กรมชลประททาน มีหนังสือแจ้งเตือนไปยัง 11 จังหวัดภาคกลาง ประกอบด้วย จ.อุทันธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ว่า ในระยะ 1 - 9 วันนี้ จะมีมวลน้ำเหนือไหลหลากลงสู่ภาคกลางผ่านจุดวัดน้ำ C2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ในอัตรา 1,900 - 2,300 ลบ.ม./วิ ผนวกกับปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขารวมประมาณ 2,400 ลบ.ม./วิ ทำให้เขื่อนเจ้าพระยามีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนขึ้นไปในเกณฑ์ 1,500 - 2,000 ลบ.ม./วิ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวสูงขึ้นจากเดิม 30 - 110 ซ.ม. ใน 1 - 9 วันข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำผู้ประกอลบการทางน้ำการก่อสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งขอให้เตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำที่จะสูงขึ้น และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะที่สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลางล่าสุดพบว่า น้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ วัดได้ 1,971 ลบ.ม./วิ ระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้น 60 ซ.ม. ในรอบ 24 ชม. วัดได้ 15.62 ม.รทก. (เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) โดยเขื่อนเจ้าพระยาได้คงการระบายน้ำไว้ที่อัตรา 1,500 ลบ.ม./วิ เป็นวันที่ 3 และคาดว่าจะปรับขึ้น ชม.ละ 15 ลบ.ม.จนถึงอัตรา 1,550-1,600 ลบ.ม./วิ ในวันนี้และจะปรับเพิ่มแบบรายวัน เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำเหนือในเกณฑ์ 1,600 - 2,000 ลบ.ม./วิ ตามแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับรับมวลน้ำจากทางตอนบนของประเทศซึ่งจะทำให้ระดับน้ำยกตัวขึ้นอีก 1.1 ม. จากปัจจุบัน โดยล่าสุดวันนี้ระดับน้ำท้ายเขื่อนวัดได้ 13.08 ม.รทก.
โดยทางราชการย้ำเตือนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำท้ายเขื่อนในคลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งริมตลิ่งแม่น้ำน้อย ในพื้นที่ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ขอให้เฝ้าสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำที่จะยกตัวขึ้นหลังจากนี้ 15-30 ซ.ม. ใน 24 ชม. บ้านเรือนริมตลิ่งควรยกของขึ้นที่สูงให้พ้นน้ำ
Advertisement