ทลายโกดังไดร์เป่าผมมรณะ ย่านปทุมฯ ยึดกว่า 3 หมื่นชิ้น
ผวาไดร์เป่าผมมรณะ! รมช.อุตสาหกรรม นำ DSI บุกยึด ไดร์เป่าผมกว่า 3 หมื่นชิ้น ซ้ำยังยึดเครื่องใช้ไฟฟ้าไร้มอก.ได้อีกกว่าแสนชิ้น
วันที่ 14 ต.ค.68 เมื่อเวลา 15.00 น.จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสากรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจจับสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ภายในโกดังแห่งหนึ่งซอยเทพกุญชร 22 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีสืบเนื่องจากกรณีที่มีเด็กเสียชีวิตด้วยไดร์เป่าผม ที่ไม่ได้คุณภาพ ภายในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ก่อนสืบทราบและขยายผลมาที่โกดังแห่งนี้ ซึ่งมีลักษณะเดียวกันไม่มีมาตรฐานมอก.สินค้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ทราบมาจากประเทศอะไร ซึ่งเป็นสินค้าที่หลบเลี่ยงเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ
จ่าเอกยศสิงห์ บอกว่า ท่านนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้นโยบายว่า ต้องไม่มีสิ่งพวกนี้เกิดขึ้น ตนเอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ถูกมอบหมาย จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้มาดูในเรื่องนี้ ซึ่งตนเองก็จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น และอยากจะบอกพี่น้องประชาชนว่า เราทำงานอย่างจริงจังและใช้เวลาไม่นานขณะนี้ก็กำลังขยายผลหาต้นตอใหญ่ที่สุดว่าอยู่ที่ไหน เราก็จะไปดำเนินการ ซึ่งขบวนการนี้ต้องได้รับการลงโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งตัวเองคิดว่าถ้ามีสินค้าประเภทนี้อยู่ในประเทศเรา ไม่มีผลดีกับบ้านเมืองเราเลย เพราะภาษีเราก็เก็บไม่ได้ซึ่งมีแต่เรื่องความเสียหายและสิ่งที่สำคัญนั้นทำให้พี่น้องประชาชนเสียชีวิต ทางเรายอมไม่ได้ ซึ่งพี่น้องประชาชนเราจะมาเสียชีวิตกับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานรองรับนั้นได้เข้ามายังไม่ถูกต้องทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศไทย ณ ตอนนี้เราเน้นไปที่ไดร์เป่าผม ได้ตรวจยึดประมาณ 30,000 กว่าชิ้น และมีสินค้าเก่าที่ทางเราได้ตรวจยึดไว้แล้วเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านม ารวมทั้งเครื่องอบเล็บ และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆนั้นที่อยู่ในโกดังทั้งหมด 6 โกงดังแห่งนี้ประมาณแสนกว่าชิ้น ก็มีมูลค่าพอสมควร แต่มูลค่านั้นไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เราก็ต้องมีการขยายผลต่อ ต้องจับกุมให้ถึงที่สุด ซึ่งตนเองก็อยากฝากสื่อมวลชนไปถึงผู้ประกอบการ ถ้าทำในสิ่งที่ผิดก็ขอให้เลิก แนะทำในสิ่งที่มันถูกไปขอเครื่องหมายการค้าให้ถูกต้องของกระทรวงอุตสาหกรรม
ด้านคุณบอล เจ้าของโกดังให้เช่า บอกว่า ตนเองเป็นเพียงแค่คนให้เช่าโกดังเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าที่อยู่ด้านใน เพราะว่าคนที่มาเช่านั้นก็เป็นคนไทย และทำสัญญาเช่าปีต่อปี ซึ่งในการมาทำสัญญานั้นเขาก็บอกว่าเป็นสินค้า แต่ตนเองไม่ทราบว่าเป็นสินค้าประเภทไหน หรือถูกต้องหรือไม่อย่างไร และยินดีที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
คอนเทนต์แนะนำ
Advertisement
