
จากกรณีที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง หรือ บิ๊กกุ้ง ที่ปรึกษาผู้บัญาการทหารบกและอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวในกิจกรรม "สานต่อความดี“ ที่พุทธสถานปฐมอโศก อ.เมือง จ.นครปฐม โดยได้กล่าวถึงการสู้รบกับกัมพูชาในช่วงวันที่ 24-28 ก.ค. 2568 ว่าหลังจากรบวันแรกได้เพียง 6 ชั่วโมง ก็มีคำสั่งจากผู้ใหญ่ให้หยุดยิง จนทำให้เกิดกระแสพูดถึงเป็นวงกว้างว่าใครเป็นคนโทรศัพท์สั่งการให้หยุด
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการที่ฟังแม่ทัพกุ้งพูด ยังไม่ได้พาดพิงถึงใคร โดยเฉพาะ พล.อ.ณัฐพล นาควานิช หรือ บิ๊กเล็ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ในกระแสโซเชียลมีการพาดพิงถึง พล.อ.ณัฐพล
โดยเหตุผลที่ตนเองตัดสินใจ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากอยากรู้เหตุการณ์ระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคมว่าเกิดอะไรขึ้น โดยมีโอกาสได้สอบถามกับ พลเอกณัฐพล ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้หยุดยิง
และไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่ง ส่วนตัวรู้สึกสบายใจขึ้นหลัง พลเอกณัฐพล ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่ากระแสข่าวตอนนี้ทำให้ พลเอกณัฐพล มีความเครียดหรือไม่ อาจารย์วันวิชิต ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพลเอกณัฐพล ให้การสนับสนุนกองทัพมาตลอด และที่แนวทางที่กองทัพทำงานได้ทุกวันนี้ ก็เพราะท่านด้วย ไม่มีการสมคบคิดแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสนาธิการทหารบก
ที่เติบโตมาจากกรมยุทธการทหารบก โดยเติบโตตามรอยพลเอกณัฐพล โดยบทบาทหน้าที่คือการให้อำนาจตัดสินใจกองทัพบก ยืนยันว่าฝ่ายการเมืองไม่ได้ไปแทรกแซงหรือไปครอบงำกองทัพ
เมื่อถามถึงกรณีทหารไทยที่เหยียบทุ่นระเบิดขาขาด รายที่ 7 ในวันนี้ อาจารย์วันวิชิต มองว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า คนไทยทั้งประเทศ จะไม่ทน ต้องมีการประณาม สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นระเบิดชนิดใหม่หรือไม่ ต้องรอข้อมูลยืนยัน จากกองทัพภาคที่ 2
โดยพลเอกณัฐพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการแถลงไปแล้วว่า จะชะลอการส่งเชลยศึก รวมถึงปฏิญญาทั้ง 4 ข้อ ต้องเลื่อนไปก่อน โดยเฉพาะเรื่องการส่ง เชลยศึก ในเร็วๆนี้ไม่ต้องพูดถึง และนำเรื่องราวดังกล่าว รายงานไปยังคณะผู้ตรวจการณ์ AOT หรือ ประเทศที่เป็นสักขีพยาน อย่างสหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ว่ากัมพูชาไม่ได้พิสูจน์ความจริงใจและตั้งใจแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อถามถึงโอกาสปะทะกันรอบสองเป็นไปได้หรือไม่ อาจารย์วันวิชิต เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 กองทัพภาคที่ 1 หรือ กองทัพบก มีการเตรียมความพร้อมสถานการณ์วันต่อวัน ดังนั้นทหารรับมือได้ทุกสถานการณ์ แต่การไม่นำไปสู่การปะทะกันอีกรอบ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะโลกกำลังจับตามองและกำลังจะบีบตัวของกัมพูชาให้จนตรอก
โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่บริจาคเงินกัมพูชา เช่น เกาหลีใต้และนอร์เวย์ ที่บริจาคให้กับกัมพูชา เก็บกู้ทุ่นระเบิด ให้ทบทวนอีกรอบ ของบประมาณที่ให้เงินสนับสนุนกัมพูชา ทางกัมพูชาใช้ตรงวัตถุประสงค์หรือไม่
Advertisement