
วันที่ 25 ธ.ค. หลังมีการเปิดตัวผู้สมัครสส.ครบ 400 เขต พรรคกล้าธรรม ได้มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า โดยได้แถลงนโยบายและอุดมการณ์ โดยร้อยเอกธรรมนัส ร่ายกลอน ว่า “แม้หนทางข้างหน้าจะว่างเปล่า แดดจะเผาจนผิวผ่องจนหมองไหม้ รู้ทั้งรู้ว่าที่ตรงโน้น มีหุบเหว มีเปลวไฟ ถ้าใจไม่กล้า จะก้าวไปได้อย่างไรพี่น้อง”
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวกับผู้สมัครว่า พี่น้องครอบครัวสมาชิกคนกล้าธรรม เชื่อว่าพี่น้องที่อยู่ตรงนี้ ไม่ต่ำกว่า 500 ชีวิต ทั้งบัญชีรายชื่อและแบ่งเขต เราได้รู้จักตัวตนมาแล้วว่ามีท่านใดบ้าง ตนเชื่อว่ามีพี่น้องคนไทยอีกมากมาย กำลังเฝ้าดูว่าวันนี้วิถีของคนกล้า เขาจะประกาศอะไร เขาจะทำอะไร ตนมักจะพูดเสมอว่า “ผมเป็นคนบ้า แต่บ้าของผมในที่นี้ บ้าที่จะทำงาน บ้าที่จะทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดิน” ตนเชื่อว่าทุกท่านที่นั่งอยู่แถวหน้า ล้วนแต่เป็นผู้มีประสบการณ์การเมือง ล่าสุดได้รับเกียรติจากอดีตรองประธานสภาฯ นายไชยา พรหมมา กล้าตัดสินใจ ร่วมสมาชิกร่วมอุดมการณ์กับพวกเรา
พร้อมขอบคุณ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง และเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของตน มาอยู่กับครอบครัวกล้าธรรม และมีอีกหลายๆ คน ทั้ง จ่าเอกยศสิง เป็นคนพูดน้อย แต่ทำมาก เขาถึงมาที่นี่เพราะเขาบ้าเหมือนกัน เพราะบางพรรค พูดดี ช่างคิด ช่างสร้าง พูดเพราะ นโยบายดี เป็นคนชอบคิด มีคนเก่ง แต่เมื่อออกนโยบายไปแล้ว พอได้มาเป็นรัฐบาลไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้เลย การแถลงนโยบายของรัฐบาลหลายรัฐบาล นโยบายขายฝัน เวลาหาเสียงจะทำนู่นทำนี่ รักพี่น้องประชาชนไหว้หมด ตั้งแต่ออกจากบ้านมายันเสาไฟฟ้า นโยบายขายฝัน ไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างที่พูด แต่เราไม่ทำ เรากล้าที่จะทำในสิ่งที่เราพูดแล้วทำ ประเทศไทยเรามีคนเก่ง คนฉลาด มีองค์ความรู้ แต่ถามว่าคนเหล่านั้นหากมีองค์ความรู้เป็นคนเก่ง เป็นคนช่างคิด เป็นคนช่างสร้างสรรค์ หากขาดความกล้าจะมีประโยชน์อะไร
เวลาตนให้สัมภาษณ์ ผู้ใหญ่ บอก ให้เบา ๆ แต่ตนเป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงมา ปากกับใจตรงกัน ไม่ต้องดัดจริต และเป็นของตนแบบนี้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พยายามจะคุมสติ มีผู้นำบางพรรคโจมตีตนและพรรคกล้าธรรม พยายามควบคุมสติว่า “ไม่เอาหน่า ยังไม่เริ่มเลย การเลือกตั้งยังไม่ได้สมัคร จะไปคิดแต่งตั้งรัฐบาลทำไม” แต่แล้วคนที่มีสติมากกว่าตน อย่าง น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์ นางนฤมล และสมาชิกสส.บอกว่า ยอมได้อย่างไร ตนจึงสวนไปแบบมีมารยาท เพราะความเป็นตัวตนของตนไม่สามารถเปลี่ยนได้
พร้อมกันนี้ เวลาบ้านเมืองมีวิกฤตตนเป็นคนแรกที่ลงพื้นที่ ยกจังหวัดน่าน น้ำท่วม ขึ้นป้ายบอกจะเอาร้อยเอกธรรมนัส เพราะแก้ปัญหาน้ำท่วมให้รวมถึงหาดใหญ่เป็นคนแรกที่ถึงหาดใหญ่ไปสั่ง ลูกน้องไม่กล้าเข้าพื้นที่เขต 8 และคลองร.1 เพราะน้ำเชี่ยว ซึ่งตนเองกล้าเข้าไปสั่งการเอง ไปช่วยหลายชีวิตให้พ้นวิกฤติ หากเราไม่บ้างาน เราทำไม่ได้ สำหรับคนกล้าธรรม พันธุ์อย่างเราต้องใช้หัวใจ และสมองกล้าทำ
โดยร้อยเอกธรรมนัส กล่าวถึงนโยบายว่า สิ่งแรกที่เราประกาศชัดเจน คือ การเปลี่ยนชีวิตคนฐานราก นั่นคือกลุ่มพี่น้องเกษตรกร เราจะทำคือที่ดินทำกิน หากมีโอกาสได้กลับมาดูแล ส.ป.ก. จะเปลี่ยน ส.ป.ก. ที่เหลือให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เราจะเปลี่ยนโฉนดเพื่อการเกษตร เป็นโฉนดครุฑแดง ให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ
ร้อยเอก ธรรมนัส ย้ำว่า 8 กุมภาพันธ์ จากนั้น 6 วัน คือวันวาเลนไทน์เรามาฉลองกัน และหลังจากนั้นสภาฯ เปิดเมื่อไหร่เราไปเจอกัน พรรคกล้าธรรม วันนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อมเป็นผู้นำในการเข้าสู่เวทีการเลือกตั้ง พร้อมนำคาราวานเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรให้เยอะที่สุดในแผ่นดิน และสิ่งสำคัญจะไม่ทำให้ผิดหวัง เราจะไม่ยอมปล่อยให้พวกท่านอยู่ข้างหลัง โดยลำพัง ผู้ชายชื่อ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นแบบนี้ อาจจะโผงผาง พูดจาไม่เพราะ เวลาลงพื้นที่ ทั้งสาวแก่แม่ม่าย ลูกหลานเยาวชน เข้ามาห้อมล้อม ขอกอด ขอเซลฟี่ ขอผูกเสี่ยว ก่อนทิ้งท้ายว่า เราทำมากกว่าพูด เพื่อคนไทย
เมื่อพูดถึงประโยคนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พูดผิด บอกว่า “ทำมากกว่าพืด” ถึงสองครั้งก่อนจะจะพูดถูก
Advertisement