
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพระนครศรีอยุธยา รายงานสถานการณ์อุทกภัย วันที่ 9 พ.ย. 68 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับรายงานจากอำเภอว่าประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ดังนี้ อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.บางบาล อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางปะหัน อ.บางซ้าย อ.บ้านแพรก อ.ลาดบัวหลวง อ.มหาราช รวมทั้งสิ้น 11 อำเภอ 143 ตำบล 945 หมู่บ้าน 58,477 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย
อัปเดตสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา 10 พ.ย. 2568 เวลา 06.00 น. พายุ "คัลแมกี" ทำฝนตกหนักตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาอีกระลอก ส่งผลให้น้ำเหนือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนไหลหลากลงสู่ตอนล่าง กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งเต็มศักยภาพ รวม 600 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันปริมาณน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อัตรา 2,800 ลบ.ม./วินาที
ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูง หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ชาวบ้านใน ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงประสบความเดือดร้อนจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนริมฝั่งจำนวนมาก โดยชาวบ้านหลายครอบครัวยังคงต้องขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์และที่นอน ซึ่งต้องยกหนีน้ำให้พ้นจากพื้นบ้าน บางรายถึงขั้นสั่งซื้อโต๊ะไม้ขนาดใหญ่เพื่อนำมาวางซ้อนเป็นแท่นนอนชั่วคราว เนื่องจากน้ำยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายจำปี อายุ 65 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ตนและพี่สาวอีกสองคนซึ่งเป็นผู้สูงอายุต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่น้ำเริ่มท่วมสูง ราว 20 เซนติเมตร จากพื้นบ้าน ต้องหาวิธีเสริมโต๊ะและเตียงให้สูงขึ้นเพื่อ หลีกเลี่ยงความเสียหายต่อที่นอนและของใช้ภายในบ้าน
"ตอนนี้อยู่กันสามคนมีแต่ผู้สูงอายุ 60 กว่า ถึง 70 กว่า ต้องคอยดูแลกันเอง แถมยังต้องระวังพวกสัตว์มีพิษที่อาจเข้ามาในบ้านด้วย" นายจำปีกล่าวพร้อมทั้งเผยความกังวลว่า หากมีการระบายน้ำเพิ่มถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ตามข่าวก็อาจทำให้บ้านจมน้ำมากกว่านี้ แต่ก็จำใจต้องทนเพราะน้ำท่วมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกปี เพียงแต่ปีนี้น้ำมามากและเร็วผิดปกติ
นอกจากนี้ในพื้นที่ ต.บ้านกุ่ม ยังมีบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมมากกว่า 1,600 หลังคาเรือน ทั้งพื้นที่ติดริมแม่น้ำและแนวถนนสายหลัก ชาวบ้านจำนวนมากต้องใช้ชีวิตอยู่กลางน้ำอย่างลำบาก หากน้ำมาจริงๆ ก็ต้องจำเป็นต้องทิ้งของไว้ภายในบ้าน ถึงแม้จะเสียหายก็ต้องยอมต้องหลบหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ขณะนี้ก็ยังกังวลอย่าให้น้ำมาท่วมเลยเนื่องจากบ้านของตนนั้นมีของเป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องผูกไว้กลัวมันลอยและหายไปและต้องยอมเสียหายของที่อยู่ภายในบ้าน
โดยช่วงเช้าวันนี้ ชาวบ้านประมาณ 500 - 600 คน ได้รวมตัวกันชุมนุมบริเวณหน้าประตูระบายน้ำบางกุ้ง เพื่อเรียกร้องให้กรมชลประทานเร่งเปิดประตูระบายน้ำออกไปยังพื้นที่ทุ่งบางกุ้ง ซึ่งมีพื้นที่รับน้ำได้กว่า 20,000 ไร่ เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการระบายน้ำไปยังฝั่งดังกล่าว ทำให้ระดับน้ำฝั่งบ้านกุ่มเพิ่มสูงจนบางจุดท่วมลึกเกือบ 2 เมตร บ้านบางหลังถูกน้ำท่วมถึงครึ่งหลัง
หลังจากมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้มีการยืนยันว่า จะเปิดประตูระบายน้ำบางกุ้งให้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร เพื่อเร่งระบายน้ำออกไปยังทุ่งบางกุ้งช่วงบ่ายวันเดียวกัน น้ำเริ่มลดระดับลงเล็กน้อยทำให้ชาวบ้านพอใจและแยกย้ายกันกลับโดยไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น
Advertisement