“พล.อ.เสรีพิศุทธ์” พร้อมท้าชิงเก้าอี้นายกฯ หากได้เกิน 25 เก้าอี้
“พล.อ.เสรีพิศุทธ์” พร้อมท้าชิงเก้าอี้นายกฯ หากได้เกิน 25 เก้าอี้ อ้อน ปชช.10 ล้านเสียง ส่งเสรีรวมไทยบริหารประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พลเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังการจับฉลากหมายเลขเลือกตั้งปี 2569 ได้เบอร์ 12 ในการลุยเลือกตั้ง 2569 ว่า เลขนี้ถือว่าเป็นเลขวันแม่ และเป็นเลขที่ตั้งที่ทำการของพรรคเสรีรวมไทย อีกทั้งผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทยในเขตบางกอกน้อย ก็เบอร์ 12 เช่นเดียวกัน ก็เลยเลือกได้ง่าย
ส่วนในการเลือกตั้งครั้งนี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะได้กี่ที่นั่งในสภา พลเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวยอมรับว่าตอนนี้เราไม่ใช่พรรคใหญ่แล้ว เมื่อก่อนเราลงเลือกตั้งส่งผู้สมัครทีละ 400 เขต แต่รัฐธรรมนูญที่แก้ไปแก้มาเป็นเหตุให้ มีการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำให้คะแนนพรรคของเราคะแนนเสียงลดลง และการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา เราไม่ได้ สส. แบบแบ่งเขตเลยแม้แต่คนเดียว จึงทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเสรีรวมไทย ส่งผู้สมัคร โดยเน้น สส.บัญชีรายชื่อเป็นหลัก เมื่อเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วตนก็จะต้องได้เสียง 10,000,000 เสียง เป็นต้นไป
ซึ่งตนเห็นจากโพลก็ยังเหลืออีกตั้ง 40% ที่ยังไม่ได้ลงให้พรรคการเมืองใด ซึ่งก็น่าจะมาเป็นคะแนนของพรรคเสรีรวมไทย สัก 10,000,000 เสียง รัฐแล้วก็จะได้บริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเชื่อว่าตนมีความรู้ความสามารถมากว่า 50 ปี โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรค เสรีรวมไทยได้มีการส่งชื่อผู้สมัครสส. แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด 43 คน
เมื่อถามว่าสามารถจับมือกับทุกพรรคได้หรือไม่ พลเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคการเมืองก็มาจากประชาธิปไตยทั้งนั้น ซึ่งตอนเลือกตั้งปี 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เชิญตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตนมีทั้งหมด 10 เสียง แต่ตนได้ปฏิเสธไป เพราะมองว่า เป็นการยึดอำนาจมาจึงยอมอยู่เป็นฝ่ายค้าน หากถามว่าจับมือได้ทุกพรรคหรือไม่นั้น ทุกพรรคที่มาจากการเลือกตั้งเราไม่ปฏิเสธสามารถทำงานร่วมกันได้ และดำเนินในแนวทางที่ถูกต้อง แต่จะถูกต้องหรือไม่ก็ต้องดูว่าแต่ละพรรคซื้อเสียงหรือไม่
ซึ่งหาก กกต. สามารถควบคุมการซื้อเสียงได้ การเมืองก็จะบริสุทธิ์ เกิดความยุติธรรม ไม่มีการชกใต้เข็มขัด
เมื่อถามว่าหากพรรคเสรีรวมไทยได้เกิน 25 ที่นั่ง พร้อมชิงนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พลเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า“ พี่ท้าเลยไม่ได้โม้ ใครจะทำงานสู้กับพี่เล่า”
Advertisement
