สาว ร้องขอให้ช่วยเหลือ เนื่องจากแม่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หลังเข้าไปปฏิบัติธรรมสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในจ.นครสวรรค์ กลายเป็นคนมีหนี้สิน และพาพระ มารุมทำร้าย
จากกรณีที่มีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อขอความเป็นธรรม ระบุว่าตนเองทะเลาะกับแม่แล้วถูกพระสงฆ์กับพวก 4 คน ของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีคลิปช่วงที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน ต้องการเอาผิดและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
ล่าสุด 21 พ.ค. 68 แม่แตง อายุ 53 ปี ที่ถูกนางสาวกระปุก ลูกสาว กล่าวหาว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เจ้าตัวเปิดเผยว่า คลิปวีดีโอที่ลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย เรื่องนี้มันเกิดจากที่ลูกสาว เปิดประตูเข้ามาในบ้านแล้วโวยวายเสียงดัง ห้ามอะไรก็ไม่ฟัง
ส่วนในคลิปที่เห็นว่ามีพระสงฆ์จะเข้ามาร่วมทำร้ายร่างกายด้วย ทางแม่แตงชี้แจงว่า พระสงฆ์ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ลูกสาวหันกล้องมือถือไปถ่ายพระสงฆ์เอง
ส่วนเรื่องที่ลูกสาวมองว่าแม่แตง มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เจ้าตัวชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง โดยพื้นฐานเป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรเสียงดัง และที่ไปปฏิบัติธรรมที่สำนักแห่งนี้ เพราะอยากเกิดความสงบในจิตใจ
แต่ทางลูกและครอบครัว ก็มองว่า เราไม่เชื่อฟังคนในครอบครัว ไปหลงมอมเมาอยู่กับสำนักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ ยังยืนยันว่าตัวเองปกติดีทุกอย่าง ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป
และที่ไม่อยากกลับบ้าน เพราะเราอยู่ที่สำนักแห่งนี้ เรารู้สึกสบายใจ เรากลับไปบ้านเราก็เครียด เราจึงไม่อยากกลับ แต่ในใจลึกๆ เราก็เข้าใจว่าทางบ้านเป็นห่วง แต่การห่วง ก็ควรมาถามเราบ้าง ไม่ใช่มากล่าวหาเราแบบนี้
ซึ่งการปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์แห่งนี้ ก็คือการสวดมนต์ตามปกติ ไม่ได้อะไรพิสดาร หรือแปลกใหม่ ไม่ได้มีการพาเข้าลัทธิ และไม่ได้ขูดรีดเงินบริจาคมากมาย ตัวเองเคยบริจาคแค่หลักพันเท่านั้น
หลังจากนี้ก็คงจะเดินหน้าปฏิบัติธรรมเหมือนเดิม และถึงจะไม่ได้ปฏิบัติธรรมที่สำนักแห่งนึ้ ก็คงจะไปทำที่สำนักอื่นๆ และต้องบอกว่า ตัวเองไม่ได้อยากทำให้สำนักแห่งนี้ต้องเดือดร้อน
ซึ่งหลังจากนี้ตัวเองก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกสาวในข้อหาบุกรุก จากการที่ลูกเข้ามาหาเรื่องถึงที่บ้าน และไม่ขอตอบในประเด็นที่ถูกมองว่า เป็นแม่ แต่ทำไมถึงไม่ปกป้องลูก
ด้านนางสาวกระปุก อายุ 28 ปี ลูกสาวของแม่แตง ที่อัดคลิปตอนที่ตัวเอง ถูกพระสงฆ์กับพวก 4 คน ของสำนักแห่งหนึ่ง ในตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทีมข่าวสำนักข่าววันนิวส์ ได้พูดคุยกับนางสาวกระปุก ชี้แจงว่า วันที่เกิดเหตุนั้นตัวเองอยู่ในเมือง แล้วพ่อเลี้ยงก็โทรตามให้เข้ามาหาที่บ้านแม่ เพราะกำลังมีเรื่องมีราว ตัวเองก็เลยเข้าไปที่จุดเกิดเหตุ
หลังจากนั้นก็เกิดมีปากเสียงกับแม่ เพราะไม่เข้าใจว่า เรื่องหนี้สินระหว่างพ่อเลี้ยงและแม่ จำนวน 1.5 ล้านบาท มันเป็นเรื่องในครอบครัวแท้ๆ แต่แม่ดันเอาไปปรึกษากับคนในสำนัก ทั้งๆที่เป็นคนนอก
ซึ่งวันที่เกิดเหตุตัวเองโดนทำร้าย โดนญาติของพระในสำนักตบหน้าเป็นสิบๆครั้ง เพราะไม่มีแรงสู้ เนื่องจากนั่งอยู่ที่พื้น และก็ไม่ทราบเลยว่า ทำไมวันที่เกิดเหตุ พระจากสำนักแห่งนี้ ต้องเข้ามาอยู่ที่บ้าน
ตัวแม่ไปอยู่ที่สำนักแห่งนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว แต่เป็นการไปๆกลับๆ แต่หลังจากเดือนมีนาคมปีนี้เป็นต้นมา แม่ไปอยู่สำนักเป็นการถาวรไม่กลับมาอีกเลย
หลังจากที่แม่ไปอยู่ที่สำนักแห่งนี้ พฤติกรรมก็เปลี่ยนไป ไม่ชอบฟังใคร ไม่ฟังคนในครอบครัว หน้าหมองคล้ำ ผอมแห้ง มีความเปลี่ยนไปเยอะมาก
ส่วนการใช้เงินก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน หลังจากที่ไปอยู่สำนักแห่งนี้ ตอนนี้กลายเป็นคนที่มีหนี้มีสินจนล้นตัว
ซึ่งแม่ก็ไม่ได้เล่าว่า สนิทกับพระสงฆ์ของสำนักแห่งนี้ได้อย่างไร พูดแค่ว่าหลังจากที่ไปสำนักแห่งนี้แล้วรู้สึกสบายใจ ซึ่งจากการสังเกตุก็ไม่ได้เห็นอะไรที่ผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ทางแม่แตง และนางสาวกระปุก เดินสวนกันเหมือนคนไม่รู้จักกัน ทางนางสาวกระปุกบอกว่า แม่ด่าหนูแรงขนาดนี้ หนูก็ต้องปล่อยเขาแล้ว
และหลังจากนั้นนางสาวกระปุกก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักต่อหน้านักข่าว และบอกว่าแม่ตีลูกก็ยังพอเข้าใจ แต่แม่ปล่อยให้คนอื่นมาตีลูกตัวเอง โดยที่แม่ไม่ปกป้อง มันเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากมาก
นางสาวกระปุก ยังยืนยันว่า ที่ตัวเองทำไปทั้งหมดนั้น เป็นการช่วยแม่ อยากให้แม่เป็นแม่คนเดิม อยากเอาแม่ออกมาจากสำนักแห่งนี้ ส่วนเรื่องที่แม่จะแจ้งความ ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่ตัวเองก็จะแจ้งความกับคนที่มาทำร้ายร่างกายตัวเองเหมือนกัน
ส่วนประเด็นเรื่องกิจการขายลูกชิ้นของแม่แตง และสามีใหม่ ที่เป็นพ่อเลี้ยงของนางสาวกระปุก ทางแม่แตงบอกว่า ตอนนี้โรงงานยังคงเป็นหนี้หลักล้านกว่าบาท เป็นหนี้กับทางสถาบันการเงินที่อื่นๆ ซึ่งตอนนี้ก็ต้องพยายามขายโรงงานให้คนอื่น เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้
ยืนยันจะไม่แบ่งเงินให้กับสามีใหม่คนนี้ แม้จะเป็นคนลงมือลงแรงมานานหลายปีก็ตาม ทางแม่แตงมองว่าตัวเองฝ่าฟันมาคนเดียว ไม่จำเป็นต้องแบ่งเงินให้ใคร
ด้านนายยอดฉัตร อายุ 28 ปี เพื่อนของกระปุก ระบุว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ มองพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้ไม่ใช่พระ และหากไม่ผิดจริงไม่จำเป็นจะต้องกลัวว่าคลิปจะหลุดออกไปเพราะความจริงก็คือความจริง
Advertisement