รู้จัก "ดัชนีมาม่า" ในวงการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลังมาม่าประกาศหนุนไวไว
รู้จักดัชนีมาม่า ในวงการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ดัชนีชี้วัดที่ไม่ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจแย่เสมอไป หลังมาม่าประกาศสนับสนุนไวไว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลังเพจเพจเฟซบุ๊ก Mamalover เปลี่ยนโปรไฟล์เป็นโลโก้ ไวไว พร้อมระบุข้อความว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว เหนียวนุ่ม...ไม่อืด และติด #แวะกินยี่ห้ออื่นบ้างนะงับ ก็ทำสังคมโดยเฉพาะผู้บริโภคอย่างเราๆ แตกตื่นกันไม่ใช่น้อย
เพราะอย่างที่รู้กันดี ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบ้านเรามีสองเจ้าดังที่เป็นคู่แข่งกันทางตลาด นั่นก็คือ มาม่า และ ไวไว การที่จู่ๆ มาม่าเปลี่ยนโปรไฟล์เป็นโลโก้ไวไว ก็ทำหลายคนต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น รวมถึงตั้งข้อสงสัยว่าหรือจะเกิดการควบรวมขึ้นมาหรือไม่?
แน่นอนว่าเมื่อเจ้าแห่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งสองโพสต์เป็นนัยยะอะไรแบบนี้ ทำให้ ดัชนีมาม่า (MAMA Index) กลับขึ้นมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง เพราะดัชนีมาม่า คือ ดัชนีที่ใช้ชี้วัดแนวโน้มของเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไม่เป็นทางการและอาจไม่แม่นยำเท่ากับดัชนีทางเศรษฐกิจอื่นๆ
โดยใช้ทฤษฎีเรื่องสินค้าด้อยเป็นหลักเมื่อเศรษฐกิจอยู่ในภาวะตกต่ำ สินค้าด้อยจะเป็นความต้องการมากขึ้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เมื่อของแพง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะกลายเป็นสินค้ายอดนิยม โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องรัดเข็มขัดกระเป๋าเงิน
ซึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถูกจัดให้เป็นสินค้าด้อย แม้ว่าขั้นตอนการผลิตจะมีความพิถีพิถัน แต่ด้วยราคาที่ถูกและสารอาหารที่ได้รับน้อยกว่าการบริโภคอาหารทั่วไป จึงเป็นทางเลือกรองของผู้บริโภค แต่กลับเป็นของที่หลายบ้านมีติดครัวไว้ไม่ขาด และที่มาของคำว่าดัชนีมาม่านั้น ก็มาจากชื่อมาม่าซึ่งเป็นยี่ห้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเจ้าใหญ่ ผู้คนจึงเลือกเรียกดัชนีนี้ว่า ดัชนีมาม่า
แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับไม่ใช่ดัชนีวัดเศรษฐกิจสะท้อนภาพเศรษฐกิจไม่ดีเสมอไป เพราะเป็นตัวเลือกนัมเบอร์วันในใจผู้บริโภค ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะในช่วงใกล้สิ้นเดือน แม้กระทั่งวันฝนตก หิวยามดึก เมนูซดน้ำซุปร้อนๆ หลังแฮงค์ และที่สำคัญคนรวยคนจนต่างก็ชอบและปรารถนาลิ้มรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในยามที่ต้องการได้เสมอ
เห็นได้จากข้อมูลของบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ที่ในปี 2567 ตลาดบะหมี่และเส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีอัตราการบริโภคเฉลี่ย 54 ซองต่อคนต่อปี ด้วยมูลค่าตลาดรวมประมาณ 22,778 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 จากปี 2566
อย่างไรก็ตาม หลังมาม่าเปลี่ยนโลโก้ไปเป็นไวไว พันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ได้แชร์โพสต์ของเพจ Mamalover พร้อมข้อความระบุว่า การแข่งขันที่ดุเดือด ทำให้ทุกคนต้องแข่งกันพัฒนา สุดท้ายประโยชน์สูงสุดก็จะเป็นของผู้บริโภค #มาม่าสนับสนุนความหลากหลายเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค
ซึ่งตรงกับข้อมูลจากเพจผู้บริโภค ที่ได้ระบุว่า คุยกะเจ้าของเขาล่ะ ไม่มีอะไรเลยแค่ต้องการสนับสนุนเจ้าอื่นๆ
ดังนั้นใครที่คิดว่าวงการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเกิดการควบรวมเหมือนคลื่นมือถือ ก็พอจะรู้สึกสบายใจขึ้นมาได้ เพราะอย่างน้อยยังมีการแข่งขันทางการค้า รวมถึงได้เห็นการสนับสนุนกันและกันของสองยักษ์ใหญ่ที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ที่ยังต้องการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างเราๆ กันอยู่
Advertisement
