นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ลงนามออกหนังสือเวียนถึงอัยการทั่วประเทศ อส 0007(ปผ) / ว 197 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2568 เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เนื่องจากสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนที่รุนแรงในประเทศไทย มักมีสาเหตุสำคัญจากการขับขี่ขณะเมาสุรา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้าง
สำนักงานอัยการสูงสุดจึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้การดำเนินคดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้
1. พิจารณาเพิ่มเติมข้อหา
หากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่ขับรถขณะเมาสุรามีลักษณะ "ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น" ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (8) แต่ยังมิได้แจ้งข้อหานี้ ให้พนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
2. การฟ้องร้องและยึดรถของกลาง
ในการฟ้องคดี ให้อัยการขอให้ศาลมีคำสั่ง ริบรถของกลาง ตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส (สฝปผ.) 0018/ว 380 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549
ด้าน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) ให้ความเห็นว่า หนังสือเวียนดังกล่าวออกมาจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจากการขับรถในขณะเมาสุราก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายทรัพย์สินของผู้อื่น ทางสำนักงานอัยการสูงสุดจึงได้ออกหนังสือเวียน การดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยทางถนนที่มีความรุนแรงและความเสียหายอย่างมากต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุดจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติ
เมื่ออัยการได้รับสำนวนคดีที่มีการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วให้พิจารณาว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เมาแล้วขับ มีลักษณะเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นอันเป็นความผิดตาม พรบ.จราจรมาตรา 43 (8) ด้วยหรือไม่ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าผิดและยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาดังกล่าวกับผู้เมาแล้วขับ ให้พนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาและในการฟ้องคดีให้พนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบรถของกลางด้วย ตนจึงขอเตือนว่า "เมาแล้วขับ" ระวัง จะโดน "ฟ้องศาลสั่งริบรถ" ด้วย
หากประชาชนคนใดสงสัยเรื่องกฎหมายคุ้มครองสิทธิของประชาชน สามารถปรึกษากฎหมายกับอัยการฟรี สายด่วนโทร. 1157
Advertisement