เปิดตำนานอาถรรพ์วัดร้าง 12 ศพ พระธุดงค์ยังเผ่น แฉหนุ่มผูกคอตาย ตะโกนท้า“กูจะเผาให้หมด” (คลิป)

จากกรณี นายชาติชาย ศรีสายหยุด หนุ่มอยุธยา ผูกคอตัวเองเสียชีวิตใต้ต้นไม้ภายในโบราณสถานของวัดกระซ้าย ต.บ้านป้อม จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ศพพบโทรศัพท์ของผู้ตายอยู่ในกระเป๋ากางเกงซ้าย เปิดเพลง "เหตุผล" ของศิลปิน ปู แบล็คเฮด ไว้ด้วย ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเรื่องของถรรพ์ เพราะก่อนหน้ามีคนมาผูกคอตาย ณ ที่แห่งนี้ถึง 11 ศพ และศพรายที่ 12 ก็คือศพนายชาติชาย นั้น  

ล่าสุด วันที่ 27 มี.ค.63 นายชะเอม ด้วงวิเศษ หัวหน้าคนงานผู้ดูแลวัดกระซ้าย กรมศิลปากร พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ที่วัดแห่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปกรพระนครศรีอยุธยา เข้ามาบูรณะทำความสะอาดเป็นประจำ เดือนละ 2 ครั้ง และตนเองก็ควบคุมงานที่วัดแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นวัดเก่าโบราณสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 (พ.ศ.2000) มีอายุราวกว่า 563 ปี และยังเป็นสถานที่บรรจุอัฐิของ “สมเด็จพระเอกาทศรถ” 

หากย้อนกลับไปช่วงก่อนหน้านี้ จะมีกลุ่มวัยรุ่นที่ได้รับการว่าจ้างจากผู้ใหญ่บางคนแอบเข้ามาขุดพระเครื่องของโบราณ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดพระเครื่องของเก่า แต่พบว่ามีการทิ้งของกลาง อาทิ จอบ พลั้ว ไว้ในหลุมที่ขุด จึงเชื่อว่าระหว่างการขุด อาจเจอสิ่งที่มองไม่เห็นมาสั่งห้าม กระทั่งทำให้คนเหล่านั้นวิ่งแตกกระเจิงหนีไป

นอกจากนี้ นายชะเอม หัวหน้าคนงานที่ดูแลวัด ยังได้โชว์พระเก่าโบราณ คือ “พระ10ชาติ” ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นอิฐโบราณ ขนาดกว้างเท่าฝ่ามือ ด้านบนแผ่นอิฐ ถูกพิมพ์เป็นรูป พระจำนวน 10 รูปเรียงกันเป็นชั้น และยังมีรูปเจดีย์ขนาดเล็กอีก 2 องค์ขนาบข้าง และสลักรูปกลีบดอกไม้ ซึ่งเป็นที่ต้องการของคนที่เข้ามาแสวงหา

หากใครมีครอบครองแล้ว “จะยิงไม่เข้า ฟันแทงไม่โดน” โดยพระ10ชาติ มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบนั่งสมาธิ กับ แบบสดุ้งมาร ซึ่งปัจจุบันไม่ทราบว่าใต้ฐานเจดีย์โบราณยังมีพระเก่าโบราณหลงเหลืออยู่หรือไม่ เนื่องจากถูกคนลักลอบแอบขุดเอาไปเกือบทั้งหมด

ขณะเดียวกัน พระที่มาปักกลดอยู่ภายในวัดแห่งนี้ ส่วนใหญ่ไม่มีใครสามารถปฎิบัติธรรมหรืออยู่จนถึงตอนเช้า เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดค่อนข้างแรง โดยพระที่มาปัดกลดต่างหนีกระเจิง เพราะช่วงกลางคืนพระรูปหนึ่ขณะพระรูปหนึ่งกำลังปฏิบัติธรรม เห็นงูใหญ่มาปรากฏให้เห็น ซึ่งเชื่อว่าเป็นงูเจ้าที่

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านเคยเห็นคนแก่ชาย-หญิง นุ่งขาวห่มขาวมายืนให้เห็นที่ใต้ต้นไม้ ซึ่งมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจ อีกทั้งชาวบ้านบางคนที่เข้ามาท้าทายสิ่งลี้ลับในเวลากลางเห็นนางไม้สวมสะใบทอง มีชฎา และนางตะเคียน ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ รวมถึงยังมีคนเคยเห็นพระที่เสียชีวิตไปแล้วมายืนจ้องหน้าให้เห็น

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตนเคยได้รับโชคจากตัวเลข 2 ตัว ที่ปรากฏให้เห็นที่ลำต้น หลังจากจุดธูปขอบริเวณใต้ต้นไม้ที่มีนางไม้สิงสถิตอยู่ 

ด้าน นายสมหมาย ผู้ที่รู้จักกับนายชาติชาย ผู้ที่ผูกคอตายรายล่าสุด บอกว่า ในวัดกระซ้ายมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเคารพนับถือ อยู่ 3 แห่ง คือ พรธาตุ เป็นที่สิงสถิตยของหลวงปู่วัดกระซ้าย ผีปู่ย่า และผีคนเผากรุ ,ต้นคะเคียนที่เชื่อว่ามีนางตะเคียนสิงสถิตยอยู่ และต้นคางที่มีนางสไบทองคอยปกปักรักษา

ส่วนกรณีของนายชาติ ย้อนกลับไป 12 วันก่อนที่จะผูกคอตาย เจ้าตัวได้มีปากเสียงกับคนที่บ้าน ก่อนจะขี่รถมอเตอร์ไซด์มาที่วัดกระซ้าย แล้วเอะอะโวยวายเสียงดังด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ พร้อมกับพูดท้าทายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า “กูจะเผา จะทุบทำลายให้หมด กูไม่กลัวใครในวัด” ซึ่งตนได้หลุดปากพูดออกไปว่า “ มึงพูดแบบนี้ไม่เกิน 7 หรือ 12 วัน มึงจะตายเพราะคำพูดของมึง” กระทั่งนายชาติชายมาผูกคอตายจริงที่ใต้ต้นไม้ 

 

อย่างไรก็ตาม ที่วัดแห่งนี้ไม่ใช่แค่นายชาติชาย ที่จบชีวิตด้วยเหตุการณ์ท้าทาย แต่ยังมีกลุ่มคนอีกไม่น้อยที่พยายามเข้ามาลองดี รวมถึงอยากได้ทรัพย์สมบัติภายในวัดออกไปเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายต้องกลายเป็นศพอยู่ในวัดกระซ้าย 

มีรายงานว่าคนที่มาผูกคอตาย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.เอาพระเก่า-สมบัติออกไปจากวัด พระปลอม 1ศพ (ปักกลดช่วงกลางคืนและแอบขุดพระ) ,อดีตข้าราชการ 1 ศพ (แอบพาพวกมาขุด) , พลทหาร1ศพ (แอบขุด) , พระที่มาปัดกลด 1 ศพ (เอาชฏา และอิฐออกไปจากวัด) , ชาวบ้าน 2 ศพ (แอบมาขุด)

2.มาท้าทาย-ลองของ คู่รักแอบมีเซ็กส์ 2 ศพ , หนุ่มมุสลิม 1ศพ (คนล่าสุด) ,วัยรุ่นในหมู่บ้าน 1 ศพ 

3.เรื่องตัวตายตัวแทน ชาวบ้าน 2 ศพ 

ขณะที่ นางบีลอ (นามสมมติ) แม่นายชาติชาย บอกว่า ครอบครัวของตนเองนับถือศาสนาอิสลาม เชื่อว่าสาเหตุที่คิดสั้นเกิดจากปัญหาความเครียด เพราะก่อนจะเสียชีวิตลูกชายทะเลาะกับแฟนสาว จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ย้อนกลับไปช่วง 3 วันก่อนจะเกิดเหตุ ลูกชายมีอาการเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง ไม่สุงสิงกับคนครอบครัว ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเรื่องตัวตายตัวแทน เพราะคนอิสลามเชื่อว่า คนที่ตายแล้ววิญญาณจะอยู่ข้างกาย ไม่ได้วนเวียนอยู่ที่วัดดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านเดินทางมาเพื่อเสี่ยงโชคบริเวณใต้ต้นคาง โดยการทำฉลากหมายเลข 0-9 ใส่ขันเงิน แล้วทำการจุดธูป 3 ดอกขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

จากนั้นได้เริ่มการเสี่ยงทำนาย โดยชุดแรกสุ่มจับฉลาก 2 อันขึ้นมา ปรากฏหมายเลข “36” จากนั้นได้อธิฐานต่อ พร้อมกับเสี่ยงจับฉลากอีก 3 อัน ซึ่งได้เลข “451”