
เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุพนังกั้นน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อนหลายจุดทั้ง ต.ตะหลุก ต.โพานางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ทำให้น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนกว่า 2,000 หลัง และสวนผลไม้และสวนผักของชาวบ้านถูกน้ำท่วม 30-150 ม. ชาวบ้านต้องพากันขนของหนีน้ำกันกลางดึกเพื่อขึ้นมาอยู่บนถนนจำนวนกว่า 700 ครอบครัว โดยชาวบ้านบอกว่าช่วยกันกั้นกระสอบทรายสู้น้ำกันมากว่า 1 เดือน แต่มาถึงวันนี้เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายอัตราสูงถึง 2,700 ลบ.ม./วิ ทำให้แนวกระสอบทรายรับทวลน้ำไม่ไหวแตกพังลง จนน้ำปริมาณมหาศาลทะลักเข้ากลางดึกและเอ่อท่วมกินพื้นที่อย่างรวดเร็ว
ล่าสุดพื้นที่ ต.หาดอาษา ที่เป็นไข่แดงคั่นระหว่าง ต.ตะหลุก กับ ต.โพนางดำออก ทางเทศบาลก็ประกาศให้ชาวบ้านเร่งเก็บข้าวของขึ้นที่สูงและอพยพขึ้นถนนคันคลองมหาราชแล้ว เพราะคาดว่าน้ำจะทะลักเข้าเต็มพื้นที่ทั้ง 3 ตำบล ของ อ.สรรพยา ในวันนี้ ส่วนพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกเองระดับน้ำก็เริ่มเอ่อล้นตลิ่ง ชาวบ้านช่วยกันวางกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันอย่างเร่งด่วน ด้วยความหวังว่าจะเอาอยู่
สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางกรมชลประทานได้มีการแจ้งการปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิมในอัตรา 2,600 ลบ.ม./วินาที ไปเป็น 2,700ลบ.ม./วินาที เริ่มเวลา 22.00 น. (5 พ.ย. 2568) ไปจนถึงช่วงเวลา 04.00 น. (6 พ.ย. 2568) ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมานี้ ถือเป็นการเพิ่มการระบายอย่างเร็ว เพิ่มระบายรายวัน เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝนและน้ำท่า มีการปรับเพิ่มการระบายรายวันทำระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อวันประมาณ 20-30 ซม. เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูงอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยโดยด่วน
ล่าสุดที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,993 ลบ.ม./วินาที ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.08 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 16.31 เมตร/รทก. ห่างจากตลิ่ง 3 ซม.
ส่วนชาวบ้านด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ อ.สรรพยา สุดเซ็งน้ำทะลักเข้าท่วมรอบ 3 ต้องขนย้ายขึ้นไปอยู่ที่พักพิงชั่วคราวบนถนนเส้นริมคันคลองมหาราช หรือ ถนนชีวิต อีกรอบ เรียกว่าขนของย้ายของกันเป็นรอบที่ 3 แล้ว
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ใกล้เคียงวัดไผ่ล้อมพบว่า น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เป็นรอบที่ 3 ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่ในช่วงปีเดียว น้ำท่วมซ้ำถึง 3 ครั้ง ปกติมากสุดก็แค่ 2 ครั้งเท่านั้น
นางจำนันท์ อายุ 65 ปี หนึ่งในชาวบ้านผู้ประสบภัย ต.โพนางดำออก เปิดเผยว่า ตนต้องตื่นขึ้นมาเก็บของตั้งแต่ตี 2 ไม่ได้นอนเลย เพราะน้ำเข้าท่วมบ้านแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ระดับน้ำลดลงจนเก็บของเข้าบ้านได้ถึง 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 เมื่อคืนต้องเร่งยกของขึ้นที่สูงอีกรอบ ครั้งนี้น้ำมาแรงมากพายเรือได้ยาก ท่วมครั้งแรกไม่มากเท่าไร ครั้งสองเหนือตาตุ่ม และครั้งนี้อาจถึงเข่าหรือระดับคอเลย แต่น่าจะมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ช่วงน้ำท่วมไม่มีรายได้เข้ามาเลย ยังดีที่รัฐบาลช่วยค่าเยียวยาน้ำท่วมมา 9,000 บาท ต่อชีวิตไปได้ชั่วคราว พราะต้องเลี้ยงหลานที่กำลังเรียน 2 คน และพิการ 1 คน น้ำท่วมครั้งนี้เหมือนซ้ำเติมทำให้ไม่มีรายได้ต่อไปอีกกว่า 1 เดือน
Advertisement