วันที่ 25 ก.ย. 68 บรรยากาศบริเวณ ด่านพรมเเดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระเเก้ว พบว่ามีแรงงานชาวกัมพูชาหลายร้อยคนที่สมัครใจ ไม่เดินทางกลับกัมพูชา ได้มารายงานตัว Border Pass ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 22 ก.ค. 68 เพื่อต่ออายุการทำงานในราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะต้องมารายงานทุก 30 วัน
จากข้อมูลในขณะนี้ มีรายงานว่ามีชาวกัมพูชาที่ยังสมัครใจทำงานที่ประเทศไทยหลักพันคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานภาคการเกษตร
สอบถามชาวกัมพูชาหลายคนต่างสะท้อนถึงสาเหตุที่สมัครใจไม่เดินทางกลับกัมพูชา เนื่องจากกลับไปเเล้วไม่มีงานทำ แตกต่างจากประเทศไทยที่มีงานให้ทำเลี้ยงชีพ
เช่นลุงกับป้า 2 ราย ที่ทีมข่าวได้พูดคุยด้วย เปิดเผยว่า ตนเข้ามาทำงานที่ประเทศไทยเป็นระยะเวลากว่า 30 ปีแล้ว โดยมีอาชีพรับจ้างตัดอ้อย นอกจากนี้ตนทั้งสองยังมีบุตร 5 คน เกิดที่ประเทศไทย และเรียนหนังสือที่ประเทศไทยด้วย ดังนั้นด้วยระยะเวลาที่อยู่มานาน ตนทั้งสองรวมถึงบุตรทั้ง 5 คนคุ้นชินกับการอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยมากกว่ากัมพูชาเสียอีก หากเดินทางกลับไปก็จะไม่มีงานทำ ซึ่งก่อนหน้านี้ ช่วงที่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งช่วงแรก ก็เคยพาบุตรเดินทางไปที่กัมพูชา แต่เพียงแค่ 5 วัน ปรากฏว่าลูกร้องไห้อยากกลับไทย เพราะมีความผูกพันกับที่นี่ จนรู้สึกว่าเป็นบ้าน
ลุงกับป้า 2 รายนี้ ยอมรับว่า ตนทั้งสองมีที่ดิน และมีโฉนดถูกต้องอยู่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งนักข่าวถามว่ากลัวจะถูกยึดที่ดินหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้รัฐบาลกัมพูชา ข่มขู่เรื่องการยึดที่ดินแรงงานที่ไม่เดินทางกลับ ป้า บอกว่า "ตนไม่กลัว อยากยึดก็ยึดไปเลย"
นอกจากนี้ นักข่าวยังสอบถามถึงกรณีที่สื่อกัมพูชามีการเสนอข่าวบิดเบือนหรือปล่อยเฟคนิวส์ ปลุกปั่นชาวกัมพูชา มีอะไรอยากจะบอกชาวกัมพูชาหรือไม่ ลุงตอบว่า "ไม่รู้ครับ เรื่องของเขา" เเต่ตนทั้งสองยืนยันว่าอยู่ประเทศไทยดีกว่ากัมพูชา
Advertisement