จากกรณีที่มีชาวเน็ตเข้าไปชมคลิปที่ หลวงพ่อวัดใหม่สี่หมื่น ซึ่งตั้งอยู่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้แจกเงินค่าขนมรายวันให้กับเด็กวัด 100 กว่าชีวิต ที่กำลังจะเดินทางไปเรียนหนังสือ ซึ่งในคลิปได้มีการเขียนข้อความบรรยายไว้ “52 คนๆ ละ 40 บาท รวม 2,080 บาทต่อวัน ปวส. 5 คนๆ ละ 100 บาท รวม 500 บาท รวมจ่ายวันละ 2,580 บาท
โดยล่าสุดมียอดวิว กว่า 7.4 ล้านครั้ง และคลิปที่หลวงพ่อ พร้อมด้วยญาติโยมชาวสิงคโปร์ที่เดินทางมาทำบุญ พาเด็กวัดจำนวนหนึ่งไปซื้อชุดนักเรียนภายในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใน จ.ราชบุรี ซึ่งมียอดวิว กว่า 1.9 ล้าน
ชาวเน็ตต่างแห่ชื่นชมว่ายังมีพระดีๆ อยู่ ที่กราบได้อย่างสนิทใจ เป็นตัวอย่างพระที่เป็นแบบอย่าง สามารถใช้ปัจจัยที่ญาติโยมตั้งใจทำบุญถวาย เพื่อเป็นทุนการศึกษาของเด็กๆ และบริหารจัดการภายในวัด ทั้งค่าน้ำค่าไฟ และบำรุงวัด ส่วนใหญ่บ่นเสียดายเงินของทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่สูญไปกว่า 800 ล้านบาท ถ้านำมาบริหารจัดการได้แบบนี้ก็จะดี จนกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีอีกหลายคลิปที่มีการเผยแพร่ออกมา ทั้งคลิปภาพที่หลวงพ่อวัดใหม่สี่หมื่น นั่งป้อนข้าวให้เด็กวัดตัวน้อย หลวงพ่อตักข้าวใส่ถาดให้เด็กๆ รับประทานอาหารเช้า แม้กระทั่งภาพที่หลวงพ่อทำความสะอาดขัดห้องน้ำที่ญาติโยมใช้ด้วย เป็นภาพที่เห็นแล้วชาวโซเชียลต่างพากันอนุโมทนาสาธุ ยกให้ว่าเป็น “พระที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ เป็นพระเกจิที่ทรงด้วยความเมตตา ดูแลส่งเสียเด็กไร้โอกาส จนจบในระดับที่สูงเท่าที่เด็กๆ จะไข่วคว้าได้ ตั้งแต่ ปวช. ปวส. ปริญญาตรี หรือจะเป็น ผู้ช่วยพยาบาล และ ต่างประเทศ
เด็กป่วยเด็กเจ็บ หลวงพ่อไม่ทอดทิ้ง รักษาจ่ายเงินทุกรายเพราะไม่ได้สิทธิ์รักษาจากภาครัฐ จากพระลูกวัดมาเป็นเจ้าอาวาส พัฒนาจากวัดเล็กจนกลายเป็นวัดขนาดกลางที่มีคนรู้จักมากมาย อีกทั้งเป็นพระระดับเจ้าอาวาสที่ไม่มีกุฏิให้จำวัด ไม่มีห้องนอนห้องส่วนตัว ไม่มีห้องแอร์นอน นอนจำวัดบนที่นอนปิ๊กนิค หน้าลานที่มีญาติโยมมากราบไหว้องค์พญางู และนอนกับเด็กๆ วัดแบบที่โล่งแจ้ง เป็นพระที่ไม่มีรถตู้หรูๆ อีกทั้งยังเป็นพระที่ไม่เอาเปรียบญาติโยม โยมจะมาขายของในวัดโดยไม่เก็บค่าที่ ร้านค้าขายในวัดก็ขายได้ฟรี ร้านขายลอตเตอรี่จะมากี่ร้านก็ไม่เคยเก็บค่าที่ เป็นพระที่ไม่เรียกร้อง ไม่ตั้งกฎเกณฑ์ใดๆในการทำบุญของญาติโยม
ล่าสุดวันที่ 27 พ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่วัดใหม่สี่หมื่น และได้พบกับ พระครูโสภณจันทรังสี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ขณะที่กำลังอบรมบรรยายธรรม ให้กับเด็กๆ วัดที่อยู่ในความปกครอง 120 คน ในช่วงเวลาของการทำวัตรเย็นของทุกๆ วัน
โดยพระครูโสภณจันทรังสี บอกว่า จากที่เป็นกระแส ตนก็รู้สึกตกใจ และก็มีความกลัวว่าไม่อยากให้นำไปเปรียบเทียบ สิ่งที่ตนเองทำนั้นทำมาตลอด 16 ปี ที่ได้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสที่วัดใหม่สี่หมื่นนี้ มาอยู่ตั้งแต่วัดเล็กๆ ในชุมชน มีอาคารภายในวัดไม่กี่หลัง ปัจจุบันได้พัฒนาจนกลายมาเป็นวัดขนาดกลางที่มีญาติโยมเดินทางมาวัดตลอด
ซึ่งจุดเริ่มต้นที่รับอนุเคราะห์เด็กๆ ก็ด้วยความรักและเมตตาเด็กๆ ที่มีฐานะยากไร้ ก่อนที่จะเป็นเจ้าอาวาส ก็มีเด็กวัดอยู่ประมาณ 5-6 คน ตนก็ใช้ข้าวก้นบาตร และปัจจัยที่ได้รับมาส่งเสียเล่าเรียนจนจบออกไปหางานทำได้ จนกระทั่งได้มาเป็นเจ้าอาวาส ก็มีเด็กๆในพื้นที่ กะเหรี่ยง อ.สวนผึ้ง ซึ่งมีฐานะยากจนยากไร้ ต่างทราบข่าวจากความเมตตาของหลวงพ่อ จึงได้นำบุตรหลานมาฝากไว้ให้กับหลวงพ่อเป็นผู้ดูแลเพราะอยากให้ลูกๆมีอนาคตที่ดี โดยหลวงพ่อได้เริ่มรับเด็กไว้ดูแลประมาณ 20 คน และขยับมาเป็น 70 คน จนกระทั่งปัจจุบันมีเด็กวัดในความดูแล 120 คน
โดยการส่งเสียให้เล่าเรียนไม่มีกฎเกณฑ์ให้เล่าเรียนได้สูงที่สุด ที่ผ่านมาจบปริญญาตรี จบ ปวช. - ปวส. จบด้านวิชาชีพพยาบาล ด้านเทคนิคการแพทย์ และระดับที่สูง เด็กหลายคนทำงานในบริษัทใหญ่ ทำงานในโรงพยาบาล และ บางคนไปเปิดร้านเป็นของตนเอง มีอาชีพทำงานตามความถนัด บางคนรับดูแลผู้ป่วยตามใบวิชาชีพที่เรียนจบ แล้วก็บางส่วนก็กลับไปประกอบอาชีพตามบ้านเกิดของตัวเองแล้วก็อีกส่วนหนึ่งก็ทำประกอบอาชีพตามสวนตามไร่ เด็กบางส่วนก็เป็นเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน แล้วก็ในช่วงโควิด 19 เด็กบางคน พ่อแม่ก็เสียชีวิตจากโควิด 19 ก็ได้มาอยู่ในความดูแลของหลวงพ่อเด็กในแต่ละรุ่นที่อยู่กับหลวงพ่อก็อาจจะมีตั้งแต่ 4 ขวบเป็นต้นไป จนสูงสุดอายุ 25 ปี ก็บางคนก็ยังอยู่ช่วยวัด บางคนก็กลับไปมีครอบครัวแล้วก็ประกอบอาชีพตามบ้านเกิด
จากกระแสข่าวที่มีการเผยแพร่ออกไป ตนก็ไม่อยากให้นำไปเปรียบเทียบกัน ทางวัดก็ทำมาตลอดแบบนี้มาถึง 16 ปี แล้ว บอกบุญญาติโยม และบางคนที่เดินทางมาทำบุญได้เห็นเด็กๆ ก็มาเข้ามาทำบุญเลี้ยงอาหารกลางวันและอาหารเย็น เงินทำบุญที่ญาติโยมถวายมาก็จะแยกส่วนกัน เงินปัจจัยที่ญาติโยมถวายให้เข้าวัดก็จะนำไปใช้จ่ายภายในวัด ไม่เกี่ยวกับเด็ก เพราะวัดมีการบูรณะสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ค่าน้ำค่าไฟวัด ส่วนเงินที่ญาติโยมระบุให้เป็นกองทุนเด็ก อาหารกลางวัน ตนก็จะแยกเอาไว้ จะไม่เอามาปนกัน อีกทั้งต้องจ่ายให้เด็ไปโรงเรียนในทุกๆวัน
ส่วนกรณีที่ตนเองไม่มีกุฎิให้จำวัด จริงๆ แล้ว มีกุฎิเก่า ปัจจุบันให้พระได้จำวัดกัน ส่วนตนเองตรงไหนก็นอนได้ ซึ่งตนเองก็นอนในที่โล่งแจ้ง นอนตรงจุดที่ญาติโยมมาไหว้ขอโชคจากพญางูเห่าดำบ่วงนาคบาศ นอนบนที่นอนบิ๊กนิค พอดีตัว ไม่กางมุ้งใช้ผ้าห่มสีเหลืองห่มกันยุงกันแมลงเท่านั้น อีกทั้งยังมีกล้องวงจรจับภาพไว้ตลอดเวลา เพื่อความไม่ให้เกิดข้อคราหาเนื่องจากเด็กวัดมีทั้งเด็กหญิง และ เด็กผู้ชาย อีกทั้งตนไม่ยึดติที่จะต้องมีห้องนอนส่วนตัว ไม่มีห้องแอร์นอน เพราะ วัดมีรายจ่ายเยอะ ค่าไฟต่อเดือนก็เกือบ 4 หมื่นบาทแล้ว
และตลอดเวลา 16 ปี ที่ผ่านมา ตนเป็นทั้งพ่อและแม่ของเด็กๆ รักทุกๆ คนที่มาอยู่ในความปกครอง พยายามส่งเสียให้ได้เล่าเรียนได้สูงที่สุดให้เข้าได้กลับไปเป็นคนดีของสังคม รู้จักเมตตาช่วยเหลือผู้อื่น จากในคลิปบางส่วนที่เห็น มีเด็กหญิงจากเด็กครอบครัวบ้านยากไร้ มาอยู่ตั้งแต่ตัวเล็กๆ มีความตั้งใจ เรียนภาษาจีน จนสามารถสอบชิงทุนไปเรียนที่ประเทศจีน โดยที่หลวงพ่อเป็นผู้ออกค่าเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายให้เดือนละ 1 หมื่นบาท จนเรียนจบกลับมามีงานทำที่บริษัทใหญ่ อีกคน เด็กชายมาอยู่ตั้งแต่ 3 ขวบ ปัจจุบัน ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล ปัจจุบันมีเด็กที่ใกล้จะจบปริญญาตรี และจะเข้าเรียนปริญญาตรี อีก 1 คน เรียนสายวิชาชีพด้วย เราทำหน้าที่ปิดทองหลังพระ ไม่เคยท้อ พยายามทำทุกอย่างให้ผ่านไปได้ในแต่ละวัน เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแล
จากกระแสที่มีการแชร์จนกระทั่งเป็นไวรัลนั้น จนมีญาติโยมเดินทางนำสิ่งของมามอบให้เด็กๆ มีคนโอนปัจจัยมาทำบุญ ตนก็ขอบคุณและขอบใจ ส่วนกรณีที่เป็นกระแส วิพากษ์วิจารณ์นั้น ตนไม่อยากให้นำไปเปรียบเทียบกัน เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในส่วนตัวบุคคล วัดไม่เกี่ยวข้อง ไม่อยากให้ญาติโยมทิ้งวัดเพราะวัดอยู่คู่คนไทยเรามาโดยตลอดเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ จะบวช งานมงคล หรือ แม้กระทั่งงานสุดท้ายของชีวิต เราก็ต้องเข้ามาที่วัด พระดีๆ ที่ทำหน้าที่บริหารวัด พัฒนาวัด ยังมีอีกมาก ช่วยกันสืบทอดพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่สืบไป
Advertisement