
ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม นานกว่า 3 ชั่วโมง ขณะที่นายสันธนะ เดินออกมาจากห้องสอบปากคำเพื่อที่จะขึ้นไปยังห้องควบคุมตัว ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมายืนยันว่า ไม่มีการออกหมายเรียก ส่วนการจับกุมในวันนี้ เป็นการควบคุมตัวไปเข้าพบอัยการ ซึ่งทั้งสำนักงานอัยการและศาลปิดทำการแล้ว ตำรวจจึงต้องควบคุมตัวตนไว้เพื่อนำส่งอัยการต่อไปในวันพรุ่งนี้ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ 1
มีความกังวลหรือไม่ นาย สันธนะ บอกว่า ตนไม่ใช่คนชอบสาบาน แต่ถ้าเรื่องนี้ตนทำผิดขอให้ฟ้าดินทำให้ตนอับอาย แต่เป็นเรื่องของการเมืองในขั้วที่มีปัญหากับตน ซึ่วเมื่อวานนี้มีพลตำรวจเอกโทรผ่านบุคคลที่ 3 เพื่อคุยกับตน ซึ่งตนรู้ว่าจะมีข้อแลกเปลี่ยน หากตนคุย เนื่องจากมีหมายจับออกแล้ว ก็จะเป็นการแลกเปลี่ยนกันหรือไม่
ส่วนที่มีการเรียกค่าไถ่คนไต้หวันนั้น ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักคนไต้หวันมาก่อน เพียงแค่เค้าเคยอาศัย รถคนติดตามตนมา ซึ่งมีเรื่องกันมาก่อน และตนช่วยเคลียร์ให้ เพราะเป็นพลเมืองดี และบุคคลดังกล่าวมีการโกงผู้เสียหายชาวไต้หวัน จำนวน 2.7 ล้าน ยูเอสดอลล่าร์ โดยตีเป็นเงินไทย 100 ล้านบาท และเมื่อเกิดเรื่องก็มีการเรียกรับเงินจากตนกว่า 6 ล้านบาท อีก
ส่วนในอดีตเคยจับแต่โจร วันนี้ต้องมาถูกควบคุมตัว นอนห้องขัง นาย สันธนะ บอกว่า ก็ต้องยอมรับหากคิดจะต่อสู้ เพราะวันนี้สู้กับฝ่ายการเมืองและอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม
ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการออกมาแฉนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชาหรือไม่นั้น นายสันธนะ ถามกลับว่า ใช่หรือไม่ ที่ผ่านมาตนพยายามนิ่ง ซึ่งวันนี้ยืนยันว่าไม่กลัวเพราะไม่ได้ทำผิด ทั้งยังขอให้ตำรวจควบคุมตัวที่ สน.ทองหล่อด้วย เพราะตนจะได้ใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ เช่นการดำเนินคดีฟ้องกลับ ทุกคน
หากเลวร้ายถึงขั้นต้องเข้าเรือนจำ ดีเหมือนกันตนจะได้ปรึกษากับพี่ใหญ่ที่เขารออยู่ข้างใน หากเข้าไปแล้วไม่กลัวคู่อริหรือไม่ สันธนะ กล่าวว่าหากให้ตนอยู่ข้างนอกก็เป็นเหมือนเจ้าพ่อ และหากเข้าไปข้างในเป็นเจ้าพ่อก็ไม่ต้องแปลกใจ พร้อมยืนยันว่า ไม่สามารถควบคุมตัวได้แน่นอนในคดี เพราะมีการทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย
ส่วนหลักฐานเด็ดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ขอให้ตตนพ้นภาระเรื่องนี้ ตนจะเดินเข้าพรรคการเมือง ประกาศตัวเป็นสมาชิกพรรค และจะสนับสนุนให้ข้อมูลฝ่ายการเมืองทั้งหมด ให้พังกันไปข้างหนึ่งก็ไม่เป็นไร พร้อมย้ำว่ามั่นใจ ว่าเกี่ยวกับการเมืองแน่นอน เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมา 4 ปีแล้ว
ส่วนที่ บังมัด คลองตัน ฝากเพื่อนสนิท นำ ข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวมาให้นั้น ฝากบอกบังมัดว่า ให้เอาไว้ไปเยี่ยมตัวเองกับพวกอีก 9 คน เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องดำเนินคดี
Advertisement