วันที่ 5 ต.ค. 2568 ที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พันเอกชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้พูดคุยกับสื่อสั้นๆ ถึงท่าทีฝั่งกัมพูชา หลังมีการขีดเส้นใต้ตรงบริเวณบ้านหนองจานในวันที่ 10 ตุลาคม 2568 โดยบอกว่า วันนี้บริเวณแนวรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน ไม่พบเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชายืนประจำจุด แต่จะมีเพียงแค่ตรงบริเวณเพิงพักใกล้หลักเขต 46 ประมาณ 5 นาย แต่สิ่งที่ทะลักเข้ามาเยอะมากนั่นคือแรงงานที่ลักลอบเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ซึ่งทางไทยก็ต้องดำเนินคดีตามกฎอัยการศึกและผลักดันกลับประเทศ แต่ละคนให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ยอมรับว่าอยู่ที่กัมพูชานั้นอดอยาก ไม่มีงานให้ทำ ก็เลยต้องยอมจ่ายเงินเพื่อให้นายหน้าพาข้ามมา เพราะค่าแรงที่ไทยสูงกว่าที่กัมพูชา
อีกอย่างคือแหล่งเงินของ ประเทศกัมพูชาที่เดิมที่มาจากกาสิโนและคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการขนสินค้ามีภาษีก็ลดน้อยลง แต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีการส่งแผนอพยพมา
ส่วนเรื่องขั้นตอนต่อการผลักดันตามเส้นตายวันที่ 10 ตุลาคมนั้น ยอมรับว่าในส่วนของกองกำลังบูรพามีความพร้อมทุกอย่าง ตอนนี้รอแค่ไฟเขียว ดังนั้นกรณีเส้นตายที่ให้กับชาวกัมพูชาที่มีการรุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจานนั้น ก็ต้องรอดูความเคลื่อนไหวอีกทีหนึ่ง แต่ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่า ทางฝั่งไทยเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของชาวบ้าน ดังนั้นก็อยากขอความกรุณาไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปประชิดแนวรั้วลวดหนาม เพราะเกรงจะเกิดความรุนแรงขึ้น แล้วหากต้องการจะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ก็ขอให้อยู่ในพื้นที่จุดตรวจ 40 แนวถนนศรีเพ็ญ พร้อมกับอยากให้ประชาชนรับรู้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่แนวรั้วลวดหนาม ทุกนายก็มีความรู้สึกรักชาติ รักในผืนแผ่นดินไทยไม่ต่างกัน เพียงแค่ต้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่
ส่วนด้านของผู้ว่าฯจังหวัดสระแก้ว เท่าที่มีการประสานงานกันก็เชื่อว่าท่านได้มีการดำเนินการทุกอย่างเต็มที่ เท่าที่ท่านมีอำนาจจะทำได้แล้ว
หลังจากนั้นด้านของ “พันเอกชัยณรงค์ กาสี” ก็ได้เดินไปพูดคุยกับประชาชนที่มาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์บริเวณบ้านหนองจาน ด้วยการกล่าวให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่า
"เราจะรักษาอธิปไตยของไทยไว้ และส่วนไหนที่ถูกรุกล้ำอยู่ เราก็จะเอาคืนมาให้ได้ แต่เรื่องของวิธีการและช่วงเวลานั้น ไม่มีใครทราบได้ว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่ แต่ก็ยืนยันว่าเราในฐานะที่เป็นคนไทยและเป็นทหารไทย ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยผิดหวัง ขอให้เป็นกำลังใจ"
และในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ก็อยากขอความกรุณาจากพ่อแม่พี่น้องว่าหากจะมาแสดง ก็สามารถมาได้ แต่ขอให้อยู่เพียงแค่จุดนี้ เพราะหากจะเข้าไปด้านในตรงแนวรั้วลวดหนาม เกรงว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งในส่วนนั้นทหารต้องรับผิดชอบ แล้วหากได้รับอันตรายกันหลายคน ทหารก็จะไปรับผิดชอบไม่ไหว และไม่รู้เลยว่าพ้นแนวสแลนไปฝั่งกัมพูชา เขาทำอะไรไว้บ้าง ซึ่งมันอันตรายแน่นอน ทหารจึงมีความกังวลใจในเรื่องความปลอดภัยของประชาชน อยากให้สู้อยู่ตรงนี้ดีกว่า
ซึ่งตอนนี้แม่ทัพภาคที่ 1 ก็เต็มที่อยู่แล้ว และยืนยันคำเดิมเหมือนที่ท่านแม่ทัพท่าน 1 คนใหม่เคยพูดไว้ว่า เราทำแน่หากเมื่อไหร่เราได้เปรียบ และเมื่อพร้อม เพราะทุกอย่างเราเตรียมการได้หมดแล้ว และเชื่อว่าทหารที่มาอยู่ที่นี่ตลอด 3 เดือนก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่”
ซึ่งตัวแทนของชาวบ้านก็ฝากกับ “พันเอกชัยณรงค์ กาสี” ว่าชาวบ้านเชื่อมั่นว่าทหารทำได้ จะไม่ทำให้ชาวบ้านเสียใจและผิดหวัง หลังจากนั้นชาวบ้านก็ได้โอบกอดพร้อมกับปรบมือให้ “พันเอกชัยณรงค์“ เพื่อเป็นกำลังใจ
หลังจากนั้น “พันเอกชัยณรงค์ กาสี” ก็ได้ให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการอีกรอบหนึ่ง บอกว่า วันนี้ได้ไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและยืนยันตามที่แม่ทัพภาคที่ 1 บอก นั่นคือทางกองกำลังของฝั่งไทยพร้อมที่จะทำอยู่แล้ว แต่รอช่วงเวลาที่ได้เปรียบก็เท่านั้น ดังนั้นไม่อยากให้กำหนดเป็นวัน ไม่งั้นเราจะเสียเปรียบได้
รวมถึงกองกำลังบูรพาก็รอสั่งการจากผู้บังคับบัญชา แต่ทุกอย่างเราเตรียมการไว้หมดแล้ว ไม่ใช่แค่เฉพาะทหาร แต่รวมถึงทางจังหวัด ตำรวจและ ตม. ด้วย แล้วตอนนี้ไม่ได้มีอะไรมาทำให้กระทบต่อแรงและกำลังใจของเจ้าหน้าที่แน่นอน ดังนั้นไม่มีอะไรเป็นข้อจำกัด
พร้อมกับสัญญาด้วยความเป็นทหารที่เป็นรั้วของชาติ ก็อยากทำหน้าที่ทวงคืนอธิปไตยไทยให้ได้คืนมาทั้งหมดและทหารตรงนี้ไม่มีใครมาแล้วไม่รู้สึกแบบนั้น ทุกคนรู้สึกไม่ต่างอะไรจากคนไทย
ส่วนความเคลื่อนไหวที่บริเวณบ้านหนอจาน ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาชาวกัมพูชาเข้ามาประจำจุดน้อยมาก กลางวันอยู่ที่เพิงพักแค่ประมาณ 5 คน ส่วนใหญ่เป็นทหาร ส่วนกลางคืนก็ประมาณ 5-10 คน ส่วนที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ก็จะอยู่ที่ประมาณ 20 คน แต่ก็ไม่ได้มีการแสดงพฤติกรรมประชิดในรั้วหรือรุกล้ำ เพราะส่วนใหญ่คนที่อยู่ในปัจจุบันคือคนที่มีบ้านอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว ส่วนก่อนหน้านี้ที่เห็นว่าเยอะๆก็คือเป็นมวลชนที่ถูกเกณฑ์มาจากพื้นที่อื่น ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่มวลชนหายไปเพราะหมดงบประมาณในการจ้าง ไม่ได้มีการส่งเสบียงกำลัง
ส่วนเรื่องของวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ตนก็ขอความร่วมมือประชาชนที่หนองแก้วและบ้านหนองจานว่าสามารถมาให้กำลังใจทหารได้ สามารถแสดงออกได้เต็มที่ แต่ขอให้อยู่ในพื้นที่แนวถนนสีเพ็ญ เพราะหากพากันเข้าไปข้างในเกรงว่าจะได้รับอันตราย
และเชื่อว่าในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ทางกัมพูชาคงจะพาคณะ IOT รวมถึงเด็กและคนแก่มาประชิดในรั้วบ้านหนองจานเหมือนเดิม ไม่ต่างอะไรจากเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม
แต่อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำว่าทางกองกำลังบูรพาพร้อมลุย 24 ชั่วโมง เพียงแค่รอคำสั่ง และยังไม่สามารถกำหนดวันได้ ถึงมีวันที่กำหนดไว้แล้วก็คงตอบออกสื่อไม่ได้ อยากให้รู้เพียงแค่ว่าพร้อม!
Advertisement