
ป.ป.ช. ยืนยัน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ปม 44 สส.คาดยืดเยื้อถึงหลังปีใหม่ แจง ทุกคนมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ข้อมูลการพิจารณาคดี 44 สส.พรรคก้าวไกลที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าจะพิจารณามีกรอบพิจารณาเท่าไหร่อย่างไร คาดว่าจะมีการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ซึ่งมีความเป็นไปได้ตามขั้นตอน และกรอบของกฎหมาย อาจจะยื่นคำร้องเข้ามา 44 คน หากเป็นแบบนั้นต้องให้ ป.ป.ช.ทำเป็นรายคำร้อง ซึ่งต้องมีการพิจารณาควบคู่ไปกับคณะอนุกรรมการด้วย ทั้งนี้ ขอไม่กำหนดกรอบระยะเวลา
เมื่อถามว่าจะพิจารณาเสร็จสิ้นทันเดือนธันวาคมนี้ หรือไม่ แหล่งข่าว เปิดเผยว่า ป.ป.ช.มีกรอบไทม์ไลน์ตามขั้นตอนอยู่แล้ว หากมีการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการ ที่จะพิจารณาก่อนนำเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมการชุดใหญ่
หากมีคำร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาแนวโน้มการพิจารณาให้เสร็จสิ้นอาจล่วงเลยไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งล่วงเลยฤดูกาลเลือกตั้งไปแล้วหรือไม่ แหล่งข่าว ขอไม่ยืนยันไทม์ไลน์ที่แน่ชัด แต่มีความน่าจะเป็นว่าจะมีความพยายามที่จะยืดเวลาออกไป เพราะการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม จะเท่ากับเป็นการต่อเวลาในการวินิจฉัยเรื่องนี้ เพราะ 44 สส.เท่ากับ 44 คำร้อง จะต้องพิจารณาเป็นรายคำร้อง พร้อมยืนยันว่า ยังไม่ได้บอกว่ามีคำร้องขอความเป็นธรรมยื่นเข้ามาแล้ว
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รักษาการเลขาธิ ป.ป.ช.ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ขอความเป็นธรรม กรณีสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า ป.ป.ช.ทำงานล่าช้า แต่ต้องทำตามกรอบขั้นตอนที่กำหนดเป็นข้อบังคับ ซึ่งสิ่งที่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายต้องมีความละเอียด ตามใดในกรณีที่ยังไม่ชี้มูลบุคคลใดก็ตาม ถือว่าบุคคลนั้นยังบริสุทธิ์ ซึ่งกรณี 44 สส.นี้เกี่ยวข้องกับจริยธรรม และผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง และมีสิทธิ์พื้นฐานในการนำหลักฐานมาชี้แจง พร้อมยืนยันว่า กรณีนี้จะไม่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
Advertisement