ยังอ่วม! น้ำท่วมอยุธยายังสูง ชาวบ้านยังเดือดร้อนกว่า 59,830 ครัวเรือน
ยังอ่วม! น้ำท่วมอยุธยายังสูง ชาวบ้านยังเดือดร้อนกว่า 59,830 ครัวเรือน ขณะชาวบ้านที่อยู่บนเกาะเรียนอ่วม ใช้ชีวิตอยู่กับน้ำนานหลายเดือน
(12 พ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปรับการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นมาในอัตรา 2,900 ลบ.ม./วินาที ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชุมชนหลายชุมชนถูกน้ำท่วมสูง อีก 1 ชุมชน ที่ได้รับผลกระทบหนักคือ ชุมชนเกาะเรียน เป็นลักษณะเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมภาพรวมใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ที่ยังคงได้รับผลกระทบน้ำท่วม 11 อำเภอ 143 ตำบล 945 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนสูงถึง 59,830 ครัวเรือน แล้วจากเดิมที่มีอยู่ 59,490 ครัวเรือน เรียกว่าผลกระทบขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นแบบรายวัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังชุมชนเกาะเรียนซึ่งเป็นอีกหนึ่งในหลายชุมชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมอย่างหนักในตอนนี้ แต่ชุมชนเกาะเรียนแห่งนี้มีลักษณะเป็นชุมชนที่อยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา มีคลองเกาะเรียนตัดผ่านเข้าออกทางเดียว คือ สะพานปูน จะมีอยู่คือหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 เกือบ 100 หลังคาเรือน อยู่ 2 ฝั่งริมคลอง ถูกน้ำท่วมได้รับผลกระทบหนักไม่น้อยไปกว่าพื้นที่อื่นๆ
พบว่าภายในชุมชนพี่น้องประชาชนต้องนำรถยนต์รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่บริเวณสะพานอยู่ริมถนนทางเข้าชุมชน เนื่องจากภายในชุมชนถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะได้รับผลกระทบหนัก ชาวบ้านเกือบ 100 เปอร์เซ็น ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเข้าออก
โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียงก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด นั่งมองน้ำไปนั่งมองคนป่วยไปไม่รู้ว่าน้ำจะขึ้นมามากแค่ไหน แต่ก็มีการนำธงมาติดตั้งไว้หน้าบ้านของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาค่อยมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมการช่วยเหลือทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าน้ำมากขึ้นกว่านี้
สอบถาม ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ชุมชนตรงนี้เป็นเกาะบ้านตนเองน้ำท่วมเมื่อวันที่ 20 กันยายน ส่วนอีกฝั่งที่เป็นแม่น้ำเจ้าพระยาท่วมมาก่อนแล้ว ฝั่งตนเองเป็นอยู่ฝั่งคลองเกาะเรียน ไปไหนก็ต้องพายเรือ ห้องน้ำก็เริ่มใช้ไม่ได้ เข้าออกลำบาก พ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาขายของก็เข้ามาไม่ได้ เราไม่มีรถ มีเรือก็ไปไหนไม่ได้ต้องรอลูกหลานกลับมาในวันหยุดไปซื้อมาตุนเก็บไว้ หรือว่าถ้ามีเท่าไหร่ก็กินเท่านั้นในช่วงนี้ลำบากไปหมด
ด้าน น.ส.ยุรี บ้านอยู่ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเกาะเรียนเล่าว่า เราต้องพายเรือทุกวันไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ทั้งนักเรียนทั้งคนงานที่อยู่บ้าน เพราะเรือมีลำเดียว เรือนี้ตนเองก็ซื้อมาตั้งแต่ พ.ศ. 2538 น้ำท่วมตอนนั้นตอนนี้ท่วมมา 2-3 เดือนแล้ว ขึ้นๆ ลงๆ เป็นรอบที่ 3 แล้ว บ้านเรือนส่วนใหญ่อยู่ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำท่วมทุกปีก็หาเงินมายกพื้นสูง บ้านหลังไหนไม่ค่อยมีชั้นล่างก็ต้องปล่อยจมน้ำ แต่ลำบากมากคือการเข้าออก ปีนี้ท้อมากตรงที่เราล้างหลายรอบเหนื่อย 3 หน ถ้าบ้านไหนคนแก่ก็ต้องจ้างเขาล้าง 9,000 บาท ที่ได้มาไม่คุ้มเลย นับวันยิ่งเหนื่อยมากขึ้นเพราะเราก็แก่แล้ว
ขณะชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ก็ใช้เรือเข้าออกส่งลูกส่งหลานไปทำงานไปโรงเรียนก็ต้องออกมาหาซื้อกับข้าวทุกวัน ทำให้ความเป็นอยู่ในชุมชนลำบากบ้างออกมาซื้ออุปกรณ์ยาเรือ เข้าไปยาเรือในบ้าน เพราะปีนี้น้ำมามาก และที่สำคัญไม่มีที่ท่าว่าจะลงมีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน
ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วมส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะหมู่ 6 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล ถูกน้ำท่วมหนักแทบทุกหลังคาเรือน บางจุดน้ำสูงเกือบถึงหลังคาบ้านชาวบ้านต้องงัดหน้าต่างทำเป็นประตูทางเข้าออก เพื่อใช้ปีนเข้าไปเก็บข้าวของภายในบ้าน ขณะที่บางรายต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศาลาเอนกประสงค์ของหมู่บ้าน เพราะไม่สามารถพักอาศัยได้
ชาวบ้าน หมู่ 6 เปิดเผยด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าว่า ขณะนี้บ้านของตนถูกน้ำท่วมสูงจนต้องหนุนพื้นบ้านหนีน้ำวันละหลายรอบ แต่ก็ยังเอาไม่อยู่ ข้าวของเครื่องใช้ถูกน้ำท่วมเสียหายเกือบหมด เหลือเพียงเสื้อผ้าบางส่วนที่สามารถขนออกมาได้ "ตอนนี้ท้อมากครับน้ำท่วมทีไรก็อยู่ไม่ได้ต้องหนีน้ำทุกปีอยากให้น้ำลดไวๆ"
ขณะเดียวกันเส้นทางเข้าออกของชุมชนเริ่มถูกน้ำท่วม ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจึงช่วยกันกรอกกระสอบทรายทำคันกั้นถนนเพื่อให้รถยังสามารถสัญจรและขนย้ายสิ่งของได้ หากปล่อยให้ถนนถูกน้ำท่วมทั้งหมดพื้นที่หมู่บ้านจะกลายเป็นท้องน้ำโดยสมบูรณ์
Advertisement
