ผัวหึงโหดปาดคอเมีย ก่อนตายตาม ญาติตั้งโลงศพคู่กัน สะเทือนใจ ลูกสาวก้มกราบลาพ่อแม่
สามีใช้มีดปาดคอภรรยาก่อนจะใช้มีดเล่มเดียวกันปาดคอตัวเอง ล่าสุดสามีได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยญาติทำการตั้งโลงศพคู่กันเป็นครั้งสุดท้าย ลูกสาวกราบลาพ่อแม่ ก่อนจะทำพิธีเผาในช่วงบ่ายวันนี้
จากกรณีเหตุการณ์นายวิษรุตติ์ บุดดา อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นสามีก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำครัวปาดคอ น.ส.ภรณ์ทิพย์ กองแก้ว อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นภรรยาจนเสียชีวิต จมกองเลือดบนเตียงนอนจากนั้นฝ่ายสามีก็ใช้มีดเล่มเดียวกันปาดคอตัวเองเพื่อหวังฆ่าตัวตายตามเมียรัก แต่ฝ่ายสามีแค่อาการสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหล่มสัก และถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดพิษณุโลก เหตุเกิดช่วงคืนที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา โดยทางญาติเองก็เชื่อว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวงของสามีเลยลงมือก่อเหตุ ที่ผ่านมาทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันถึงขั้นลงมือลงไม้ทำร้ายร่างกาย แต่อยู่ๆ สามีกลับลุกขึ้นมาใช้อาวุธมีดปาดคอภรรยาและปาดคอตัวเองหวังจะให้ทั้งคู่ตายโดยไม่คำนึงถึงลูกทั้งสองที่ยังอยู่ข้างหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) นายวิษรุตติ์ ได้เสียชีวิตลงแล้วและญาติได้เดินทางไปรับศพของฝ่ายสามีกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลโดยทำการตั้งโลงศพทั้งสองเอาไว้คู่กันที่บ้านหลังเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านที่ร่วมกันสร้างขึ้นมา ซึ่งเป็นภาพที่สะเทือนใจของผู้ที่มาร่วมงานและกลายเป็นความเศร้าของบรรดาญาติของผู้ตาย โดยเฉพาะนาทีที่เด็กหญิง 2 คนที่เป็นลูกสาวทั้งคู่ต้องจุดธูปบอกลาร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นพ่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย ส่วนศพจะมีกำหนดพิธีฌาปนกิจขึ้นในวันนี้ที่เมรุวัดป่าเสี้ยว ตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
ด้านนางสมคิด พรมแสง อายุ 53 ปี แม่ยายกล่าวว่า ตั้งแต่ลูกสาวเสียชีวิตก็ไม่ได้มาเข้าฝันเลย มีแต่เมื่อวานที่ลูกสาวคนโตถ่ายรูปแล้วปรากฏเงาดำๆ คู่กัน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนหลานสาวยังไม่ได้คุยกัน รอให้เสร็จงานศพเสียก่อนถึงจะตัดสินใจ โดยหลานทั้ง 2 คนบางครั้งก็บ่นคิดถึงพ่อแม่ และต่อจากนี้ก็คงจะต้องช่วยกันดูแลหลานๆต่อไป
ขณะที่นางจิมไล้ บูดคา อายุ 55 ปี แม่ฝ่ายชายที่ปาดคอภรรยากล่าวว่า ตนได้จุดธูปบอกว่าให้ลูกชายและลูกสะใภ้ให้มาเข้าฝัน เพราะว่าตอนนั้นหาทองไม่เจอสักเส้นเลยซึ่งทองนั้นมูลค่า 7-8 บาทหายไปหมดเลย ซึ่งผู้ตายนั้นไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ยอมรับว่าเสียใจมาก ต่อจากนี้เด็กทั้ง 2 คนตนนั้นคงจะรับมาเลี้ยงดูไว้ที่บ้านเพราะว่าผู้ตายเคยพูดไว้ว่าลูกจะเชื่อฟังคุณอามากกว่า อยากจะให้หลานๆ ไปอยู่กับอา ซึ่งหลานก็มีบ่นถึงพ่อแม่ที่ตายไปเหมือนกัน ผู้ตายนั้นแต่ก่อนก็รักกันดีเวลาไปส่งผักส่งของก็ไปพร้อมกัน ดูแล้วไม่คิดว่าลูกชายตนนั้นจะเป็นคนร้ายอะไรแบบนั้นที่จะฆ่าคนได้ โดยหลานจะเอาไว้เลี้ยงดูที่นี่เพราะว่าทรัพย์สินของพ่อเด็กก็มีอยู่คงจะเก็บไว้ให้เด็กทั้งสองต่อไป
Advertisement
