แม่พาลูกสาววัย 17 ร้องสายไหมต้องรอด ถูกอดีตแฟนหนุ่มใช้มีดปังตอฟันไม่ยั้งหวิดมือขาด เกือบเอาชีวิตไม่รอด ครอบครัวฝ่ายชายไร้การเยียวยา
นางเอ อายุ 55 ปี พร้อมลูกสาววัย 17 ปี เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากที่ลูกสาวถูกอดีตแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย โดยลูกสาววัย 17 ปี เล่าว่า ตนกำลังศึกษาอยู่ชั้นปวช. ปี 1 ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี โดยต้องมาอยู่หอพักซึ่งต้องแยกอยู่กับแม่ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระยอง ก่อนที่จะได้เริ่มคบหากับชายหนุ่มอายุ 19 ปี เริ่มคบกันเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566 จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายนจับได้ว่าฝ่ายชายแอบไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น จึงได้บอกว่าเลิกแต่ว่าฝ่ายชายไม่ยอมพยายามที่จะตามง้อพร้อมข่มขู่ ”ว่าถ้าเลิกคบก็จะมาตามทำร้าย“
โดยที่ผ่านมาฝ่ายชายไม่เคยมีพฤติกรรมที่รุนแรงกับตนแต่มีกับครอบครัว โดยเฉพาะกับแม่ของฝ่ายชาย เคยเห็นครั้งหนึ่งฝ่ายชายทะเลาะกับแม่ จากนั้นก็ไปเอามีดมาข่มขู่แม่ของตัวเอง
ที่ผ่านมาฝ่ายชายก็พยายามจะตามราวีมาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ผู้เสียหายนอนเล่นอยู่ในบ้าน ก่อนที่ฝ่ายชายจะเดินเข้ามาในบ้าน และกระชากโทรศัพท์มือถือของฝ่ายหญิงออกไป พร้อมเอาไปดูการสนทนาของฝ่ายหญิงในโทรศัพท์ ระหว่างที่ฝ่ายชายกำลังดูโทรศัพท์ก็เกิดการทะเลาะกัน จากนั้นฝ่ายชายก็วิ่งไปที่หน้าบ้านดูโทรศัพท์ของตน สักพักนึงก่อนที่จะวิ่งกลับเข้าไปในครัวภายในบ้านจากนั้นก็เอามีดออกมาฟันกระหน่ำทำร้ายเธอ โดยแผลแรกฟันเข้าที่บริเวณศีรษะ จากนั้นก็กระหน่ำฟันแทงมาเรื่อยๆ ซึ่งฝ่ายหญิงพยายามที่จะเอาแขนมาป้องกันศีรษะ จนทำให้แขนได้รับบาดเจ็บเป็นบาดแผลฉกรรจ์
โดยฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนเอ็นขาด นิ้วขาด เลือดคั่งในสมอง กะโหลกแตก หูฉีก โดยทางครอบครัวเสียค่ารักษาพยาบาลไปเยอะ ต้องกู้หนียืมสินค่ารักษาพยาบาล ประมาณกว่า 1 แสน 2 หมื่นบาท และยอดค่ารักษาล่าสุด อีก 5 หมื่น บาท รวมทั้งสิ้นเกือบ 2 แสนบาท ครอบครัวของฝ่ายชายไม่เคยมาดูแลหรือให้การเยียวยาแต่อย่างใด โดยที่ย้อนกลับไปในเหตุการณ์วันที่ถูกทำร้ายพ่อของฝ่ายชายก็อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่ม แต่ไม่ได้เข้ามาห้ามหรือให้การช่วยเหลือฝ่ายหญิง ทำเพียงแค่ยืนมองลูกชายทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิง
ด้านแม่ของฝ่ายหญิง ระบุว่าขณะนี้ฝ่ายชายถูกจับดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า แต่ตนต้องการให้แจ้งความในข้อหาพรากผู้เยาว์เพิ่มตำรวจสภ.ศรีราชา กลับบอกว่าแม่ไม่มีความรู้ในเรื่องของกฎหมายจะให้ดำเนินคดีในมาตราไหน แม่ด้วยความเสียใจและไม่เข้าใจจึงได้เดินทางกลับมาที่บ้านพร้อมลูกและรู้สึกว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจ อีกทั้งตำรวจก็ยังส่งเรื่องไปที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อขอเงินเยียวยาให้กับครอบครัว
จึงเดินทางเข้ามาร้องสายไหมต้องรอด หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมและได้รับความช่วยเหลือ เนื่องจากตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนหนัก มองว่าคดีนี้ไม่เป็นธรรมกับลูกตนเองและครอบครัว
ซึ่งคุณแม่พูดทั้งน้ำตา บอกว่าตนเองอยากฝากถึงครอบครัวคนก่อเหตุ ให้มารับผิดชอบสิ่งที่ลูกของคุณกระทำ ช่วยรักษาเยียวยาดูแลครอบครัว ดูแลน้องด้วย ตนเองต้องหยุดงาน หากู้เงินคนอื่นมา อีกทั้งตนเองรับจ้างรายวัน รายได้แทบไม่มี แต่ต้องมาใช้หนี้เรื่องของเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด.
Advertisement