในโรงพยาบาลเพิ่ม ทำให้เจ้าหน้าที่วัดราษฎร์ประคองธรรมต้องนำเรื่องกลับไปปรึกษาหลวงพ่อเจ้าอาวาส
ระหว่างรอให้คุณยายออกจากโรงพยาบาล ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับน้องชายของคุณยาย เจ้าตัวระบุว่า เหตุที่ต้องรีบพากลับ เนื่องจากยังมีภาระต้องดูแลมารดาที่ จ.พิษณุโลก เกรงว่าหากคุณยายพักรักษาต่อ จะทำให้การเดินทางกลับยากขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการนำร่างพี่สาวเดินทางกว่า 400 กิโลเมตรมายังกรุงเทพฯ นายมงคล เล่าว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 68 เวลาประมาณ 17.00 น. พี่สาวหมดสติในสวนมะพร้าวในท่านั่ง ครอบครัวตรวจดูพบว่าตัวเย็น และไม่หายใจ จึงเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว และได้เดินทางไปให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยลงนามรับรองการเสียชีวิตในเวลาประมาณ 18.00 น. โดยผู้ใหญ่บ้านไม่ได้มาตรวจร่างด้วยตนเอง
จากนั้นจึงปฏิบัติตามคำสั่งเสียของคุณยายที่เคยบริจาคร่างกายไว้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ ญาตินำร่างใส่โลง ปิดฝาโลงและคุมผ้าใบก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลกลับไม่สามารถส่งมอบร่างได้ เพราะไม่มีใบบันทึกประจำวันหรือหลักฐานรับรอง พร้อมทั้งสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ญาติจึงค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และตัดสินใจนำมายังวัดที่มีการฌาปนกิจฟรี
นายมงคล ยอมรับว่า ตกใจที่พี่สาวฟื้นขึ้นมา แต่รู้สึกเฉยๆ เนื่องจากผ่านเรื่องหนักๆ มามาก หลังจากนั้นได้กลับไปพบเจ้าอาวาสอีกครั้ง ซึ่งหลวงพ่อแนะนำให้พี่สาวพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลประมาณ 3 วัน และพร้อมช่วยเหลือค่ารักษา เจ้าหน้าที่จึงนำคุณยายกลับไปรักษาต่อ
น้องชาย ระบุว่า ในระหว่างนี้ตนจะเดินทางกลับไปดูแลมารดาที่ จ.พิษณุโลก เพราะเกิดอุบัติเหตุรถชนขาหัก ระหว่างที่ตนเดินทางกลับก็จะให้ญาติที่อาศัยอยู่ใน จ.นนทบุรี มาเฝ้าดูแลต่อ
ด้านแพทย์ผู้ตรวจอาการยืนยันว่า จากการตรวจร่างกายไม่พบสัญญาณว่าคุณยายมีภาวะหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้นมาก่อน อาการหลักคือภาวะน้ำตาลตก ซึ่งได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว และจะดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
Advertisement