
วันที่ 3 ธ.ค.68 เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิดนายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรีกับพวก กรณีผิดพลาด ล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด ทั้ง ๆ ที่รู้ปัญหามาก่อนล่วงหน้า ขาดมาตรการป้องกันและอพยพ ทำให้ประชาชนสิ้นเนื้อประดาตัว เศรษฐกิจของประเทศเสียหาย อันชี้ให้เห็นถึงความไร้ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นแต่การสร้างภาพลักษณ์ทางการเมือง แต่กลวงในภาคปฏิบัติจริง
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการเกิดสาธารณภัยประเภทอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้รวม 9 จังหวัดซึ่งเกิดมาตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.68 แต่นายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่รู้สภาพปัญหาแล้ว แต่กลับชะล่าใจ รับฟังข้อมูลแต่ฝ่ายการเมืองท้องถิ่นว่า “เอาอยู่” ทั้งๆที่ข้อมูลจากหน่วยงานรับผิดชอบชี้ว่าจะเกิดปัญหา จึงขาดมาตรการรองรับในการป้องกันภัย การอพยพประชาชน ทำให้เกิดความอลหม่าน และสับสนไม่รู้ว่าใครคือผู้บัญชาการเหตุการณ์ที่แท้จริง
การเกิดสาธารณภัยใด ๆ นั้นมีกฎหมายเฉพาะที่หน่วยงานราชการทุกหน่วยทราบดีอยู่แล้ว คือ พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 มีการกำหนดผู้บัญชาการเหตุการณ์ในทุกระดับตามสถานการณ์หนักเบาอยู่แล้ว ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ยันถึงรัฐมนตรีมหาดไทย และมีการกำหนดแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไว้ทั้งระดับชาติและระดับจังหวัด กำหนดภารกิจของแต่ละหน่วยงานไว้แล้ว เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้ทันทีที่เกิดสาธารณภัยใดๆ
แต่นายกรัฐมนตรีกลับเลือกใช้ พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 ตั้งฝ่ายการเมืองที่ไร้ประสบการณ์เข้าไปบัญชาการเหตุการณ์ และเมื่อเกิดเหตุในพื้นที่จังหวัดสงขลากลับเลือกปฏิบัติและใช้อำนาจโดยมิชอบในการใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 มาใช้เฉพาะจังหวัดสงขลา ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยตั้งผู้บัญชาการเหตุการณ์จนมั่วไปหมด ประชาชนสับสนไม่รู้จะฟังใคร หรือใครมีอำนาจในการสั่งการสูงสุด ส่วนอุทกภัยในพื้นที่อีก 8 จังหวัดที่เหลือกลับปล่อยให้พื้นที่ดูแลกันเอง
เมื่อเกิดความผิดพลาด ล้มเหลวในการบริหารจัดการอุทกภัยดังกล่าว กลับหาแพะมารับผิดแทนโดยการย้ายและสั่งให้นายอำเภอหาดใหญ่ออกจากราชการไว้ก่อน รวมทั้งสั่งย้าย ผกก.หาดใหญ่ออกจากพื้นที่ ทั้งๆที่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดในระดับจังหวัดคือ ผู้ว่าฯ กลับไม่แตะต้อง แต่ไปโทษท้องถิ่นแทน ถึงขนาดถูกนักการเมืองพวกเดียวกันกดดันให้ลาออก ทั้ง ๆ ที่บุคคลซึ่งสมควรที่จะต้องกดดันให้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบในความผิดพลาดล้มเหลวในกรณีดังกล่าวคือ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่างหาก
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์การรักชาติ รักแผ่นดิน จึงต้องนำความมาร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการไต่สวนและชี้มูลความผิดนายกรัฐมนตรีและพวกฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมทั้งฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ประเทศชาติเสียหายนั่นเอง นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
Advertisement