ด่วน! "ครูยุ่น"เข้ารับทราบ 2 ข้อหาวันนี้ หลังถูกร้องใช้แรงงานและทำร้ายร่างกายเด็ก ขณะที่ผู้ปกครองโวยมารับลูกหลาน แต่ไม่เจอตัวเด็ก
ด่วน! "ครูยุ่น" เข้ารับทราบข้อหาวันนี้ หลังถูกร้องใช้แรงงานและทำร้ายร่างกายเด็ก ขณะที่ผู้ปกครองโวยมารับลูกหลานแต่ไม่เจอตัวเด็ก
วันที่ 3 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ครูยุ่น หรือ นายมนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก นาย.แก้วสรร อติโพธิ ประธานมูลนิธิคุ้มครองเด็ก พร้อมกับทนายความได้เดินทางมาที่ สภ.อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของตำรวจ สภ.อัมพวา ใน 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายเด็กและใช้แรงงานเด็ก ซึ่งขณะนี้ ครูยุ่น กำลังถูกพนักงานสอบสวน อยู่ในห้องสอบสวน และในช่วงบ่ายจะมีเปิดมีการแถลงข่าวให้กับสื่อมวลชนทั่วไป
ขณะที่บรรยากาศภายใน "มูลนิธิคุ้มครองเด็ก" ของครูยุ่น ที่จ.สมุทรสงคราม ภายหลังจากมีกระแสข่าวมูลนิธิฯมีปัญหาในการดูแลและปกครองเด็ก โดยเฉพาะการใช้แรงงานและการ ทำร้ายร่างกาย เด็กนั้น ทำให้ในช่วงเช้าวันนี้ มีผู้ปกครองเด็กที่นำเด็กมาฝากไว้กับทางมูลนิธิฯดูแลจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้ามารับลูกหลานตัวเองเพื่อกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าบางคนมาแล้ว ไม่พบลูกหลานของตัวเอง โดยมีผู้ดูแลมูลนิธิฯบอกว่าเมื่อวานมีเจ้าหน้าที่และมูลนิธิแห่งหนึ่ง มารับเด็กไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น ทำให้ผู้ปกครองหลายคนไม่พอใจ ที่มารับเด็กไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองแต่อย่างใด
ซึงมีผู้ปกครองหลายคนแจ้งให้มูลนิธิดังกล่าวนำบุตรหลานมาคืนก่อน มิเช่นนั้นวันนี้จะเข้าไปแจ้งความที่ สภ.อัมพวา ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่าครูยุ่นจะเดินทางเข้ามอบตัวในวันนี้

อย่างไรก็ตามกรณีของ “มูลนิธิคุ้มครองเด็ก” ชื่อดังในจ.สมุทรสงคราม ปรากฎเป็นข่าวหลังจากที่เมื่อวานนี้ ผู้ว่าฯและรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงข่าว กรณีมูลนิธิถูกร้องเรียนว่าใช้แรงงานและทำร้ายร่างกายเด็ก
หลังมีน้องๆนักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งเข้าไปทำกิจกรรมและพบเห็นความผิดปกติบางอย่าง เช่น นักศึกษาคนหนึ่งไปถึงก่อนเวลา และได้ยินครูพี่เลี้ยงดุด่าเด็กด้วยถ้อยคำหยาบคาย และในระหว่างทำกิจกรรมเด็กๆ ดูไม่มีความสุขกับกิจกรรม ซึ่งผิดปกติจากเด็กๆในวัยนี้ รวมถึงน้องๆจะบอกกับกลุ่มนักศึกษาว่า “อยากได้อาหารหรือของกินมากกว่า”
โดยระหว่างทำกิจกรรมได้มีการพูดคุยกัน เด็กๆได้เปิดใจกับกลุ่มนักศึกษาว่า พวกเขาถูกใช้แรงงานในรีสอร์ทของเจ้าของมูลนิธิแลกกับเงินค่าขนม ยิ่งไปกว่านั้น ยังบอกว่าเคยถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย รวมไปถึงมีการด่าทอทำร้ายจิตใจเด็กๆ ไม่เว้นเด็กเล็กและเด็กโต บางคนถูกบังคับให้เรียนต่อในสายอาชีพคหกรรม เพื่อที่จบมาจะได้มาทำงานให้กับรีสอร์ทของเจ้าของมูลนิธิต่อไป
กลุ่มนักศึกษาได้ทำการรวบรวมข้อมูล และพบว่า เจ้าของมูลนิธิเคยมีคดีพรากผู้เยาว์ แต่เรื่องก็เงียบหายไป ทำให้มีความกังวลว่าเป็นผู้มีอิทธิพลและคิดว่าเรื่องนี้อาจจะรุนแรงเกินความสามารถตน จึงตัดสินใจแจ้งเข้ามาที่เพจเส้นด้าย ก่อนเป็นข่าวดังกล่าว