Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
“รีดไถประชาชน” เจ้าหน้าที่เรียกรับสินบนแลกแก้แบบก่อสร้าง

“รีดไถประชาชน” เจ้าหน้าที่เรียกรับสินบนแลกแก้แบบก่อสร้าง

2 พ.ค. 68
10:00 น.
แชร์

การเรียกรับ “สินบน” คือปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหน่วยงานรัฐของไทย ซึ่งการทุจริตเรียกรับสินบนมีลักษณะและพฤติการณ์การกระทำความผิดหลากหลายรูปแบบ เช่น การเรียกรับผลประโยชน์จากภาคเอกชน เพื่อแลกกับการแก้ไขแบบก่อสร้างไม่ให้เกิดการเวนคืนพื้นที่ เป็นต้น

รายการ SPOTLIGHT Anti Corruption Season 3 เปิดพฤติกรรมรีดไถประชาชนของเจ้าหน้าที่รัฐ และความท้าทายที่หน่วยงานต้องเผชิญในการตรวจสอบ ปราบปราม และป้องกันการทุจริตจากการรับสินบน

ความพยายามในการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

ปัจจุบัน การทุจริตเรียกรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐมีรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ซึ่งนอกจากการเรียกรับผลประโยชน์ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว ยังมีกรณีที่เกิดขึ้นในลักษณะต้มตุ๋นอีกด้วย อาทิ เจ้าหน้าที่รัฐแอบอ้างว่าตนมีอำนาจในการกระทำการบางอย่าง ซึ่งหากส่งมอบเงินหรือผลประโยชน์อื่น ๆ ให้ ตนก็จะสามารถอำนวยความสะดวกอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้

ยกตัวอย่างปฏิบัติการ ‘จับสด’ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน บุกจับนายช่างโยธา สังกัดสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร พร้อมพรรคพวกอีก 4 ราย ที่มีพฤติการณ์ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เพื่อทำให้ผู้ประกอบการสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งเชื่อว่าที่ดินจะถูกเวนคืนเนื่องจากการก่อสร้างถนน และตนพร้อมพรรคพวกมีอำนาจหน้าที่ในการขยับแนวเขตการก่อสร้าง จนนำไปสู่การเรียกรับเงินในการดำเนินการดังกล่าว 3 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 9 ล้านบาท ซึ่งการบุกจับในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถยึดทรัพย์สินได้กว่า 40 ล้านบาท

จากกรณีดังกล่าว ต้นสังกัดอย่างกรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งพักราชการข้าราชการรายดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง เพื่อนำเสนอสำนวนการสอบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

รองศาสตราจารย์ ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับรายการ SPOTLIGHT Anti Corruption ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าวเป็นลักษณะต้มตุ๋น พยายามใช้ข้อมูลทางราชการที่มีในมือเพื่อหลอกลวงประชาชนในการเรียกรับผลประโยชน์ ดังนั้นหากประชาชนพบเห็นเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว หรือมีความพยายามเรียกรับผลประโยชน์แลกกับการแก้ไขแบบก่อสร้างไม่ให้เกิดการเวนคืนพื้นที่ สามารถแจ้งเรื่องมายังกรุงเทพมหานครเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป พร้อมกันนี้ ประชาชนและผู้ประกอบการไม่ควรให้ความร่วมมือใด ๆ กับขบวนการทุจริต เนื่องจากจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์ในลักษณะดังกล่าวต่อไป

ปัญหาทุจริต ‘จุดอ่อน’ ของกรุงเทพมหานคร

การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันภายในหน่วยงานของกรุงเทพมหานครนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่าจำเป็นต้องมีการเพิ่มมาตรการตรวจสอบให้เข้มข้นขึ้น เนื่องจากตนและกรุงเทพมหานครจะไม่อดทนต่อการทุจริตคอร์รัปชันใด ๆ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการทุจริตเป็นจุดอ่อนของกรุงเทพมหานครที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งเป็นความพยายามที่ตนได้มอบนโยบายเอาไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี 2565

‘เทคโนโลยี’ เครื่องมือช่วยแก้คอร์รัปชัน

หนึ่งในนโยบายแรก ๆ ที่ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ นำมาใช้เพื่อปราบปรามทุจริตภายในหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร คือการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภาครัฐ (Open Data) ตั้งแต่การใช้งบประมาณต่าง ๆ ไปจนถึงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งถูกนำมาเปิดเผยบนเว็บไซต์ โดยในปีแรกของการทำ Open Data นั้น มียอดเข้าชมกว่า 400,000 ครั้ง และปัจจุบันมียอดการรับชมรวมมากกว่า 3.3 ล้านครั้ง

ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครได้มีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เช่น ระบบขออนุญาตก่อสร้าง โดยนำร่องสำหรับการก่อสร้างบ้านขนาดไม่เกิน 3 ชั้น ให้สามารถยื่นขออนุญาตทางออนไลน์ได้ โดยกระบวนการนี้จะใช้เวลา 14 วัน จากเดิมที่การยื่นขออนุญาตก่อสร้างในรูปแบบกระดาษเอกสารที่ใช้เวลา 45 วัน โดย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุว่ากระบวนการขอใบอนุญาตต่าง ๆ จะต้องทำให้เป็นออนไลน์ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามขั้นตอนการบริการตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อช่วยเพิ่มความโปร่งใส ลดปัญหาความล่าช้าและเรื่องคงค้างที่อาจถูกซุกซ่อนไว้ ซึ่งเสี่ยงต่อการทุจริต

“ขั้นแรกเลยมันเหมือนเอาไฟฉายส่องลงไปในที่มืดและให้คนเห็นสิ่งที่มันซ่อนอยู่ เขาเรียกว่าระบบ Open Data คือการเอาข้อมูลทั้งหมดมาเปิดเผย พอเรามีเทคโนโลยี เราก็เห็นการทุจริตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าการทุจริตมันเพิ่มขึ้นนะ แต่เราตรวจจับได้มากขึ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังเปิดช่องทางให้ประชาชนร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชันรับแจ้งเหตุ Traffy Fondue ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี กรุงเทพมหานครมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้วกว่า 900,000 เรื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความโปร่งใสให้กับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ควบคู่กับการประกาศใช้มาตรฐานสากล ISO 37001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการและการต่อต้านการติดสินบน โดยจะนำร่องที่สำนักงานสำคัญ ๆ ก่อน อย่างสำนักการโยธา

ความเสียหายจากการคอร์รัปชัน

ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ให้สัมภาษณ์กับรายการ SPOTLIGHT Anti Corruption ว่าแนวทางในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันนั้น คือการบังคับใช้กฎหมายควรมีความจริงจัง ขณะที่บทลงโทษควรครอบคลุมทั้งผู้ให้สินบนและผู้รับสินบนอย่างเด็ดขาด ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็งนั้นอยู่ที่ ‘ผู้นำ’ ที่มีอำนาจในการบริหารจัดการ ขณะเดียวกัน ควรนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานเพื่อลดการใช้ดุลพินิจของผู้นำ ซึ่งจะเป็นการปกป้องบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใส

สำหรับความเสียหายจากการคอร์รัปชันนั้น ดร. สุชัชวีร์ มองว่าการเรียกรับสินบนเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ตั้งแต่การใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานรัฐที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งการที่รัฐต้องใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมาก เพื่อแลกกับคุณภาพสินค้าในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง ขณะที่ผลกระทบทางด้านสังคมคือเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ยิ่งในกรณีที่มีการสูญเสียชีวิตต้องนับว่าเป็น “อาชญากรรมแห่งรัฐ” ซึ่งเป็นความเสียหายร้ายแรงและไม่มีอะไรสามารถชดเชยได้

หน่วยงานกลางเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ

นอกจากนี้ ดร. สุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงองค์กรเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งตนได้ชักชวนประชาชนร่วมลงชื่อ 10,000 คน ในการเสนอกฎหมาย “ร่างพระราชบัญญัติเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ พ.ศ. ...” เพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัยสาธารณะ หลังเหตุสะพานถล่มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะทำให้มีการจัดตั้งองค์กรอิสระที่มีความเป็นกลาง ทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุสาธารณภัยต่าง ๆ เช่น สะพานพัง อาคารถล่ม หรือโรงงานระเบิด ซึ่งเป็นการสอบสวนนำโดยหลักการทางวิชาการอย่างเคร่งครัด ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการตรวจสอบเหตุเพื่อค้นหาผู้กระทำผิด และป้องกันเหตุในอนาคต

“จริง ๆ ประเทศไทยมีจุดอ่อนตรงนี้มากนะ ถ้าเกิดอาคารพัง การก่อสร้างพัง แทนที่จะให้เจ้าของงาน ซึ่งเป็นเจ้าของงานที่พังเนี่ยไปสืบทราบกันเองเนี่ย อันนี้ในโลกเขาไม่ทำกัน มันควรต้องมีคนกลางเข้าไปพิสูจน์ทราบ ไปตัดเหล็กดูสิว่าช่วงรอยต่อสมบูรณ์ไหม ดึงคอนกรีตมาทดสอบว่ามันได้มาตรฐานไหม ไปดูรายการคำนวณ ไปดูราคาต่าง ๆ แล้วส่งให้ตำรวจ ส่งให้อัยการฟ้องศาลได้ แต่เราไม่มี ในต่างประเทศเขาจะมีองค์กรเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งตอนนี้ผมพยายามผลักดันอยู่ เสนอกฎหมายไปแล้ว รอให้มันเกิน 10,000 ชื่อ มันจะเป็นคนกลางที่ทำหน้าที่แทนประชาชน เป็นผู้มีความรู้ทางด้านนิติวิศวกรรม ทำงานเต็มเวลา ในต่างประเทศเขาจะมีองค์กรที่เป็นคนกลาง ทำหน้าที่โดยตรง เวลาเกิดเหตุพังทลาย โรงงานระเบิด รถก๊าซระเบิด สะพานถล่มเนี่ยเข้าไปพิสูจน์หลักฐานได้เลย ไปดูเลย บินโดรน ถ่ายภาพความละเอียดสูง สัมภาษณ์ ซึ่งเขามีความรู้มีความเชี่ยวชาญ ทำสำนวนดี ๆ เขาไม่มีอำนาจบริหาร ไม่มีอำนาจตุลาการ แต่เขามีอำนาจทางวิชาการ ส่งให้ตำรวจอัยการฟ้องหาผู้กระทำความผิด เช่นถ้าเกิดมันพังเพราะคอร์รัปชัน รู้เลย ซึ่งปัจจุบันไม่รู้ ถ้าเกิดมันพังเพราะประมาท รู้เลย ถ้าเกิดมันพังเพราะไม่รอบคอบ รู้เลย ถ้าเกิดมันพังเพราะผู้ออกแบบออกแบบผิด รู้เลย แต่ปัจจุบันไม่มี นี่ก็คือสิ่งที่ขาดหายไปในประเทศไทย ทำให้คนทำความผิด ไม่ว่าจากความประมาทหรือคอร์รัปชันลอยนวล สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นซ้ำซากครับ” ดร. สุชัชวีร์ กล่าว

การทุจริตเรียกรับสินบนไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน หน่วยงานภาครัฐต้องมีธรรมาภิบาล มีการเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้พร้อมตรวจสอบอยู่เสมอ ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนจะต้องตระหนักถึงผลร้ายของการให้สินบน ที่นอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศแล้ว ตัวผู้ให้สินบนก็มีความผิดและจะต้องรับโทษด้วยเช่นกัน สุดท้ายแล้ว ภาคประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในฐานะผู้ร่วมตรวจสอบ ช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส เพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรม โปร่งใส และปราศจากสินบนในที่สุด

Advertisement

แชร์
“รีดไถประชาชน” เจ้าหน้าที่เรียกรับสินบนแลกแก้แบบก่อสร้าง