
“กัน จอมพลัง” ให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ทีวี ถึงเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งตัวเองได้รับข้อความขอบคุณจากทหารในจุดนั้น เนื่องจากเขาได้ใช้งานบังเกอร์ไซต์เดียวกับที่ปราสาทตาเมือนธม ที่ตนสร้างไว้ให้ก่อนหน้านี้ ซึ่งด้านในมีระบบไฟและจุคนได้หลายสิบคน กันน้ำซึม เพื่อหลบกระสุนที่ฝั่งกัมพูชายิงสาดเข้าในช่วงกลางวันของวันนี้ ซึ่งถ้าไม่ได้บังเกอร์ตรงนั้น ก็อาจจะมีทหารไทยได้รับบาดเจ็บหรือไม่ก็เกิดการสูญเสียแน่นอน เนื่องจากในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วเป็นพื้นที่โล่ง ที่เป็นทุ่งนาและป่ายูคาลิปตัส ซึ่งยังไงต้นยูคาลิปตัสก็เอากระสนุไม่อยู่อยู่แล้ว ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ตนรู้สึกภูมิใจ
ทั้งนี้จากที่ตนได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารและคนในท้องที่ ก็ได้รับการยืนยันว่าฝั่งกัมพูชาเป็นคนเปิดฉากยิงก่อนจริง ตามคลิปหลักฐานที่กัมพูชาปล่อยออกมาว่าได้กดกระสุนใส่ฝั่งไทย ส่วนฝั่งไทยเองก็มีความจำเป็นต้องตอบโต้ตามหน้างาน เพื่อเตือนกัมพูชาให้รู้ว่ามีทหารอยู่ ซึ่งตามหลักความเป็นจริง ตนก็มองว่าควรที่จะตอบโต้ เพราะเราปล่อยให้เขาสาดกระสุนใส่บ้านอย่างเดียว ก็คงเป็นไม่ได้
และสำหรับสถานการณ์ตรงชายแดนบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว เท่าที่ตนได้รับรายงานเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ก็ยอมรับว่าค่อนข้างตึง ทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงทหารตรงนั้นไม่ได้ เนื่องจาก รู้ดีว่าหลายคนมีลูก มีครอบครัว มีพ่อแม่ที่ชราอยู่บ้าน
นอกจากนี้ “กัน จอมพลัง” ยังเล่าอีกว่าก่อนหน้านี้ตนได้ไปสร้างบังเกอร์สำหรับยิงตอบโต้ไว้ด้วย แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ตนโดนโจมตี จึงทำให้บางส่วนยังสร้างได้แค่ 80 เปอร์เซ็น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีใครสานต่อ จึงทำให้บังเกอร์นี้มีบางส่วนที่โดนกระสุนจนเป็นรูตามที่มีภาพปรากฏไปตอนเย็น ซึ่งหากสร้างเสร็จกระสุนจะไม่มีทางได้ลอดเข้าไป แต่ภาพมันก็ชัดเจนว่าสามารถปกป้องชีวิตของทหารชั้นผู้น้อยที่อยู่หน้าแนวได้จริง
และเมื่อถามว่า เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ จะกลับไปสร้างต่อให้เสร็จสมบูรณ์ไหม?
“กัน จอมพลัง” บอกว่าจริงๆแล้ว ตนไม่อยากลงไปหน้างานในช่วงที่ยังคงมีกระแสโจมตี เพราะสงสารทหารบางคน ตั้งใจทำงานแล้วโดนหางเลขไปด้วย ก็เลยพยายามถามกับเอฟซีในแพลตฟอร์มต่างๆ ส่วนใหญ่ก็อยากให้ตนกลับไปทำต่อให้เสร็จ ดังนั้นหลังจากนี้ก็จะประสานเข้าไปในพื้นที่ ถ้าหากยังยินดีที่จะให้ตนเข้าไปทำต่อ ตนก็ยินดีที่จะเข้าไปเพราะไม่ได้ติดขัดอะไรอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ ”กัน จอมพลัง“ ยังอยากฝากถึงกลุ่มคนที่ยังคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นหน้าที่ของทหารทั้งหมด ไม่ควรให้ภาคประชาชนเข้าไปช่วย ให้คิดใหม่ว่า เวลาเขมรมันยิงเข้ามามันไม่ได้เลือกว่าเป้าหมายเป็นทหารหรือประชาชนคนไทย
ดังนั้นการช่วยเหลือของตนก็เหมือนปกป้องประเทศไทย ไม่ใช่สะท้อนถึงความไม่พร้อมของใครหรือหน่วยงานไหน และอยากจะถามกลับไปว่า “แล้วทำไมเราต้องปล่อยให้ทหารโดดเดี่ยว ทั้งๆที่วันนี้เราช่วยได้” เพราะสุดท้ายแล้วประเทศไทยจะชนะได้ด้วยคำว่า “สามัคคี”
นอกจากนี้ “กัน จอมพลัง” บอกว่าส่วนตัวไม่เคยไว้ใจเขมรเลย เนื่องจากคลุกคลีอยู่กับพื้นที่ชายแดนมาโดยตลอด แล้วช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าพฤติกรรมของเขมรมักเล่นบทผู้น่าสงสาร ปากบอกว่าต้องการสันติ แต่สุดท้ายก็แอบเอาทุ่นระเบิดมาวาง จนทำให้ทหารไทยเสียขาเป็นขาที่ 7 แล้ววันนี้ยังยิงกระสุนเข้ามาในประเทศไทยอีก แล้วจะเอาสันติมาจากไหน ดังนั้นประเทศไทยควรหยุดตอบโต้ด้วยกระดาษดูโต๊ะเจรจา แต่ควรจะเอาจริงให้มากกว่านี้ ให้มันไม่กล้ามาเจ๊าะแจ๊ะกับเราได้อีก
และภาพที่กัมพูชาสร้างฉากว่ามีผู้บาดเจ็บ แล้วหิ้วปีกส่งโรงพยาบาลนั้น จริงๆแล้วเขาอาจจะเป็นทหารที่มาแต่งเป็นประชาชนเพื่อสร้างภาพก็ได้ เพราะวิธีการของเขาคือเริ่มต้นจากการปล่อยเฟคนิวส์เพื่อหลอกสายตาชาวโลก แล้วคนที่ตามแก้ก็คือเราเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา
ส่วนที่ตนเคยโพสต์ว่าจะโอนตังค์ช่วยเหลือให้กับทหารที่เสียขาเป็นขาที่ 7 จำนวน 50,000 บาทนั้น ตนก็ได้โอนไปเรียบร้อยเมื่อ 2 วันก่อน เพียงแค่ยังไม่ได้แปะสลิปก็เท่านั้น เพราะตนเข้าใจว่าการสูญเสียมันกระทบหลายอย่างทั้งครอบครัวและคนข้างหลัง อย่างน้อยเงิน 50,000 บาท มันก็พอได้เยียวยาความรู้สึก ให้เขาได้รู้ว่า “กัน จอมพลัง” ยังซัพพอร์ต ยังเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ เพราะขาหนึ่งข้างกับเงิน 50,000 ยังไงมันก็เทียบกันไม่ได้
Advertisement