กัน จอมพลัง ลุย ช่วยหญิงพิการวัย24 ถูกลุงข้างบ้านขืนใจ
กัน จอมพลัง ลงพื้นที่ท่าวุ้งลพบุรี ช่วยหญิงพิการวัย24 ถูกลุงข้างบ้านกระทำชำเรา โดยอาศัยจังหวะที่ภรรยาและลูกกลับต่างจังหวัดในช่วงสงกรานต์
วันนี้ 4 พ.ค.68 เวลา 14.00 น. ที่สภ. ท่าวุ้ง กันจอมพลัง พร้อมทีมงาน ได้เดินทางลงพื้นที่ หลังจากมีชาวบ้านทักมาขอให้ช่วยหญิงพิการแขนขาอ่อนแรงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถูกลุงข้างบ้านข่มขืน โดยอาศัยจังหวะที่ภรรยาและลูกกลับต่างจังหวัดในช่วงสงกรานต์ โดยวันเกิดเหตุออกอุบายบอกกับตายายของน้องว่าจะพาไปเลี้ยงข้าวและเปิดหนังให้ดู แต่ความจริงคือพาน้องไปข่มขืน หลังจากเกิดเหตุได้หลบหนี ชาวบ้านจึงกังวลและหวาดระแวง กลัวน้องจะถูกกระทำซ้ำอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยกันจอมพลัง พร้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปลัดอำเภอ ผู้นำชุมชน อบต.บางลี่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เเละเจ้าหน้าที่ พมจ.ได้เดินทางลงไปยังบ้านของน้องอ้อม (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย ที่ถูกนายนเรศข่มขืน
ซึ่งในช่วงที่เดินทางลงพื้นที่ไปนั้นน้องอ้อมได้นั่งอยู่กับคุณตาคุณยายบุญธรรม ที่เลี้ยงดูน้องมาตั้งแต่เด็ก โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลกับ กันจอมพลัง ว่า พ่อแม่ของน้องอ้อม แยกทางกันตั้งแต่เด็ก น้องไม่เคยเจอพ่อแม่แท้ๆเลย ซึ่งตอนนั้นก็ได้มีการมาจ้างตากับยายบุญธรรมสองคนนี้ให้คอยช่วยดูแลตอนแรกก็ยังพอจะได้เงินอยู่บ้างเดือนละ 3000 บาท แต่ระยะหลังก็ไม่ได้เงินอีกเลยหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อพ่อแม่แท้ๆ ของน้องได้
ทั้งนี้ กันจอมพลัง ได้พูดคุยสอบถามข้อมูลจากน้องอ้อมคร่าวๆ ทราบว่า ตอนนี้น้องอ้อมรู้สึกหวาดกลัวและไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้อีกเพราะกลัวจะเจอกับผู้ก่อเหตุ ก่อนที่กัน จอมพลังจะชวนน้องอ้อมคุยเรื่องอื่นแทน เพื่อคลายความเครียดของน้องเช่น น้องเรียนอยู่ที่ไหน ทำอะไรบ้าง ซึ่งน้องอ้อมก็สามารถพูดคุยและสื่อสารตอบกลับได้ทุกประโยค เช่น บอกว่าตัวเองเรียนหนังสืออยู่ที่เขตศึกษาพิเศษเขต 6 ท่าวุ้ง ไม่เเบ่งเป็นชั้นเรียน เรียนรวมกับเพื่อนๆ ครูสอนให้บวกเลขเเละระบายสีด้วย
ขณะที่ ทางด้าน นายรุ่งชัย กุลวงษ์ สมาชิก อบต. บางลี่ ได้เปิดเผยว่า ตัวของนายนเรศ ผู้ก่อเหตุ เพิ่งจะมาอยู่ในหมู่บ้านได้เพียง 5 ปี เท่านั้น โดยตอนที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านก็ยังไม่เคยก่อเหตุอะไรรู้แค่ว่าก่อนหน้านี้เคยมีคดีติดคุกมาก่อน ในท้องที่ของอำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งนิสัยของเค้าเวลาเมาก็มักจะเอะอะโวยวายเสียงดัง
หลังจากนั้น กันจอมพลัง ได้ประสานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลพบุรี เพื่อขอให้รับตัวน้องอ้อมไปอยู่ในความคุ้มครองดูแลก่อนชั่วคราว ซึ่งเจ้าหน้าที่ พม. จะได้พาตัวของน้องอ้อมขึ้นรถเข็นวีลเเชร์ พาออกมาจากนอกบ้าน โดยช่วงจังหวะที่เข็นรถเข็นผ่านบริเวณด้านหน้าบ้านที่เกิดเหตุน้องอ้อมก็เกิดเกร็งตัวขึ้น หลังจากที่น้องมองเห็นบ้านหลังนั้นก็ ร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว ก่อน คุณครูที่เคยสอนน้องต้องมาอุ้มน้องขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนที่ญาติและคุณตาจะเข้าไปกอดปลอบใจ รวมถึงมีเพื่อนที่เคยเรียนกับน้องอ้อมเข้าไปกอดให้กำลังใจและร้องไห้ออกมา
Advertisement
