อัยการทุจริตภาค 4 สั่งฟ้องสาวใหญ่ ร่วมกับ พ.ต.อ. หมิ่นประมาทอดีตเลขาฯสหายแสง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัยการทุจริตภาค4 สั่งฟ้องสาวใหญ่ ร่วมกับ พ.ต.อ. และพวก ม.157 ร่วมกันค้นประวัติและหมิ่นประมาทอดีตเลขาฯสหายแสง”
วันที่ 14 พ.ค. 67 อัยการคดีทุจริตภาค 4 มีความเห็นตามพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม สั่งฟ้อง น.ส.กาญจนา (นามสมมติ) รวม 6 คน ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท, ม.157 และสนับสนุน ม.157
โดยพฤติกรรมกล่าวคือ นางกาญจนา(นามสมมติ) และพวก ได้ร่วมกันสืบค้นประวัติของนายธนบวร อดีตเลขานุการของ นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา และนำไปเผยแพร่ จนทำให้ผู้กล่าวหาได้รับความเสียหาย โดยให้ในนำตัวมาฟ้องต่อศาลคดีทุจริตในวันที่30 พ.ค.นี้
พฤติกรรมแห่งคดีนั้น พ.ต.อ.อกนิษฐ์ (นามสมมติ) 1 ในผู้ถูกกล่าวหา ได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาสืบค้นประวัติของนายธนบวร แล้วนำไปให้ นางกาญจนา (นามสมมติ) กับพวกที่เหลือ ใช้ในการหมิ่นประมาทผู้กล่าวหา โดย พ.ต.อ.อกนิษฐ์ (นามสมมติ) เคยเป็นเพื่อนร่วมรุ่น รร.มัธยมศึกษาและรร.เตรียมทหารกับนายธนบวร ในส่วนนางกาญจนา (นามสมมติ) และนางปริม (นามสมมติ) ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นหลักสูตรชื่อดัง ซึ่งจัดโดยหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่ง ในส่วนนางช่อ(นามสมมติ) และนายฉัตร (นามสมมติ) ก็เป็นคู่กรณีกับผู้กล่าวหาในอีกหลายคดี โดยเฉพาะนางช่อ (นามสมมติ)ได้ร่วมกับทนายคนดัง หมิ่นประมาทผู้กล่าวหาในอีกคดีหนึ่ง และศาลได้มีคำพิพากษาให้คดีมีมูลสั่งประทับรับฟ้องไว้แล้ว
ในมูลคดีเดียวกันนี้นั้นยังมีข้าราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและอยู่ในการพิจารณาของพนักงานอัยการ และ ป.ป.ช.อีก 3 คดี อาทิ อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งปัจจุบันเป็นอธิบดี เจ้าหน้าที่ กกต. และตำรวจ สภ.บางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
ทั้งนี้ผู้กล่าวหาได้กล่าวว่า จะดำเนินคดีทุกคนให้ถึงที่สุด เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับตนเองและครอบครัว ที่สำคัญคือ ตนต้องการพิสูจน์ให้สังคมเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของทุกคน
Advertisement
